เส้นขนจำนวนมากกำลังตั้งชูชันบนผิวหนังชายหนุ่ม มันยังคงมองเข้าไปในดวงตาอันพร่ามัวและเย้ายวนของสตรีเลอโฉมอ่อนวัย
อาการขนลุกในคราวนี้ค่อนข้างรุนแรง มาพร้อมเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นทุกซอกมุมร่างกาย
ไคลน์รู้สึกประหนึ่งย้อนเวลากลับไปอยู่ในห้องรับแขกของบริษัทหนามทมิฬแห่งเมืองทิงเก็นอีกครั้ง ขณะมันเตรียมเปิดเนตรวิญญาณเพื่อส่องทารกในครรภ์เมกูส ความหวาดกลัวจากก้นบึ้งได้กระตุ้นให้สัญชาตญาณเกิดความตึงเครียดฉับพลัน คล้ายกับมีมือของใครบางคนกำลังบีบกำหัวใจแน่น
ชายหนุ่มเข้าใจทันทีว่า ต้นตอของความล้มเหลวหนแล้วหนเล่าขณะใช้พลังทำนายบนมิติสายหมอกเกิดจากสิ่งใด
ไม่ใช่สมบัติวิเศษระดับ 0 แต่เป็นบางสิ่งในร่างกายทริสซีซึ่งมีระดับตัวตนสูงกว่านั้นหลายเท่า!
สัญลักษณ์แห่งหายนะ แม่มดบรรพกาล!
ไม่สิ เธอยังมิได้เป็นแม่มดบรรพกาลเต็มตัว ไม่อย่างนั้น เราคงเกิดอาการคลุ้มคลั่งทันทีเพียงได้เข้าใกล้ จากนั้นก็กลายเป็นเศษเนื้อสีแดงยุบพองน่าสะอิดสะเอียน
เธอกำลังอยู่ในภาวะประหลาด…
ทันใดนั้น คิ้วของทริสซีเริ่มคลายออก หญิงสาวได้รับประกายแววตากลับคืนมาอีกครั้ง
ขณะเธอกำลังจ้องไคลน์ ทริสซีเริ่มเลื่อนฝ่ามืออันขาวเนียน ลูบไล้ไปตามด้านข้างลำตัวอย่างเย้ายวน ปลายนิ้วเน้นหนักรอบวัตถุทรงกลมบริเวณทรวงอก กิริยาท่าทางเปี่ยมด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งเย้ายวน เศร้าโศก และแฝงความคิดร้าย
พลางกล่าวกับไคลน์
“หากคุณสามารถแจ้งเหยี่ยวราตรี จิตแห่งจักรกล หรือทูตพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องของฉันสำเร็จ และถ้าเรามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งก่อนฉันถูกจับขัง ขอรับปากว่าจะมอบความสุขสมอันยากจะลืมเลือนไปชั่วชีวิตให้ได้ลิ้มรส”
สายตาไคลน์ยังคงจ้องมองการขยับมือของทริสซี่โดยไม่รู้ตัว ภาพลามกอนาจารพลันพรั่งพรูเข้ามาในสมองอย่างมิอาจยับยั้ง
…ถึงจะไม่ใหญ่ แต่ก็กระชับพอดีมือ…
เชี่ย! เราคิดอะไรอยู่! กำลังมองไปทางไหน!
นี่คือพลังยั่วยวนของแม่มดสุขสม? อันตรายฉิบหาย… ต่อให้เธอไม่เคยเป็นชายมาก่อน จนทำให้จินตนาการของเราหดลงหลายระดับ หรือต่อให้เธอไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์ในเมืองทิงเก็นเลยสักครั้ง แต่ลำพังการมีออร่าของแม่มดบรรพกาลอยู่ในร่าง ก็มากพอจะทำให้เราเผ่นหนีอย่างไม่คิดชีวิต…
หากแม่มดบรรพกาลตื่นขึ้นมา เกรงว่า แม้แต่เดอะฟูลก็คงรับมือไม่ไหว…
ไคลน์ถอนหายใจเงียบงัน ก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นและมองไปบนเพดานห้องโดยสาร
“คุณคิดว่าตัวผม ผู้วิเศษลำดับกลางหรือไม่ก็ลำดับต่ำ จะมีน้ำยาหนีรอดจากเงื้อมมือของราชวงศ์เชียวหรือ พวกเขาทราบแล้วผมเข้ามาพัวพันกับคุณ คงไม่มีทางปล่อยให้มีชีวิตรอดกลับไปแน่…”
คล้ายกับทริสซีพึงพอใจเมื่อไคลน์ไม่กล้าสบตาเธอโดยตรง
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะพยายามดึงแกนหลักของหน่วยพิเศษเอาไว้ให้เอง ถึงแม้อีกฝ่ายจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ถ้าเป็นการหนีให้รอดก็ยังพอมีโอกาส ฉันเชื่อว่าคุณคงต่อสู้อย่างสุดฝีมือ นั่นก็เพื่อความอยู่รอดของตัวคุณเอง…”
เมื่อสิ้นเสียง ร่างของทริสซีเลือนหายไปจากห้องโดยสาร ลักษณะคล้ายกับการใช้ผ้าขี้ริ้วลบชอล์กบนกระดานดำ
แตกแต่างจากมาดามชารอนในร่างวิญญาณอาฆาตมาก นี่คงเป็นเทคนิคการหายตัวอันสมบูรณ์แบบของนักลอบสังหาร…
ตึง!
ประตูห้องโดยสารรถม้าเปิดแง้มและปิดสนิทอีกครั้งด้วยเสียงอื้ออึง
กลิ่นหอมหวานของสตรียังคงติดอยู่ปลายจมูกเจือจาง ไคลน์เบือนหน้ากลับมาอีกครั้งพลางครุ่นคิดอย่างตึงเครียด
จวบจนตอนนี้ สองมือของชายหนุ่มก็ยังสั่นเทาโดยไม่มีทีท่าจะหยุด ประหนึ่งกำลังป่วยเป็นโรคเฉพาะทางบางอย่าง
ดูเหมือนทริสซีจะยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายตัวเอง และยังไม่ทราบถึงน้ำหนักของชื่อ ‘ชีค’ …
ไคลน์พยายามสงบสติ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง คำนวณระยะทางและเวลาหลังจากแล่นออกห่างคฤหาสน์กุหลาบแดง
สัมผัสวิญญาณและประสบการณ์รนหาความตายอันช่ำชองได้บอกกับมันว่า ในเวลาเช่นนี้ การดิ้นรนเอาชีวิตรอด ย่อมดีกว่าการไม่ลงมือทำอะไรเลย!
ฉะนั้น ในเมื่อตนกำลังจะถูกปิดปากด้วยฝีมือในสักคน อย่างน้อยก็ขอตะเกียกตะกายให้สุดฝีมือเสียก่อน!
สาม. สอง. หนึ่ง…
ไคลน์ลืมตาขึ้นพร้อมกับดีดนิ้ว
ณ มุมถนนใกล้เคียง เปลวเพลิงสีแดงส้มพลันลุกไหม้กิ่งไม้แห้งบนซากต้นไม้ ยอดเปลวเพลิงพุ่งสูงขึ้นไปยังบนท้องฟ้า
พร้อมกันนั้น ก้านไม้ขีดไฟซึ่งไคลน์กระจายไว้ตามช่องกระเป๋าลับ เกิดลุกไหม้และครอกร่างบุรุษสวมเสื้อโค้ทสีดำ
บุคคลในรถม้าเลือนหายไป ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งริมถนนในละแวกใกล้เคียง
เป๊าะ! เป๊าะ! เป๊าะ!
ชายหนุ่มรัวดีดมือซ้ายไม่หยุดพัก ส่งตัวเองทะลุเข้าไปในแนวป่าซึ่งมีแต่ซากต้นไม้แห้งสุดลูกหูลูกตา ไคลน์ ‘โดยสาร’ เปลวเพลิงหลายระลอกและส่งตัวเองเข้าไปในป่าลึก จนกระทั่งแทบมองไม่เห็นจากริมถนน
ทันใดนั้น มันรีบหยุดทุกการกระทำและล้วงหยิบเครื่องประดับออกจากลำคอ
แน่นอน ไคลน์อยู่ก่อนแล้วว่า การเข้ามาพัวพันกับ 0-08 ย่อมเต็มไปด้วยอันตรายเสมอ ดังนั้น มันจึงเตรียมพร้อมค่อนข้างดีก่อนจะเดินทางมายังคฤหาสน์กุหลาบแดง
สิ่งนี้คือกฎเหล็กของนักมายากล ห้ามขึ้นแสดงโดยไม่เตรียมความพร้อมล่วงหน้า
สมบัติวิเศษถูกพกติดตัวมาบางส่วน ก้านไม้ขีดไฟถูกแบ่งเก็บไว้ในกระเป๋าลับรอบโค้ท
จากบรรดาสมบัติวิเศษทั้งหมดในปัจจุบันของชายหนุ่ม ขวดพิษชีวภาพและเข็มกลัดสุริยันนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีคาพิน ไคลน์จึงนำพวกมันเก็บไว้ในมิติเหนือสายหมอกโดยไม่มัวคิดให้เสียเวลา ในกรณีดวงตาดำล้วนของนักเชิดหุ่น โรซาโก้ สิ่งนี้คงไม่ผ่านด่านตรวจของทหารองครักษ์เสื้อแดงเช่นกัน จึงถูกโยนไว้บนมิติเหนือสายหมอกในสภาพไม่ต่าง
ลงเอยด้วย นอกจากกระสุนพิเศษทั้งสามชนิดอันประกอบด้วย กระสุนปราบมาร กระสุนปัดเป่า และกระสุนชำระล้าง ไคลน์พกพาสมบัติวิเศษติดตัวเพียงสองชิ้น
ชิ้นแรก มาสเตอร์คีย์ กุญแจซึ่งช่วยให้ทะลุกำแพงบ้านได้ตามใจ ไขกลอนส่งเดชได้ทุกบานประตู และเหนือสิ่งอื่นใด หน้าตาของมันแสนธรรมดาจนยากจะพบความผิดปรกติ
อีกหนึ่งชิ้นคือ อุปกรณ์หลักสำหรับเตรียมตัวเผชิญหายนะ ‘นกหวีดทองแดงอะซิก’
สรุปโดยสั้น หากเลี่ยงเผชิญหน้ากับศัตรูแข็งแกร่งไม่ได้ ทางเลือกฉลาดคือการขอความช่วยเหลือจากบุคคลแข็งแกร่งกว่า!
…เมื่อเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ ไม่สนว่าเราจะรู้จักทริสซี่มาก่อนหรือไม่ แต่ตอนนี้คงตกอยู่ในรายชื่อจับตายของ 0-08 เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น การขอให้มิสเตอร์อะซิกช่วยจึงไม่ทำให้สถานการณ์แย่ลง… แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า เวทีปัจจุบันกำลังถูกกำกับโดย 0-08…
ไคลน์หยิบนกหวีดโบราณเย็นเฉียบขึ้นมาใส่ปากและเป่าสุดแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ