ได้ยินคำพูดอามุนด์ หัวใจไคลน์พลันหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
ก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มไม่เคยกังวลว่าอามุนด์จะเสนอข้อตกลงให้เทพแห่งตะเกียง เพราะอีกฝ่ายเป็นนักต้มตุ๋นตัวยง ทุกคำพูดที่ออกมาล้วนเชื่อถือไม่ได้ โดยเฉพาะคำมั่นสัญญา นอกจากนั้น เทพแห่งตะเกียงยังเคยพบราชันเร้นลับมาแล้ว แถมยังตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันจนต้องทุกข์ทรมานจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่เทพแห่งตะเกียงจะมองว่าคำพูดของอามุนด์มีความน่าเชื่อถือต่ำ
เป็นผลพวงมาจากการขาดความน่าเชื่อถือ
ในบางครั้ง การโกหก ฉ้อโกง และเอาเปรียบก็ช่วยสร้างผลประโยชน์ในระยะสั้น แต่หากมองถึงระยะยาว ความซื่อสัตย์และความน่าเชื่อถือจะช่วยพาไปได้ไกลกว่า
แต่เมื่อครู่ หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์เพิ่งกำหนดกฎ ‘ห้ามหลอกลวงที่นี่’
และอามุนด์ก็ไม่โดนลงโทษหลังจากให้คำมั่นสัญญา!
ในเวลาเดียวกัน ทั้งไคลน์และเทพแห่งตะเกียงต่างก็ไม่พบว่าอามุนด์แอบใช้ช่องโหว่ของกฎ
คำพูดของอามุนด์จึงถูกยืนยันข้อเท็จจริงทางอ้อมทันที
เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า นั่นคือคำพูดที่มาจากใจและมิได้หลอกลวง
นอกจากนั้น เทพแห่งตะเกียงยังสามารถพึ่งพาระดับตัวตนเพื่อบิดเบือนประโยค ‘ข้าสามารถรับปาก’ ให้เป็น ‘ข้ารับปาก’ ได้ด้วย เพื่อไม่ให้อามุนด์พลิกลิ้นผิดสัญญาในภายหลัง หากฝ่าฝืนหรือละเมิดก็จะได้รับความเสียหายร้ายแรงจากระดับตัวตนวันวาน
ไคลน์อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า ประโยค ‘ห้ามหลอกลวงที่นี่’ เกิดจากการที่อามุนด์แอบชักจูงหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์ หรือเป็นความตั้งใจของเทพแห่งตะเกียงเอง เพื่อที่จะกดดันให้ราชันเร้นลับซึ่งสามารถเป็นใครก็ได้ แข่งกันส่งตนออกไปนอกอวกาศโดยเร็ว
สำหรับเทพแห่งตะเกียง มันไม่มีอะไรต้องเสียหากตอบรับข้อเสนอของอามุนด์ เพราะสัญญาระหว่างมันกับไคลน์ ฝ่ายที่กำลังติดหนี้คือไคลน์
หากเป็นสถานการณ์อื่น ไคลน์คงมีเวลาสื่อสารกับเทพแห่งตะเกียงเพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน แต่ในปัจจุบัน ภัยคุกคามจากอามุนด์อยู่ห่างแค่เอื้อมเท่านั้น อีกฝ่ายคงไม่เปิดโอกาสให้ตนปรับความเข้าใจกับเทพแห่งตะเกียงแน่
หากเลือกจะเชื่อใจเทพแห่งตะเกียงต่อไป ก็เท่ากับว่าไคลน์ต้องยอมฝากชะตากรรมของตนไว้ในมือเทพภายนอก ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการไปตามแผนเดิม – โดยที่ไม่รู้เลยว่า ในการต่อสู้ที่กำลังจะดำเนินมาถึง เทพแห่งตะเกียงจะแสร้งเขียนกฎที่ดูเหมือนจะดี แต่ความจริงแล้วแอบทำให้อามุนด์ได้เปรียบหรือไม่ และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ไคลน์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว ก็เรียกได้ว่าปิดประตูแพ้แบบไม่มีโอกาสพลิก
ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์ตัดสินใจเดิมพันกับบางสิ่ง
เสื้อคลุมโปร่งแสงสีเข้มปรากฏขึ้นรอบตัวชายหนุ่มทันที ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยหน้ากากประหลาดที่บิดเบี้ยว
เดอะฟูล!
วงกลมระลอกคลื่นล่องหนแผ่ออกจากร่างไคลน์ ปกคลุมเทพแห่งตะเกียง หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์ ดินแดนรกร้างว่างเปล่า และอามุนด์
อำนาจ ‘เขลาและบอด’ !
แว่นตาขาเดียวของอามุนด์สูญเสียความแวววาวไปครู่หนึ่ง ราวกับสูญเสียการมองเห็นไปพร้อมกัน ดวงตาของมันพลันเหม่อลอย
ความเร็วในการเขียนกฎใหม่ของหนังสือของเหลืองทรันซอสต์ชะลอตัวลงมาก ราวกับต้องใช้เวลาอีกสิบห้านาที หรือแม้กระทั่งสองสามชั่วโมงเพื่อจะเขียนกฎถัดไป
ร่างสีทองซีดและบิดเบี้ยวของเทพแห่งตะเกียง ไหววูบเล็กน้อยก่อนจะหดกลับเข้าไปในตะเกียงวิเศษสีทองคล้ายกาน้ำ ไม่มีใครทราบว่าอีกฝ่ายกำลังหนี หรือเป็นการตอบสนองตามสัญชาตญาณ
ฉวยโอกาสดังกล่าว ไคลน์พยายามหลบหนีจากปราสาทต้นกำเนิด ขณะเดียวกันก็เตรียมปลูกถ่ายตัวเองกับบางสิ่ง
ทันทีที่สติชายหนุ่มดำดิ่ง เลนส์แว่นตาขาเดียวปรากฏขึ้นบริเวณขอบเขตปราสาทต้นกำเนิด ปิดก้นเส้นทางหนีของไคลน์ไว้อีกครั้ง
แม้สติปัญญาจะลดต่ำลงเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่อามุนด์ก็ยังไม่ลืมที่จะขัดขวางการหลบหนีของไคลน์
ดวงตาอามุนด์กลับมาแวววาวอีกครั้ง แต่สียังค่อนข้างคล้ำเช่นเคย มุมปากยกขึ้นอย่างมิอาจควบคุม
“ข้า ‘เขียน’ พฤติกรรมนี้ไว้ในสัญชาตญาณของตัวเอง มันคือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับรับมือกับ ‘เขลาและบอด’”
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งพลังในการหลอกลวงกฎ หลอกตัวเอง ทำให้สัญชาตญาณเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ควรกระทำ
ไคลน์มิได้สิ้นหวังเสียทีเดียว เนื่องจากการ ‘ปลูกถ่าย’ ที่เตรียมไว้เสร็จสิ้นพอดี
ท่ามกลางอวกาศ ดาวยักษ์ดวงหนึ่งซึ่งกำลังเปล่งแสงและความร้อนอย่างต่อเนื่อง เกิดหรี่ลงในทันใด
ภายในดินแดนอันรกร้างซึ่งถูกปกคลุมด้วย ‘กลางวันนิรันดร์’ ดวงอาทิตย์สีส้มแดงซึ่งเปี่ยมไปด้วยออร่าทำลายล้างและแรงสะกดข่ม กำลังเคลื่อนตัวลงมาจากท้องฟ้าด้านบน
ทุ่งโล่งเริ่มแตกร้าว เกิดรอยแยกและผิวโค้งงอ ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปหาดาวดวงดังกล่าว
ในเวลาเดียวกัน ทุกสิ่งลุกเป็นไฟ รวมไปถึงอามุนด์ด้วย
วินาทีถัดมา ห้วงมิติโดยรอยเกิดการหดตัวราวกับว่านั่นคือดวงอาทิตย์ของจริง ทุกสิ่งภายในโลกใบนี้มีชะตากรรมต้องแหลกสลายหรือไม่ก็ระเหยกลายเป็นไอ สองสิ่งที่ยังหลงเหลือคือตะเกียงวิเศษประทานพรและหนังสือทองเหลืองของทรันซอสต์ พวกมันสามารถทนรับความเสียหายทั้งหมดได้โดยไม่บุบสลาย
ไคลน์ที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ ได้อันตรธานหายไปสักพักแล้ว
มันปลูกถ่ายตัวเองเข้ากับดาวดวงนั้น
แต่แน่นอน การปลูกถ่ายของไคลน์เพียงเชื่อมกับ ‘แนวคิด’ ของดวงดาว ไม่ใช่ดาวจริงๆ ไม่อย่างนั้น ด้วยร่างกายของเดอะฟูลซึ่งเปราะบางกว่าลำดับ 0 เส้นทางอื่นเป็นทุนเดิม มันคงถูกดวงดาวกลืนกินและเสียชีวิตภายในอาณาจักรเทพของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ