ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 484

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 484 : ไม่สมมาตร
ราชันเร้นลับ 484 : ไม่สมมาตร
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เดอะมูน เอ็มลิน เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวและเข้าใจว่าหญิงสาวกิริยามารยาทสง่างามฝั่งตรงข้าม กำลังพูดถึงโศกนาฏกรรมหมอกพิษและโรคระบาดภายในกรุงเบ็คลันด์เมื่อไม่กี่วันก่อน

แต่เราได้ยินมาว่า นั่นเกิดจากฝีมือของแม่มดสิ้นหวังผู้ต้องการเลื่อนลำดับ…

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเพราะโบสถ์วายุสลาตันตอบสนองได้รวดเร็ว หมอกควันส่วนใหญ่จึงถูกพัดพาออกไปนอกเมือง แล้วเหตุใดถึงกล่าวอ้างว่าเดอะฟูลได้ช่วยเบ็คลันด์ไว้…

เอ็มลินมีตระกูลผีดูดเลือดคอยหนุนหลัง ข่าวสารรอบตัวจึงมาถึงเร็วกว่ามนุษย์ปรกติ เมื่อลองชั่งน้ำหนักในใจสักพัก มันยังคงเกิดความสับสนและเคลือบแคลง

แม้เอ็มลินจะไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนอันยิ่งใหญ่ซึ่งมันต้องใช้สรรพนามเรียกนำหน้าว่า ‘ท่าน’ เอ็มลินย่อมรู้จักกาลเทศะ จึงมิกล้าปริปากซักถามรายละเอียดออกไป

ขณะเดียวกัน อัลเจอร์อาจอยู่ในทะเลตลอดเวลา แต่มันย่อมทราบข่าวใหญ่อย่างโศกนาฏกรรมหมอกพิษภายในเมืองหลวง

แน่นอน อัลเจอร์ต้องการฟังรายละเอียดเบื้องลึกของเหตุการณ์ เพราะมันเชื่อว่าต้องเป็นความขัดแย้งระหว่างตัวตนระดับทวยเทพอย่างแน่นอน มิฉะนั้น บุคคลอย่างมิสเตอร์ฟูลคงไม่จับตามองเป็นพิเศษ

ไว้เราค่อยถามมิสจัสติสในช่วงแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระ แต่เธออาจไม่แม่นยำในรายละเอียดมากนัก ต้องคำนึงว่า เธอยังไม่ใช่สมาชิกระดับสูงขององค์กรใหญ่…

หึหึ จัสติสเองคงกำลังตื่นเต้นมาก ถึงกับใช้เป็นหัวข้อเปิดประเด็นชุมนุมคราวนี้เลยทีเดียว อาจเป็นการถามหยั่งเชิงแกมขอร้องให้มิสเตอร์ฟูลช่วยเล่ารายละเอียดทั้งหมด…

ได้แต่หวังว่า เราจะได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของบุคคลวงในโดยตรง…

หลังจากครุ่นคิดจนพอใจ อัลเจอร์หันไปทางเดอะซันและพบว่า เด็กหนุ่มมิได้ออกอาการวิตกกังวลเหมือนคราวก่อน ตรงกันข้าม อีกฝ่ายกำลังสงบนิ่งและวางมาด จึงเดาได้ไม่ยากว่า ทีมสำรวจของเมืองเงินพิสุทธิ์หลุดจากวังวนกระแสเวลาสำเร็จแล้ว

เช่นเดียวกันกับออเดรย์ เธอค่อนข้างมั่นใจว่าทีมสำรวจของเดอะซันเดินทางกลับถึงเมืองได้อย่างปลอดภัย อ้างอิงจากสีหน้าและแววตาอันสุขุมของเด็กหนุ่ม

ออเดรย์ถอนหายใจยาว เตรียมรอฟังรายละเอียดการผจญภัยจากปากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าคาดหวัง

ถัดมา หลังจากคำนับมิสเตอร์ฟูลอย่างนอบน้อม ออเดรย์หันไปขอบคุณสมาชิกชุมนุมทาโรต์ผู้มีบรรยากาศไม่เป็นมิตร เดอะเวิร์ล สำหรับคำเตือนล่วงหน้าอันแสนมีค่า

“…มิสเตอร์เวิร์ล หากไม่ใช่เพราะคุณแจ้งให้พวกเราเตรียมรับมือ บางที อาจมีผู้คนอีกหลายหมื่นต้องสังเวยในโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันคราวนี้ ด้วยความสัตย์จริง ผมทำไปเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง” ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลยิ้มพลางเปล่งเสียงแหบพร่า

มันขอบคุณจากใจโดยไม่เสแสร้ง เพราะถ้ามิสจัสติสไม่แจ้งให้โบสถ์หลักทราบล่วงหน้าถึงภัยอันตราย หญิงสาวปริศนาผู้ ‘ลบ’ มิสเตอร์ A คงปรากฏตัวออกมาช่วยตนไว้ไม่ทัน เหตุการณ์หลังจากนั้นคงไม่ต้องเล่าถึง

หากมิสเตอร์ A แยกชิ้นส่วนเราออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย บางที พลังคืนชีพอาจไม่ทำงานในคราวนี้…

ไคลน์จินตนาการภาพตามอย่างขนลุก

งานเลี้ยงปีใหม่ระหว่างตนกับมิสเตอร์ A อาจเกิดขึ้นจริง แต่เป็นการกินดื่มและฉลองอยู่ฝ่ายเดียวของมิสเตอร์ A!

ทันใดนั้น เดอะฟูลบนเก้าอี้กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“เราแทบมิได้ทำสิ่งใดเลย”

“หามิได้ค่ะ! ข้ารับใช้ของท่านมีส่วนอย่างมากในการช่วยเหลือกรุงเบ็คลันด์ ผลงานความสำเร็จของเขาเหนือกว่าผู้ใดทั้งหมด”

ออเดรย์ยกยอจากก้นบึ้งหัวใจ

“คำเตือนของเขาช่วยให้องค์เทพธิดา… ช่วยให้โบสถ์รัตติกาลมีเวลาเตรียมตัวระดมพลหน่วยพิเศษ และออกจัดการกับแม่มดสิ้นหวังได้ทันเวลาก่อนเหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้ ลงเอยด้วย โบสถ์รัตติกาลสามารถยับยั้งมิให้แม่มดบรรพกาลลืมตาตื่น ไม่เพียงเท่านั้น ข้ารับใช้ของท่านยังทำลายพิธีกรรมชั่วร้ายของชุมนุมแสงเหลือ ช่วยขัดขวางมิให้พระผู้สร้างแท้จริงลงมาจุติ”

ออเดรย์ได้รับคำชมเชยอย่างล้นหลามจากเอิร์ลฮอลล์และภรรยา ข้อมูลของเธอมีค่ามากเสียจน เอิร์ลฮอลล์ถึงกับยอมเล่ารายละเอียดการสืบสวนให้ฟังโดยไม่ปกปิด

แน่นอน ในฐานะผู้ปกครอง พวกเขาย่อมไม่ปรารถนาให้บุตรสาวของตนถลำลึกเข้าไปในองค์กรลับมากกว่านี้ คงดีกว่า หากจะเป็นเพียงสมาชิกวงนอกและคอยรวบรวมข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ช่วยเหลือตระกูล โดยไม่พัฒนาพลังไปเกินกว่าลำดับ 7

แม่มดบรรพกาลเกือบลืมตาตื่นขึ้น…

พระผู้สร้างแท้จริงพยายามลงมาจุติ…

กรุงเบ็คลันด์กลายเป็นเมืองอะไรไปแล้ว!?

ทั้งอัลเจอร์และเอ็มลินต่างมีท่าทีตอบสนองคล้ายคลึงกัน แต่สีหน้าภายนอกกลับแตกต่างอย่างชัดเจน คนแรกดวงตาเบิกโพลง รูม่านตาหดลีบ และเผลอขยับร่างกายโดยไม่รู้ตัว

ส่วนคนหลังให้อารมณ์คล้ายกับเตรียมลุกพรวดขึ้นมาแหกปากอย่างตื่นตระหนก

พระแม่ธร… ไม่สิ องค์จันทรา! เบ็คลันด์กลายเป็นเมืองอันตรายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร… เทพมารสองตนพยายามปรากฏตัวบนโลกขณะเกิดโศกนาฏกรรมมหาหมอกควัน!

เด็กสาวคนนั้นอาจเล่าความเท็จ… ถึงแม้มิสเตอร์ฟูลจะเป็นตัวตนระดับเทพจริง แต่การสร้างความขัดแย้งกับเทพสองตนพร้อมกัน… ถ้าสิ่งนี้ไม่เรียกว่ารนหาความตาย แล้วจะให้เรียกอะไรได้อีก…

หรือว่าท่านคือเทพตัวจริง ผู้กำลังเรียกคืนพลังเพื่อกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม?

ไม่สิ บางที ท่านอาจมีพวกพ้องทวยเทพหนุนหลังเป็นจำนวนมาก โดยมิได้แจ้งให้มดปลวกอย่างพวกเราทราบ… นี่คงเป็นเหตุผลให้ท่านบรรพชนมอบวิวรณ์ พร้อมกับกำชับให้เราสวดภาวนาถึงท่าน…

ยิ่งเอ็มลินครุ่นคิด หัวใจมันก็ยิ่งเต้นแรงอย่างผิดจังหวะ แต่ไม่ว่าจะตรึกตรองนานสักเพียงใด ก็ยากจะหาคำตอบมายืนยันสมมติฐานของตัวเองได้

เผ่าพันธุ์ผีดูดเลือดมิได้ถูกเรียกว่า ‘แวมไพร์’ เพราะหัวใจของพวกมันไม่เต้น

ในความเป็นจริง หัวใจผีดูดเลือดยังคงยุบพองตามปรกติ เพียงแต่เต้นในจังหวะช้ากว่ามนุษย์มาก โดยขณะเดียวกัน หัวใจยังถือเป็นจุดอ่อนร้ายแรงซึ่งผีดูดเลือดทุกตนพยายามปกป้องอย่างสุดความสามารถ

คิดไว้ไม่มีผิด… มิสเตอร์ฟูลให้ความสนใจมากเป็นพิเศษเพราะมีเบื้องหลังซับซ้อนแบบนี้นี่เอง… แต่ท่านจะได้สิ่งใดหากขัดขวางแผนคืนชีพของเหล่าเทพมารสำเร็จ?

อัลเจอร์ก้มหน้าถอนหายใจ

ทางด้านฟอร์ส เธอกำลังหวาดผวาแกมประหลาดใจ หญิงสาวไม่คิดมาก่อนว่า โศกนาฏกรรมมหาหมอกควันซึ่งคร่าชีวิตชาวเมืองไปนับหมื่น ความจริงยังมีเบื้องหลังอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิมแอบซ่อนอยู่!

ถ้าถูกหยุดไว้ไม่ทัน เมืองเบ็คลันด์ทั้งหมดจะถูกทำลาย และเรากับซิลคงไม่มีชีวิตรอด…

ฟอร์สกลืนน้ำลายคำใหญ่

ด้านออเดรย์ก็กำลังคิดแบบเดียวกับฟอร์ส หลังจากโศกนาฏกรรมจบลง สตรีชนชั้นสูงอย่างเธอเริ่มตระหนักถึงความจริงอันโหดร้ายหนึ่งเรื่อง :

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ