ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1236

ดวงจันทร์สีเงินสว่างท่วมท้นการมองเห็นของราชาหมอผีคารามันอย่างรวดเร็ว

ดวงจันทร์ตรงหน้าแตกต่างจากดวงจันทร์สีแดงตามปรกติ และไม่ใช่จันทราโลหิตที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ลักษณะดูคล้ายกับดวงจันทร์พิสดารที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็มีบางจุดที่แตกต่างออกไป

แสงจันทร์สีเงินฉาบลงบนร่างกายและดวงตาคารามัน ส่งผลให้มันถูกตัดขาดจากอิทธิพลของดวงจันทร์สีแดง

กล่าวคือ ระหว่างที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปรกติ คารามันจะมิอาจใช้พลัง ‘จำแลงแสงจันทร์’ หรือใช้พลังเพื่อเทเลพอร์ตในขอบเขตแสงสว่างของพระจันทร์สีแดง

ทันใดนั้นเอง ราชาหมอผีแห่งเส้นทางจันทราพลันผุดความคิดหนึ่ง:

ลิลิธ!

ลิลิธ เทพธิดาบรรพกาลผู้เคยครอบครองเส้นทางจันทรา!

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอยู่เหนือความคาดหมายของเอ็มลินโดยสิ้นเชิง แต่สำหรับชารอนที่เชี่ยวชาญการควบคุมอารมณ์และความคิด เธอไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หลังจากแปลงกายเป็นหุ่นกระบอกคารามันเสร็จก็ทำการกระชากเส้นผมสีขาวสลับดำบนหน้าผากออกมา

แทบจะในเวลาเดียวกัน เส้นผมบนหน้าผากของราชาหมอผีพลันหลุดร่วงหนึ่งกระจุกโดยที่ยังมิได้ถูกโจมตี

บานประตูอัญเชิญที่มันเพิ่งเปิดออกถูกหลอมละลายโดยแสงอาทิตย์สว่างเจิดจ้าของ ‘เนตรสีขาว’

นี่มิได้เป็นเพราะเทวทูตของโรงเรียนกุหลาบที่ถูกอัญเชิญมาพ่ายแพ้ต่อการโจมตีของสมบัติปิดผนึกระดับ 1 แต่เป็นเพราะบานประตูอัญเชิญไม่สามารถคงสภาพไว้ได้อีกต่อไป

นอกจากนั้นราชาแห่งคำสาป บาร์รันก้า เพิ่งจะทำได้เพียงเหยียดแขนทั้งสองข้างออกมา จึงมิอาจส่งพลังผ่านการเสด็จเยือนได้มากนัก ออร่าชั่วร้ายที่แทรกซึมมายังโลกความจริงจึงถูกชำระล้างโดยเนตรสีขาวจนไม่สามารถสร้างอิทธิพลกับชารอนและเอ็มลิน

เมื่อบานประตูอัญเชิญหายไป บาร์รันก้าก็ไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปยังตำแหน่งเดิมของตัวเอง ต้องรอจนกว่าราชาหมอผีคารามันจะทำการสวดวิงวอนครั้งถัดไป

แต่ในฐานะเทวทูต มันสามารถตอบสนองคำวิงวอนได้จากทั่วทุกมุมโลก!

เมื่อพบว่าเส้นผมสีขาวสลับดำหลุดร่วง ชารอนที่อยู่ในร่างหุ่นกระบอกคารามันไม่มัวรีรอ รีบเลื่อนมือขวาลงจากหน้าผากเล็กน้อยเพื่อบีบรอยแยกขนาดใหญ่ที่ดูคล้าย ‘จันทราโลหิต’ ให้ปิดเข้าหากัน

คารามันแผดเสียงกรีดร้องทันที เนื้อกลางหน้าผากเริ่มเละขณะพยายามดันเข้าหากันเพื่อถมรอยแยก ‘พระจันทร์เต็มดวง’ ขนาดเล็ก

นี่คือหนึ่งในพลังพิเศษของหุ่นกระบอก ลำดับ 4 แห่งเส้นทางมนุษย์กลายพันธุ์ ชื่อของมันคือ ‘ต้นตอคำสาป’

นอกจากการสร้างอิทธิพลต่อสิ่งไม่มีชีวิต หุ่นกระบอกยังสามารถแปลงกลายเป็น ‘หุ่นกระบอกคน’ หรือ ‘กระดาษคน’ ได้ด้วย จากนั้นก็อาศัยการเชื่อมต่อที่สร้างขึ้นเพื่อสาปใส่เป้าหมาย

พลังพิเศษชนิดนี้จะถูกยกระดับเชิงคุณภาพในลำดับ 3 สำหรับการใช้งานในลำดับปัจจุบันจะทำให้เกิดความเสียหายต่อทั้งศัตรูและตัวเอง ครึ่งเทพในลำดับหุ่นกระบอกจึงมักไม่นิยมใช้งานในสถานการณ์ทั่วไป

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หุ่นกระบอกต้องทำร้ายศัตรูด้วยการทำร้ายตัวเอง

การที่ชารอนกล้าทำเช่นนี้เพราะเธอมั่นใจว่า เมื่อทั้งตนและศัตรูต่างอยู่ในลำดับ 4 เหมือนกัน ตัวเธอที่ผ่านลำดับซอมบี้และวิญญาณอาฆาตมาย่อมได้เปรียบกว่า ‘แวมไพร์’

หลังจากที่ทราบล่วงหน้าว่าราชาหมอผีคารามันถือครองสมบัติปิดผนึกระดับ 1 ‘แม่ทัพไร้รูม่านตา’ ชารอนก็ไม่คิดจะสิงร่างอีกฝ่ายโดยตรง แผนของเธอคือการใช้ร่างหุ่นกระบอกคนเพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับคารามันเชื่อมโยงด้วยคำสาป

การดึงกระจุกผมของคารามันออกมาคือสัญญาณของการใช้คำสาป การปิดจันทราโลหิตเต็มดวงกึ่งกลางหน้าผากก็เพื่อป้องกันมิให้อีกฝ่ายสร้างบานประตูแห่งการอัญเชิญ ป้องกันมิให้เทวทูตของโรงเรียนกุหลาบเข้ามาแทรกแซงในการต่อสู้

แต่แน่นอน คารามันซึ่งเป็นครึ่งเทพย่อมไม่ตายไปง่ายๆ เพียงเพราะคำสาป

ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันจะใช้ ‘จำแลงแสงจันทร์’ หรือไม่ก็ ‘จำแลงค้างคาว’ เพื่อลดทอนความเสียหายจากคำสาป จากนั้นก็อาศัยความเร็วในการหลบหนีและหาโอกาสเปล่งพระนามเต็มอันทรงเกียรติของครึ่งเทพโรงเรียนกุหลาบ ทว่าหลังจากถูกเล่นงานโดยดวงจันทร์สีเงิน ร่างกายของมันประสบภาวะแข็งทื่อจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดังใจนึก

หลังจากขบคิดอยู่พักใหญ่ หุ่นกระบอก ‘แม่ทัพไร้รูม่านตา’ บนไหล่คารามันพลันยืนขึ้นพร้อมกับแผดเสียงที่ชวนให้แสบแก้วหู

กระจกหน้าต่างโดยรอบแตกกระจายพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ชารอนประหนึ่งห่ากระสุน ในเวลาเดียวกัน ลูกแก้วทรงดวงตาที่ไม่มีใครควบคุมเริ่มลอยขึ้นฟ้าด้วยตัวเองก่อนจะสร้างเสาลำแสงขนาดใหญ่ที่มีเกลียวเปลวเพลิงหมุนวนอยู่ด้านใน

เสาลำแสงตกลงบนร่างชารอน ส่งผลให้บริเวณโดยรอบสว่างไสวราวกับกลางวัน

แม่ทัพไร้รูม่านตาสามารถสร้างอิทธิพลต่อสมบัติวิเศษที่ปราศจากผู้ใช้งานเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง!

ท่ามกลางลำแสงสุริยัน ร่างชารอนที่อยู่ในรูปลักษณ์คารามันเริ่มหลอมละลายด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว เศษกระจกหน้าต่างครึ่งหนึ่งถูกแสงสุริยันแผดเผาจนละลาย แต่อีกครึ่งเสียบเข้าไปในตัวชารอน

คารามันส่งเสียงโหยหวนอีกครั้ง ร่างกายเอ็มลินพลันเย็นยะเยียบราวกับเลือดในตัวกำลังแข็ง

รูพรุนสีแดงปรากฏบนตัวคารามันจำนวนมาก ร่างของราชาหมอผีเริ่มละลายราวกับเทียนไขที่ถูกโยนลงเตาหลอม อวัยวะทุกส่วนอ่อนนุ่มพร้อมกับแปรสภาพเป็นของเหลวคล้ายไขมัน

ทุกความเสียหายที่เกิดกับ ‘ต้นกำเนิดคำสาป’ จะถูกสะท้อนไปหาเป้าหมาย!

คารามันที่เป็นครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบย่อมทราบเรื่องนี้ การลงมือเมื่อครู่ทำไปเพื่อหวังให้ชารอนยกเลิกคำสาป

ตามหลักศาสตร์เร้นลับ เวทมนตร์ในขอบเขตสุริยันย่อมสร้างความเสียหายต่อสิ่งมีชีวิตประเภทชั่วร้ายอย่างหุ่นกระบอก วิญญาณอาฆาต ซอมบี้ และมนุษย์หมาป่าได้รุนแรงกว่าแวมไพร์ ศาสตราจารย์โอสถ ปราชญ์สีชาด และราชาหมอผี!

กล่าวคือ ‘ลำแสงเพลิงสุริยัน’ จะทำให้ร่างชารอนสลายไปโดยที่คารามันแค่บาดเจ็บหนัก นอกจากนั้นครึ่งเทพเส้นทางจันทรายังมีความสามารถในการฟื้นตัวที่สูงมาก

เพียงเสี้ยววินาที คารามันอาศัยความรู้เชิงศาสตร์เร้นลับเพื่อวิเคราะห์จุดอ่อนของ ‘ต้นตอคำสาป’ และเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการเล่นงานศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ในเวลาเดียวกัน หลังจากเอ็มลิน·ไวท์ที่สูญเสียเนตรสีขาวทำการอัญเชิญดวงจันทร์ประหลาด มันเริ่มได้สติกลับมาและรีบหยิบสมุดเวทมนตร์ปกแข็งสีเขียวขี้ม้าออกมาเปิดไปยังหน้าหนึ่ง

เสียงคล้ายบางสิ่งปริแตกดังขึ้นพร้อมกับเส้นสายฟ้าสีเงินที่ผุดขึ้นจากความว่างเปล่า เส้นสายฟ้าเหล่านั้นถักทอเข้าด้วยกันจนกลายเป็นพายุลูกใหญ่ที่แผ่ออร่าคุกคามเหนือพรรณนา เพียงพริบตาพายุก็กวาดลงบนร่างราชาหมอผีคารามัน

บันทึกการเดินทางของเลมาโน่ พายุสายฟ้า!

คารามันที่ปราศจาก ‘จำแลงแสงจันทร์’ และพลังจำพวก ‘บลิงค์’ ระยะสั้นย่อมหลบพายุไม่พ้น สายฟ้าสีเงินสว่างทุกเส้นกระหน่ำฟาดใส่ราชาหมอผีรายนี้อย่างหนักหน่วง

ชารอนฉวยโอกาสดังกล่าวยกเลิก ‘ต้นกำเนิดคำสาป’ เพื่อป้องกันมิได้ร่างกายของตนได้รับความเสียหายแบบเดียวกับอีกฝ่าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ