สรุปเนื้อหา 449 – ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet
บท 449 ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
อากาศภายนอกมิอาจสอดแทรกเข้าไปในตัวอาคาร บรรยากาศด้านในตึกอบอุ่นประหนึ่งช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ เตาผิงทำงานของมันได้อย่างไม่มีจุดบกพร่อง
ออเดรย์กำลังถูกวัดตัวโดยมาดามจีเนียร์ นักออกแบบเสื้อผ้าส่วนตัว เพื่อเตรียมตัดชุดสำหรับฉลองปีใหม่ให้เข้ากับอารมณ์ความคิดและขนาดตัวปัจจุบัน
สาวใช้ส่วนตัว แอนนี เดินเข้ามาใกล้และกระซิบข้างหู
“มาดามเอสลันด์ขอพบ”
เร็วขนาดนี้เชียว…?
ออเดรย์พลันตื่นเต้น แต่เธอไม่แสดงออกทางสีหน้า เพียงเผยรอยยิ้มตามมารยาท
“บอกให้รอในห้องศิลป์ เอ่อ… ห้านาที”
“ห้องศิลป์?” แอนนีทำหน้างุนงง
“ถูกต้อง ฉันจะให้คุณครูติชมผลงานภาพวาดชิ้นใหม่ฝีมือตัวเอง เธอกล่าวว่า ผลงานทางศิลปะซึ่งเกิดจากจิตใจอันผ่อนคลาย จะบ่งบอกตัวตนของคนผู้นั้นได้อย่างละเอียด” ออเดรย์อธิบายอย่างใจเย็น
แอนนีพลันกระจ่าง
“ค่ะ คุณหนู”
ไม่ถึงห้านาทีถัดมา ออเดรย์เดินเข้าไปในห้องศิลป์และพบว่าเอสลันด์กำลังยืนชื่นชมภาพวาดบนผนัง
“นั่นคือ ‘รัตติกาลในฝัน’ ของเซนซี สุดยอดผลงานชิ้นเอกอันโด่งดังซึ่งจะมอบอารมณ์ปลอดโปร่งและสงบนิ่ง” เด็กสาวอมยิ้มพลางแนะนำภาพให้เอสลันด์ทราบ
“รัตติกาลในฝันของเซนซี? หนึ่งในสิบภาพวาดของปีก่อน และหนึ่งในร้อยภาพวาดประจำศตวรรษจากการลงคะแนนของหนังสือพิมพ์ทัสซอคหรือคะ?”
แน่นอน เอสลันด์เป็นคนประเภทอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า และในฐานะผู้วิเศษเส้นทางผู้ชม ความจำของเธอย่อมเป็นเลิศ
“ค่ะ” ออเดรย์ตอบกระชับราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งกับการได้ยลโฉมภาพวาดของจริงเต็มสองตาเช่นนี้…” เอสลันด์กล่าวพลางเงยหน้าจ้องภาพอีกครั้ง
เธอกลืนประโยคตามหลัง ‘ราคาเท่าคฤหาสน์เลยนะคะ’ ลงคอ เพราะกังวลว่าจะถูกมองเป็นพวกบ้านนอกเข้ากรุง
ออเดรย์ไม่เสียเวลากล่าวแนะนำภาพอื่น เด็กสาวหาข้ออ้างส่งแอนนีออกจากห้อง ตามด้วยการส่งสัญญาณบอกให้ซูซีออกไปอารักขาหน้าประตู
โกลเดนรีทรีเวอร์ขนฟูอ่านใจนายหญิงได้ทันทีและรีบตะกุยเท้า
เอสลันด์ช่วยปิดประตูและเดินกลับมานั่งข้างขาตั้งสำหรับวาดรูป เธอไม่ปล่อยให้เด็กสาวซักถามสิ่งใด ครูสอนวิชาจิตวิทยาสาวเริ่มเข้าประเด็นทันที
“พวกเรามีทั้งตะกอนพลังเงามืดหนังมนุษย์และสูตรโอสถผู้รับใช้วายุ เพียงแต่ สมาคมแปรจิตไม่ได้ร้อนเงิน จึงไม่คิดขายนอกเสียจากจะได้รับข้อเสนอยากปฏิเสธ”
ถ้ามีการเจรจา… แปลว่ายังมีหวัง!
ดวงตาเขียวมรกตของเด็กสาวพลันลุกวาวขณะตั้งคำถามกลับ
“ราคาเท่าไรบ้างคะ”
เอสลันด์ลูบไล้เส้นผมดำขลับและมอบคำตอบซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้า
“สองพันห้าร้อยปอนด์สำหรับตะกอนพลังเงามืดหนังมนุษย์ สามพันปอนด์สำหรับสูตรโอสถผู้รับใช้วายุ”
กะขายทีเดียวรวยเลยหรือ…
แม้ออเดรย์จะมองเป็นเพียงเศษเงิน แต่เธอก็ไม่ค่อยปลื้มนักเมื่อพบว่าสมาคมแปรจิตหวังฟันกำไรเกินกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์
จากคำอธิบายของมิสเตอร์แฮงแมน ภายใต้สถานการณ์ปรกติ สูตรโอสถลำดับ 6 จะมีมูลค่าไม่เกินสองพันปอนด์ แต่ยิ่งโอสถเข้าใกล้ลำดับสูงเพียงใด โอกาสหลุดมาในตลาดมืดก็ยิ่งน้อย เรียกว่ามีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ส่งผลให้ราคาอาจดีดตัวขึ้นบ้าง ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากเป็นสิ่งของมูลค่าสูง โอกาสถูกหลอกขายสูตรโอสถปลอมก็ยิ่งมาก ดังนั้น หากผู้ขายมีความน่าเชื่อถือ ราคาจะสูงขึ้นย่อมไม่แปลก แต่สามพันปอนด์ก็ออกจะ…
เอสลันด์รีบเสริม
“ถ้าอีกฝ่ายมีสมบัติวิเศษมูลค่าใกล้เคียงกันหรือต่ำกว่าเล็กน้อยมาแลกเปลี่ยน ทางเราก็ยินดีพิจารณา”
หรือก็คือ พวกคุณต้องการสมบัติวิเศษมากกว่าเงิน… สมาคมแปรจิตถือเป็นหน้าใหม่ในวงการ คงไม่แปลกหากจะมีจำนวนสมบัติวิเศษน้อยกว่าองค์กรลับอื่น…
ออเดรย์เม้มปากตอบ
“ดิฉันจะนำไปบอกพวกเขาให้ค่ะ แต่ไม่ขอรับประกันความสำเร็จ”
ออเดรย์ไม่กังวลเลยสักนิดว่า สมาคมแปรจิตจะเคลือบแคลงว่าเธอเอาเวลาตอนไหนไปเข้าร่วมชุมนุมลับอื่น ในฐานะบุตรสาวแห่งตระกูลเคาต์ ตารางชีวิตของเด็กสาวย่อมต้องยุ่งวุ่นวาย
มีทั้งงานเลี้ยงน้ำชารอบบ่าย งานเลี้ยงอาหารค่ำ งานเลี้ยงเต้นรำ เรียนขี่ม้า เรียนสื่อสาร และอีกมากมาย มีโอกาสพบปะคนแปลกหน้าไม่น้อย ใครจะรู้ อาจมีชุมนุมลับแฝงอยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ หรือไม่ก็ ครูสอนดนตรีคือผู้วิเศษมากประสบการณ์ปลอมตัวมา สมาคมแปรจิตไม่มีทางตรวจสอบเรื่องนี้ได้ทั้งหมด พวกมันซ่อนอยู่ในเงามืด การออกมาเคลื่อนไหวฉากหน้าจึงไม่ใช่เรื่องสะดวก
เมื่อกล่าวจบ ออเดรย์ซักถามต่อท้าย
“มาดามเอสลันด์ ดิฉันคาดไม่ถึงว่าพวกคุณจะกล้าขายสูตรโอสถผู้รับใช้วายุ มันเป็นถึงลำดับ 6 ไม่ใช่หรือคะ”
“สำหรับเรื่องนี้ ถ้ามีโอกาส พวกเราก็อยากกระจายข้อมูลดังกล่าวออกไป เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อสมาคมแปรจิตมากกว่า”
เอสลันด์ตอบคลุมเครือ
จริงอยู่ คุณหนูออเดรย์อาจเป็นบุคคลสำคัญซึ่งเบื้องบนของสมาคมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แต่ในสายตาเอสลันด์ ออเดรย์ยังเป็นแค่เด็กใหม่ในโลกเร้นลับ มีหลายสิ่งยังไม่ถึงเวลารับรู้
เธอหมายความว่ายังไง…?
แต่เด็กสาวตัดสินใจข่มความสงสัยไว้ก่อน ทำเพียงเปลี่ยนประเด็นอย่างไร้เดียงสา
“มาดามเอสลันด์ หากการค้าขายในคราวนี้ผ่านไปอย่างลุล่วง ดิฉันจะได้รับคะแนนผลงานไหมคะ?”
เอสลันด์ฉีกยิ้ม
“แน่นอนค่ะ”
…
ไคลน์ ‘ทำตัวยุ่ง’ ตลอดช่วงเช้า จนกระทั่งกลับถึงถนนมินส์และเติมเต็มความอิ่มท้อง แต่ขณะเตรียมตัวพักผ่อน เสียงสวดภาวนาจากใครสักคนดังพลันซ้อนทับในหัว ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกนอกจากส่งตัวเองเข้าสู่ห้วงมิติเหนือสายหมอก
มิสจัสติสหาคนขายตะกอนพลังเงามืดหนังมนุษย์ได้แล้ว? พูดเป็นเล่นน่า… เราไม่พบเบาะแสแม้จะหามาตั้งนาน แต่พอเจอกลับเจอทีเดียวสองเนี่ยนะ… ในฐานะองค์กรลับ สมาคมแปรจิตคงมีวัตถุดิบประเภทนี้เก็บสำรองไว้พอสมควร…
เมื่อมีตัวเลือกเพิ่ม ไคลน์พลันรู้สึกปวดหัวมากกว่าเก่า
ต่อให้นับเงินห้าร้อยปอนด์ซึ่งแฮงแมนยังติดค้างรวมเข้ามาด้วย แต่เงินออมของไคลน์ก็มีเพียง 1,335 ปอนด์เท่านั้น ยังขาดไปอีกมากหากต้องการซื้อในราคาสมาคมแปรจิต
“…ผมยินดีจ่ายในราคาสองพันห้าร้อยปอนด์ แต่ขอเวลารวบรวมเงินสองวัน”
ถัดมา มันโยนคำตอบของแฮงแมนและเดอะเวิร์ลใส่ดาวแดงตัวแทนจัสติสในเวลาไล่เลี่ยกัน
…
หลังจากจัสติสรับทราบ ไคลน์นั่งรออย่างใจเย็นภายในบ้านถนนมินส์ตลอดช่วงบ่าย
จนกระทั่งเกือบเย็น คาร์ลเซ่นจากจิตแห่งจักรกลได้มาสั่นกระดิ่งบ้าน
ไคลน์ไม่ซักถามมากความ ทำเพียงเดินตามอีกฝ่ายไปยังวิหารชะแลงในเขตอู่ต่อเรือไบลัมตะวันตก จากนั้นก็เดินเข้าไปในอาคารสามชั้นหลังติดกับวิหาร
ป้ายสำนักงานเขียนว่า :
“สถาบันวิจัยเครื่องกลเบ็คลันด์”
ใช้ชื่อทางการฉิบ…
ไคลน์แอบนำไปเทียบกับชื่อบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬพลางอมยิ้มขบขัน
จากการนำทางของคาร์ลเซ่น ชายหนุ่มผ่านอุปกรณ์พิสดารหลายชิ้นจนกระทั่งเข้าไปในห้องอับไร้หน้าต่าง
บนโต๊ะยาวกลางห้อง สิ่งของหลายชนิดถูกวางเรียงรายเป็นระเบียบ ประกอบด้วยวัตถุส่องแสงระยิบระยับหลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือเพชรตะกอนพลังเงามืดหนังมนุษย์ นอกเหนือจากนั้นยังมีกรอบรูปวิญญาณซึ่งถูกห่อผ้าสีดำคลุมไว้มิดชิด ทว่า ในรายการให้เลือกไม่มีตะกอนพลังของคณะสำรวจสุสานชุดแรก
พวกเขาไม่อยากให้เราทราบถึงกฎอนุรักษ์พลังพิเศษในเส้นทางใกล้เคียงและความถาวรของพลังพิเศษ…
ไคลน์ไม่ประหลาดใจสักเท่าไร
“เลือกได้หนึ่ง” ไอคานส์·เบอร์นาร์ดในสภาพไม่สวมหมวกชี้ไปบนโต๊ะ
ไคลน์แสร้งทำเป็นตรวจสอบสิ่งของบนโต๊ะอย่างละเอียด ก่อนจะถอนหายใจผิดหวัง
“ไม่มีเป้าหมายของผม… เปลี่ยนเป็นเงินได้ไหม? ได้เท่าไร?”
มันตัดสินใจแล้วว่า ตนจะไม่เรียกร้องตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์จากจิตแห่งจักรกล
ถึงแม้จะหาข้ออ้างมาแก้ตัวได้มากมาย เช่นการนำไปสร้างเป็นสมบัติวิเศษ หรือไม่ก็นำไปประกอบพิธีกรรมเฉพาะ แต่จิตแห่งจักรกลก็ไม่ได้โง่ ถ้าตนเลือกตะกอนพลังเงามืดหนังมนุษย์ มีโอกาสค่อนข้างสูงว่าอีกฝ่ายจะคาดเดาลำดับและเส้นทางของตนได้แม่นยำ ภายใต้สถานการณ์ซึ่งมีตัวเลือกดีกว่า ไคลน์ตัดสินใจไม่ขอเสี่ยงกับเงินเพียงเล็กน้อย
ดังนั้น มันมาในวันนี้เพื่อไถเงินโดยเฉพาะ
ไม่เพียงจะช่วยให้รวบรวมเงินได้เกินกว่าสองพันห้าร้อยปอนด์ตามความต้องการของสมาคมแปรจิต แต่ยังขจัดความเคลือบแคลงจากจิตแห่งจักรกลไปได้พร้อมกัน เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไอคานส์แสดงสีหน้าโล่งใจชัดเจน มันสางเส้นผมแข็งกระด้างพร้อมกับเผยรอยยิ้ม
“หนึ่งพันห้าร้อยปอนด์… แต่พวกเราอยากให้คุณเลือกเงินสดมากกว่า ดังนั้น… สองพันปอนด์”
ไคลน์พลันเผยรอยยิ้มสุดแสนจริงใจ
“ด้วยความยินดี!”
……………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ