ขณะเข้าไปในสุสานของจักรพรรดิมืด แบร์นาแดตเห็นเงาดำเลือนราง แต่หลังจากออกจากสภาวะเชิงข้อมูลและสร้างร่างกายด้วยข้อมูลบริสุทธิ์ เธอกลับไม่เห็นสิ่งใดเลย คล้ายกับเมื่อครู่เป็นเพียงภาพหลอน
ราชินีเงื่อนงำไม่รีบร้อนเข้าไปในหลุมศพ เพียงยืนอยู่ในตำแหน่ง ตรวจสอบสถานการณ์รอบตัวด้วยความระมัดระวัง
โดยไม่ต้องใช้พลังส่องความลับ ทุกสิ่งถูกนำเสนอตรงหน้าอย่างชัดเจน
ภายในสุสานจักรพรรดิมืดนั้นว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากกำแพงสีดำและเวทียกสูงในจุดกึ่งกลาง
บนเวทียกสูงมีที่นั่งขนาดใหญ่คล้ายกับสร้างให้คนยักษ์ ทำจากเหล็กล้วน ผิวสลักลวดลายประหลาดอันซับซ้อนและบิดเบี้ยว ส่วนบนของพนักพิงยื่นขึ้นไปเป็นรูปร่างมงกุฎ
ปัจจุบันยังไม่มีร่างใดกำลังนั่งอยู่ ประหนึ่งกำลังเฝ้ารอการกลับมาของจักรพรรดิ
ขณะแบร์นาแดตเตรียมก้าวไปข้างหน้าเพื่อเข้าใกล้เวทียกสูง เธอพบว่าร่างกายของตนมิอาจขยับเขยื้อน ประหนึ่งถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนล่องหน
ทันใดนั้น ปีกมายาสีขาวคู่หนึ่งสยายออกจากแผ่นหลัง คล้ายกับเฝ้าคอยที่จะตอบสนองต่อบางสิ่งตลอดเวลา
วินาทีถัดมา บนปีกเทวทูตคู่ดังกล่าว ขนสีขาวร่างกราวลงมาทีละหนึ่ง ทุกเส้นมีแขนขาผิดรูปงอกขึ้นมาขณะลอยอยู่กลางอากาศ ช่องว่างซึ่งเกิดจากการหลุดร่วงของเส้นขนเริ่มเปิดออก ดูคล้ายกับดวงตาจำนวนมาก
ขนที่กลายพันธุ์ส่งเสียงหัวเราะทันที สร้างความกังวานภายในอุโมงค์ทางเดิน
พวกมันทั้งหมดมีชีวิตขึ้นมาในสภาพ ‘มนุษย์ขนนก’ ตัวจิ๋ว
ฉากตรงหน้าทำให้แบร์นาแดตหวนนึกถึงนิทานปรัมปราบางเรื่องที่บิดาเคยเล่าให้ฟัง เนื้อหาเกี่ยวกับภูตจิ๋วขนาดไม่เกินนิ้วหัวแม่มือ
ท่ามกลางกระแสความคิด แบร์นาแดตพบว่าตาขวาของเธอเริ่มคัน
ขนตาข้างดังกล่าวงอกยาวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นท่อนแขนขนาดเล็กซึ่งเย็บติดกับใบหน้าหญิงสาว พยายามควักลูกตาของเธอออกมา
“ข้าเห็นแล้ว! เข้าเห็นแล้ว!” หลอดเลือดในดวงตาข้างขวาของแบร์นาแดตพลันปูดโปน ตามด้วยส่งเสียงตะโกนอย่างไร้เดียงสา คล้ายกับมีจิตสำนึกและเจตจำนงเป็นของตัวเอง
เป็นอีก ‘ชีวิต’ ที่ถือกำเนิด
แทบจะในเวลาเดียวกัน หูซ้ายของแบร์นาแดตพับลงมาปิดรูหู
“ข้าไม่อยากได้ยิน! ข้าไม่อยากได้ยิน!” หูข้างดังกล่าวตะโกนเสียงแหลม
หากไม่มีสัมผัสวิญญาณ แบร์นาแดตคงเข้าใจว่ามีเด็กผู้หญิงตัวเล็กยืนอยู่ด้านข้างคอยปิดหูของเธอและแหกปากพลางกระทืบเท้า
ทันใดนั้น รัดเกล้านักปราชญ์ซึ่งอยู่กึ่งกลางหน้าผากของหญิงสาว ละทิ้งร่างผู้เป็นเจ้าของพร้อมกับลอยขึ้นไปในอากาศด้วยเจตจำนงตัวเอง
พื้นผิวของดวงตาแนวตั้งเลี่ยมเพชรพลันส่องแสงเย็นเยียบคล้ายน้ำแข็งออกมาหลายเส้น ดูคล้ายกับดวงตาขนาดเล็กเรียงราย
ทุกสายตากำลังสะท้อนภาพของแบร์นาแดต
แม้แต่รัดเกล้านักปราชญ์ก็ได้รับชีวิตเช่นกัน
ขณะสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ชิ้นนี้กำลังจะตื่นขึ้นและสร้างอิทธิพลต่อเป้าหมาย ฝ่ามือลวงตายาวเรียวสีซีดได้ยื่นออกมาคว้าไว้
สัญญาณชีพของรัดเกล้านักปราชญ์สลายไปในพริบตา ราวกับดำเนินมาถึงจุดจบของชีวิต
ฝ่ามือสีซีดอันเย็นยะเยือกซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นของสตรี เหยียดมาจากด้านหลังร่างกายแบร์นาแดต เจ้าของท่อนแขนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีเพียงร่างกายท่อนบน
ร่างดังกล่าวโผล่ออกจากแผ่นหลังของแบร์นาแดต ลักษณะโปร่งใสจนเกือบจะลวงตา
‘เธอ’ แต่งกายแบบเดียวกับแบร์นาแดตทุกประการ สวมหมวกสามมุมติดขนนกเหมือนกัน ดวงตาสีฟ้าประหนึ่งภาพวาดท้องทะเล ไม่ว่าจะมองมุมใดก็เป็นแบร์นาแดต ราวกับร่างวิญญาณบางส่วนถูกแบ่งออกมา
แต่ใบหน้าของ ‘ร่าง’ ดังกล่าวกำลังสวมหน้ากากโลหะแวววาวสีซีด
หน้ากากดังกล่าวมีช่องว่างเพียงบริเวณดวงตา ส่วนที่เหลือถูกปกปิดมิดชิด ส่งผลให้ภาพมายาของแบร์นาแดตดูเย็นชาและสง่างาม แต่ขาดออร่าของความมีชีวิตชีวา
นี่คือสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ชิ้นที่สามและชิ้นสุดท้ายที่เธอครอบครอง เป็นวัตถุที่สร้างโดยจักรพรรดิโรซายล์ในช่วงบั้นปลายชีวิตหลังกลับจากทวีปใต้ ชื่อของมันคือ ‘ความตายสีจาง’
ผลข้างเคียงด้านลบก็คือ ผู้สวมใส่จะค่อยๆ เผชิญความตายจนกระทั่งกลายเป็นศพและเป็นทาสของมัน
ในสถานการณ์ตรงหน้า แบร์นาแดตใช้ประโยชน์จากมันเพื่อระงับสัญญาณชีพซึ่งเติบโตอย่างผิดปรกติภายในร่างกาย
เมื่อภาพมายาครึ่งตัวปรากฏขึ้น ดวงตาข้างขวาของเธอพลันสงบลง ขนตาซึ่งกลายเป็นแขนทยอยหลุดออกทีละเส้น
หูของเธอหยุดส่งเสียงแล้วเช่นกัน มันค่อยๆ พับกลับเป็นปรกติ
หากไม่มีการยับยั้งดังกล่าว เกรงว่าใบหน้า แขน และขาของแบร์นาแดตคนแยกออกจากร่างกายเพื่อตามหา ‘อิสรภาพ’
หลังจากฟื้นฟูร่างกายเบื้องต้น แบร์นาแดตพยายามเดินไปด้านหน้า แต่ก็ต้องพบว่าร่างกายของตนยังมิอาจขยับเขยื้อนได้เช่นเดิม ทำได้เพียงบังคับให้ร่างมายาครึ่งท่อนเคลื่อนไหว
ครุ่นคิดสักพัก หญิงสาวสั่งให้ร่างวิญญาณด้านหลังหยิบมีดเงินสำหรับพิธีกรรมออกจากกระเป๋าเสื้อ จากนั้นก็โน้มตัวลง วาดวงกลมกึ่งกลางรองเท้าบูตข้างขวา
ท่ามกลางเสียงฉีกขาด รองเท้าบูตหนังเหลือความยาวเพียงครึ่งหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ