เขตตะวันออก บ้านเช่าแบบสองห้องนอน
ไคลน์ที่รับจดหมายตอบจากไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ ดึงเก้าอี้ออกมานั่งลง คลี่กระดาษอ่าน
เธอรู้ถึงการดำรงอยู่ของมิสเตอร์ประตู แถมยังรู้วิธีใช้สายเลือดอับราฮัมในการติดต่อกับท่าน…ทริสซี่สามารถทนฟังเสียงเพรียกของมิสเตอร์ประตูได้หรือ? ไม่กลัวจะเกิดภาวะคลุ้มคลั่ง? ดูเหมือนเธอจะมั่นใจมากว่าอีกฝ่ายเป็นใคร…ความรู้จากแม่มดบรรพกาล? แต่ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วทำไม ‘แม่มดขาว’ คาร์เทอริน่าถึงต้องตามล่าเธอ? ไคลน์อ่านเนื้อหาของจดหมาย ภายในใจผุดคำถามมากมาย
เนื่องจากสิ่งที่ทริสซี่เล่าอยู่ในขอบเขตที่ไคลน์เข้าใจ มันจึงเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก และแผนการที่เสนอมาก็ฟังดูเป็นไปได้มากทีเดียว
แต่แน่นอน แผนการนี้จะสำเร็จได้ต้องบรรลุเงื่อนไขสามข้อ หนึ่ง ต้องรู้จักพิธีกรรมที่ถูกต้อง สอง ต้องมีเลือดหรือวัสดุที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกตระกูลอับราฮัมเป็นสื่อกลาง และสาม ผู้ให้ต้องยินยอมแบกรับความเสี่ยง
จากทั้งสามประเด็น ไคลน์ไม่มีข้อมูลในข้อแรก และค่อนข้างเป็นกังวลกับข้อที่สาม หากเป็นไปได้ก็อยากใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่านี้ ส่วนทริสซี่ ดูเหมือนเธอจะสนใจแค่ข้อที่สอง
สำหรับเรา การตามหาทายาทตระกูลอับราฮัมไม่ใช่เรื่องยาก สามารถติดต่อผ่านมิสเมจิกเชี่ยนโดยตรง แต่ถ้าต้องให้ใครมอบเลือด เนื้อ หรือกระดูกให้ทริสซี่ หมายความว่าคนคนนั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกสาป…ไคลน์รู้จักเส้นทางแม่มดเป็นอย่างดี ทราบว่าพวกหล่อนชำนาญการสาปแช่งมากแค่ไหน
ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์พบทางออกที่ไม่ซับซ้อน นั่นคือการใช้เส้นผมหรือกระดูกของคนตาย
มันยังไม่ลืมว่า มิสเมจิกเชี่ยนเคยเล่าให้เดอะฟูลฟัง ถึงเรื่องที่เคยฝังศพสุภาพบุรุษที่ชื่อลอว์เรนซ์ ชายคนนั้นเป็นลูกหลานตระกูลอับราฮัมอย่างไม่ต้องสงสัย
หวังว่าเขาจะยังไม่ถูกเผา…แม้นี่จะถือเป็นเรื่องเสียมารยาทต่อศพ แต่การติดต่อกับมิสเตอร์ประตูก็มีความจำเป็นต่อการขจัดคำสาปของตระกูลอับราฮัม การใช้คนตายนั้นดีกว่าให้คนเป็นต้องมาเสี่ยง…เราต้องอ้างกับทริสซี่ว่า นี่เป็นเงื่อนไขที่ตระกูลอับราฮัมยื่น หากต้องการนำชิ้นส่วนไปประกอบพิธีกรรม…
อันดับแรก เราต้องยืนยันให้ได้ว่าทริสซี่แค่ต้องการพูดคุยกับมิสเตอร์ประตู ไม่ใช่ดึงท่านกลับสู่โลกแห่งความจริง… ท่านมีระดับตัวตนที่สูงส่ง คงเป็นการยากที่จะทำนายและได้รับคำตอบ…แต่จักรพรรดิโรซายล์เคยเล่าว่า พิธีกรรมในการพาตัวมิสเตอร์ประตูกลับมานั้นมีความซับซ้อนมาก มิอาจทำได้โดยการใช้ลูกหลานเพียงไม่กี่คน…อา…เราคงต้องฝากให้ราชินีเงื่อนงำกับชารอนช่วยตรวจสอบตลาดมืดของกรุงเบ็คลันด์ ดูว่ามีใครพยายามกว้านซื้อวัตถุดิบและคนไปบ้างไหม…ไคลน์พยักหน้าเล็กน้อย ตัดสินใจแวะไปหามิสเมจิกเชี่ยนเพื่อเร่งต้นฉบับ
…
เขตเหนือ ถนนเฟลป์
บนเก้าอี้ม้านั่งริมทางเท้า บุรุษหน้าเรียวหน้าผากกว้างคนหนึ่ง แต่งกายในเสื้อนอกสีดำและหมวกผ้าไหม จ้องไปทางต้นเมเปิ้ลอินทิสที่มีใบสีเหลืองด้วยสายตาเหม่อลอย
บนตาขวา มันสวมแว่นตาขาเดียวที่แกะสลักจากผลึกแก้ว ช่วยมอบบรรยากาศสง่างาม
ทันใดนั้น ชายชราคนหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังวิหารนักบุญแซมมวล พบความผิดปรกติในตัวชายหนุ่ม จึงหยุดและถามเสียงเบา
“พ่อหนุ่ม กังวลเรื่องอะไรอยู่หรือ? สูญเสียบางสิ่งไปในสงคราม?”
มันสงสัยว่า ชายคนนี้คงสูญเสียญาติ คนรัก หรือเพื่อนสนิทไปในการโจมตีทางอากาศ หรือไม่ก็ศึกแนวหน้าที่ยังคงดุเดือด จึงมานั่งริมถนนด้วยสายตาเหม่อลอย
ชายหนุ่มยกมือขึ้นจับแว่น ถอนหายใจพลางส่ายหน้า
“ผมแค่กำลังคิดเกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อน”
“เป็นนักปรัชญาหรือ?” ชายชราผงะในตอนต้น ก่อนจะโพล่งขึ้น
“เปล่า…ผมแค่ชอบตั้งคำถามเชิงปรัชญา เช่น ตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน และกำลังจะไปไหน” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนก่อนจะกลับไปทำหน้าครุ่นคิด พึมพำบางสิ่งออกจากปากเป็นระยะ
เมื่อชายชราพบว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ยากจะหยั่งถึง จึงส่ายหน้าและเดินจากไปอย่างไม่รีบร้อน ท่ามกลางการจ้องมองจากสุนัขข้างถนน นกกระจอกบนต้นไม้ มดดิน และจุลินทรีย์ในอากาศ
ชายคนเดิมยังคงไม่หันหน้าหนี ขณะใบหน้าสีเหลืองร่วงหล่นจนสะท้อนลงบนผิวแว่นตาขาเดียว มันพึมพำกับตัวเอง
“ยึดร่าง…” “ไม่ยึดร่าง…” “ยึดร่าง…” “ไม่ยึดร่าง…”
“เฝ้ามองเหยื่อ…” “กินเหยื่อ…” “เฝ้ามองเหยื่อ…” “กินเหยื่อ…”
…
เมื่อได้รับเส้นผมของศพลอว์เรนซ์จากมิสเมจิกเชี่ยน และตำนานสยองขวัญในโรงพยาบาลเบ็คลันด์เริ่มถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ทัสซอค ไคลน์รอคอยอย่างอดทน ขณะเดียวกันก็รับปากมิสเมจิกเชี่ยนว่าจะพาไปยังสถานที่ใหม่เพื่อให้เธอบันทึกทิวทัศน์และวัฒนธรรม
เพียงพริบตา สัปดาห์ใหม่ก็มาถึง ไคลน์รับประทานอาหารกลางวันและเตรียมงีบสั้น ๆ เพื่อรอเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ตอนบ่ายสามโมงตรง
ทันใดนั้น ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์เจ้าของสีหัวทองตาแดงเดินออกจากส่วนลึกของความว่างเปล่า ปากข้างหนึ่งงับถุงผ้าลินิน
“จากใคร?” ไคลน์เกิดลางสังหรณ์ประหลาดและยากอธิบาย ไม่กล้าเอื้อมไปหยิบพัสดุที่มิสผู้ส่งสารถือ
สามศีรษะของไรเน็ตต์กล่าวเรียงกัน
“รา…” “ชา…” “เห็ด…”
“ที่…” “เปลี่ยนไป…” “โดยสิ้นเชิง…”
มาเป็นประโยค…เราพอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น…ไคลน์เผยรอยยิ้มพร้อมกับเหยียดแขนออกไปรับพัสดุ
ทันทีที่เปิดถุง มันได้พบกับปีศาจ ไม่สิ เห็ดหลากหลายชนิด
บางดอกมีสีขาวล้วน คล้ายกับจะพ่นน้ำนมออกมาได้ด้วยการบีบแผ่วเบา บางดอกมีสีดำ ทรงอ้วนป้อม มีเส้นใยสีเลือด บางดอกมีรูปดาวสีทองบนผิว หมวกเห็ดใหญ่เท่าฝ่ามือ
กระทั่งปัจจุบัน เห็ดเหล่านี้ยังคงยุบพองเล็กน้อย ราวกับต้องการแพร่พันธุ์เส้นใยและสปอร์
ไคลน์กลืนน้ำลาย หยิบจดหมายท่ามกลางกองเห็ด คลี่ออกมาอ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ