หลังจากนำไม้เท้าที่ดูธรรมดาออกจากมิติหมอกมายังโลกความจริง ไคลน์เริ่มประกอบพิธีกรรมทันที
มันจุดเทียน เผาน้ำมันสกัดและผงสมุนไพรที่เกี่ยวข้อง ถอยหลังสองก้าว ท่องพระนามเต็มอันทรงเกียรติของเทพธิดาอย่างชำนาญและกล่าว
“ข้าขอสังเวยไม้เท้าแห่งชีวิตอันนี้ และปรารถนาจะได้รับการอวยพรจากพระองค์”
มันไม่ได้เอ่ยถึงหัวใจที่ผุกร่อนและผลึกขนน้ำแข็งของหมาป่าอสูรแห่งสายหมอกตรง ๆ เพราะนั่นจะเหมือนกับการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ไม่ใช่การสังเวยให้เทพและรอรับการอวยพร
แม้จุดอื่นของพิธีกรรมจะไม่ต้องเคร่งครัดมากนัก แต่ประเด็นด้านทัศนคติคือเรื่องสำคัญที่ไคลน์ให้ความสนใจ
ทันทีที่สิ้นเสียง แสงเทียนไขสองจากสามเล่มขยายใหญ่และซ้อนทับกัน ก่อตัวเป็นรูปทรงประตูมายาสีดำ
ประตูเปิดออกเชื่องช้า สายลมล่องหนพัดออกมา
สายลมดังกล่าวยกไม้เท้าแห่งชีวิตให้ลอยขึ้นและพัดเข้าไปในช่องว่างระหว่างบานประตูมายา อันตรธานหายท่ามกลางฉากที่ดูคล้ายอวกาศ คล้ายกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ทันทีหลังจากนั้น แสงสีขาวสว่างขึ้น วัตถุสองชิ้นพุ่งทะลุผ่านบาเรียล่องหนและตกลงบนแท่นบูชาโดยปราศจากเสียง
ชิ้นหนึ่งเป็นหัวใจประหลาดที่รายล้อมด้วยหมอกสีขาว อีกชิ้นหนึ่งเป็นผลึกขนน้ำแข็งที่นำพามาซึ่งอากาศเย็นเยียบ
ไคลน์เกิดความยินดีเป็นล้นพ้น รีบก้มศีรษะขอบคุณเทพธิดาสำหรับของขวัญ
เมื่อมันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ประตูมายาสีดำปิดตัวลงและจางหายอย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมรอบแท่นบูชากลับเป็นปรกติ
ฟู่ว…สำเร็จ…ไคลน์ถอนหายใจยาว เดินไปข้างหน้าสองก้าว หยิบหัวใจที่ผุกร่อนและผลึกขนน้ำแข็งของหมาป่าอสูรแห่งสายหมอก
พร้อมกันนั้น เมื่อจิตใจผ่อนคลายลง มันอดไม่ได้ที่จะผุดความคิดซึ่งห้ามพูดออกไป
ถ้ารู้ว่าจะราบรื่นแบบนี้ เราไม่น่าสังเวยไม้เท้าแห่งชีวิต…
แค่มัดรวมเศษขยะกองใหญ่ส่งให้พระองค์ก็น่าจะเพียงพอ…
บางที เราอาจไม่ต้องสังเวยอะไรเลยก็ได้…พิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ค่อนข้างแน่ชัดว่าพระองค์สนับสนุนให้เราเป็นปราชญ์โบราณ…
แต่แน่นอน หากไม่สังเวยอะไรไปแลกเปลี่ยน เราจะติดค้างหนี้กับพระองค์มากมาย และอาจต้องใช้คืนด้วยราคาแสนแพงในอนาคต…ดีแล้วที่ยอมสังเวยไม้เท้าแห่งชีวิตเพื่อความสบายใจของตัวเอง…
อา…ดูเหมือนว่าถ้าเรายังไม่ได้เป็นเทวทูตลำดับสอง พระองค์จะคอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครเดาได้ว่า หลังจากนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง…
ไคลน์สลัดความคิดฟุ้งซ่าน สิ้นสุดพิธีกรรมและเก็บกวาดแท่นบูชา
จากนั้น ชายหนุ่มเริ่มวางแผนจัดการกับ ‘สุนัขแห่งฟัลกริม ผู้พิทักษ์ปราสาทต้นกำเนิด’
นักมายากลจะไม่แสดงกลโดยไม่เตรียมตัวล่วงหน้า
…
ย่านทิศใต้ของสะพาน ถนนกุหลาบ
เลียวนาร์ดเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบตำรวจสีขาวดำ แต่ยังคงสวม ‘ถุงมือแดง’ และนำทีมของตนรวมถึงตำรวจจริง เดินทางไปยังวิหารของพระแม่ธรณีเพียงแห่งเดียวในกรุงเบ็คลันด์
อินทรธนูที่มันสวม ตรงกับตำแหน่งสารวัตรใหญ่ แต่ในความเป็นจริง ด้วยระดับของหัวหน้าทีมถุงมือแดง เลียวนาร์ดจะมีตำแหน่งในทางตำรวจเท่ากับผู้กำกับการ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับดังกล่าวมักไม่ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง การสวมอินทรธนูตามความจริงอาจสร้างความสงสัยให้คนรอบข้าง
เลียวนาร์ดกวาดสายตาผ่านประตูและพบว่า วิหารแห่งนี้ค่อนข้างร้าง มีเพียงสองคนด้านใน คนหนึ่งเป็นบิชอปชาวฟุซัคที่นั่งสวดมนต์ในแถวหน้าสุดอย่างเคร่งขรึมราวกับขุนเขา อีกคนเป็นนักบวชสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาล ผมสีดำ ตาสีแดง ใบหน้าหล่อเหลา กำลังทำความสะอาดพื้น
เอ็มลิน·ไวท์…เลียวนาร์ดพยักหน้าแผ่วเบา เดินไปตามทางเพื่อเข้าใกล้บิชอปยูทรอฟสกี้
มันกระแอมสองหน ส่งผลให้บิชอปลูกครึ่งคนยักษ์ลืมตาขึ้นมามอง
“ผมเป็นสารวัตรของกรมตำรวจเบ็คลันด์” เลียวนาร์ดแสดงบัตรประจำตัวและพูดต่อ “ทางเราอยากเชิญคุณไปที่สถานีเพื่อสอบสวน”
หลวงพ่อยูทรอฟสกี้ลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน ถามเสียงสงบนิ่ง
“เรื่องอะไรหรือ”
“ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแจ้งเข้ามาว่า คุณมีพฤติกรรมไม่ปรกติ อาจเป็นสายลับของเฟเนพ็อตหรือฟุซัค” เลียวนาร์ดเล่าเหตุผลที่เตรียมไว้
ขณะเดียวกัน มันเตรียมพร้อมที่จะกระชากบิชอปยูทรอฟสกี้เข้าสู่ความฝัน และถ้าหากข้ารับใช้รายนี้ขัดขืน มันก็ไม่ลังเลที่จะใช้กำลังเข้าควบคุมตัว
ด้วยการแบ่งทีมของถุงมือแดง ตราบใดที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับครึ่งเทพตัวจริง โอกาสพ่ายแพ้ศัตรูเพียงคนเดียวนั้นต่ำมาก ต่อให้อีกฝ่ายเป็นข้ารับใช้ที่ถือครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่เลียวนาร์ดจะออกปฏิบัติการ มันทำเรื่องเบิกสมบัติปิดผนึกระดับ 1 กับทางโบสถ์ ส่งผลให้ภารกิจถูกเลื่อนออกมานานจนกระทั่งปัจจุบัน
หลวงพ่อยูทรอฟสกี้เงียบไปสองสามวินาที ชำเลืองไปทางเอ็มลิน·ไวท์ที่ยืนข้างเชิงเทียน
สีหน้าที่ซับซ้อนของเอ็มลินพลันแข็งทื่อ มันอ้าปาก แต่มิได้กล่าวคำใดออกมา
หลวงพ่อยูทรอฟสกี้ถอนสายตากลับพลางพยักหน้า
“ตกลง”
…ยอมร่วมมือแต่โดยดี? เราเคยคิดว่าจะเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้น ถึงกับต้องเตรียมการมากมายเพื่อไม่ให้มีใครโดนลูกหลง…เลียวนาร์ดผงะเล็กน้อย ยิ้มและกล่าว
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ”
หากเกิดการต่อสู้ที่ทำให้ข้ารับใช้ของพระแม่ธรณีบาดเจ็บ เลียวนาร์ดเชื่อว่า สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วจะทวีความเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ