ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 523

สรุปบท ราชันเร้นลับ 523: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ตอน ราชันเร้นลับ 523 จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ราชันเร้นลับ 523 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 523 : ความร่วมมือ
ราชันเร้นลับ 523 : ความร่วมมือ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อออกจากอาคารหมายเลข 47 บนถนนเขาดำ ไคลน์สำรวจสถานการณ์เบื้องต้นของวินเทอร์ โดยปลอมตัวเป็นตำรวจและไล่สอบปากคำเพื่อนบ้านอย่างแนบเนียน

ผลลัพธ์เป็นไปอย่างราบรื่น

“เกาะไซมีมอยู่สุดขอบของหมู่เกาะรอสต์ หากเดินทางจากบายัม ต้องใช้เวลานานสี่ถึงห้าชั่วโมงด้วยเรือโดยสาร และมีเพียงสองเที่ยวต่อวัน คือเก้าและสิบโมงเช้าเท่านั้น ซึ่งวันนี้เลยเวลามาแล้ว… พ่อและแม่ของวินเทอร์จากโลกนี้ไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่มีญาติสนิท สายสัมพันธ์เดียวคือหญิงสาวนามว่าเรนนี่ ซึ่งวินเทอร์ไม่มีโอกาสได้บอกรักหล่อน องค์ประกอบค่อนข้างเหมาะกับผู้ไร้หน้ามือใหม่อย่างเรา สำหรับใช้เติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของคนตาย… แต่การจะให้สารภาพรักต่อหน้าใครสักคนนี่มันออกจะ… น่าอายชะมัด… แล้วจะทำอย่างไรถ้าอีกฝ่ายตอบตกลงขึ้นมา? ควรเอาตัวรอดด้วยคำพูดแบบไหนดี…”

ไคลน์พยายามใช้ความคิด

มันกำลังเค้นสมองนึกถึงบทของนิยายจากโลกเก่า รวมถึงบทละครทีวีชื่อดังในอดีตหลายเรื่อง เพื่อหาทางออกในอุดมคติให้กับความซับซ้อนยุ่งเหยิงคราวนี้

เพียงไม่นาน มันเริ่มได้ข้อสรุป ห้วงอารมณ์กลับมาสงบนิ่ง พลางมุ่งความสนใจไปยัง ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้เพียงผู้เดียว

“ถ้ามิสเมจิกเชี่ยนส่งเครื่องรับโทรเลขถึงมือเราทันเวลาก็คงดี…” ไคลน์ถอนหายใจแผ่วเบาพลางเดินขึ้นรถม้าเช่า

เบ็คลันด์ เขตเชอร์วู้ด

ฟอร์สแกะเปิดจดหมายซึ่งซิลถือติดมือกลับเข้ามาในบ้าน

เป็นจดหมายจากอาวีลล์ นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังประจำกรุงเบ็คลันด์ ภายในจดหมาย อีกฝ่ายมีความสุขมากกับการได้แบ่งปันความน่าตื่นเต้นของเทคโนโลยีการรับส่งคลื่นวิทยุแสนซับซ้อนให้มิสวอลล์

ฟอร์สอ่านข้ามช่วงต้นและกึ่งกลางไป โดยมุ่งประเด็นไปยังส่วนท้ายกระดาษ

“มีน่าสนใจอยู่สามรุ่น แหล่งซื้อขายถูกอธิบายไว้อย่างชัดเจน โดยราคาเครื่องสูงสุดมีมูลค่าสิบสองปอนด์”

ฟอร์พลันถอนหายใจยาว เมื่อตระหนักว่าการแลกเปลี่ยนในคราวนี้มิได้เกี่ยวพันกับเงินก้อนใหญ่

หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่า ศักดิ์ศรีของตนฟื้นฟูกลับคืนมาเล็กน้อย

คงเป็นเพราะเธอได้ฟังตัวเลขจำนวนมหาศาล หลักหลายร้อยหลายพันปอนด์ จากการแลกเปลี่ยนภายในชุมนุมทาโรต์บ่อยครั้งเกินไป เงินจำนวนเพียงสิบกว่าปอนด์จึงแทบไม่อยู่ในสายตา

มิสเตอร์เวิร์ลมีช่องทางในการหาทรัพยากร แถมยังค่อนข้างเงินหนา เราอาจได้ซื้อขายกับเขาในอนาคต… ถ้าอย่างนั้น… ขายราคาทุนก็แล้วกัน อาจบวกเพิ่มในค่าเดินทางและค่าวัตถุดิบพิธีกรรมไปอีกเล็กน้อย…

ฟอร์สได้ข้อสรุป พลางมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว

กรุงเบ็คลันด์ยังคงมืดสลัวเช่นเคย ท้องฟ้ามีฝนโปรยปรายเล็กน้อย แต่หมอกควันไม่หนาทึบเท่าเมื่อก่อน

“ถ้าถุงกระเพาะของผู้กลืนวิญญาณส่งมาถึงมือเร็วๆ ก็คงดี…” ฟอร์สออกท่าทางกระวนกระวาย เธอคงอยากถีบตัวเองให้พ้นจากลำดับ 9 เต็มทีแล้ว

เมืองเงินพิสุทธิ์ บ้านตระกูลเบเกอร์

เดอร์ริคเตรียมถุงกระเพาะอาหารของผู้กลืนวิญญาณเรียบร้อย รวมไปถึงวัตถุดิบวิเศษตามความต้องการของมิสเตอร์แฮงแมนอีกสองสามชนิด แต่ชายหนุ่มยังไม่ใจร้อนสังเวยถึงเดอะฟูลทันที

มันอดทนรออย่างใจเย็น รอให้ประมุขของเมืองนำทีมออกไปสำรวจ หรือไม่ก็ประกอบพิธีกรรมสำคัญสักชนิดเสียก่อน

“ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว… ห้ามประมาทเด็ดขาด!” เดอร์ริคย้ำเตือนกับตัวเองหนักแน่น พลางเปิดอ่าน ‘จดหมายเหตุวังราชาคนยักษ์ ฉบับบันทึกด้วยมือโดยศิลาดำ’

มันเคยอ่านเนื้อหาบางส่วนไปแล้ว และสามารถจินตนาการถึงภาพลักษณ์ของวังราชาคนยักษ์จากสมัยบรรพกาล

หากคำอธิบายไม่ผิดพลาด

นี่คือวังแห่งทวยเทพ!

คล้ายกับห้วงมิติในบริเวณดังกล่าวถูกแช่แข็งกระแสเวลาให้หยุดนิ่งในช่วงเวลาพลบค่ำ บรรยากาศท่วมท้นด้วยความตระการตา ตึกรามบ้านช่องบางแห่งสูงเสียดก้อนเมฆ

หากมนุษย์ย่างกรายเข้าไป พวกมันจะมีขนาดกระจ้อยร่อยจนดูด้อยค่าไปโดยปริยาย ห้วงอารมณ์จะเกิดความศรัทธาต่อผู้เป็นเจ้าของทัศนียภาพอันสมบูรณ์แบบแห่งนี้จากก้นบึ้งหัวใจ

กรุงเบ็คลันด์ เขตฮิลสตัน

บ้านตระกูลเวย์แมนดี้

หลังจากฟังคำอธิบายจบ เอ็มลิน·ไวท์หวีผมจัดแต่งทรง พลางจงใจซักถามเข้าประเด็น

“ท่านบารอน ข้าไม่มั่นใจนักว่าตัวเองเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน แต่จำได้รางๆ ว่า สมัยอดีตกาล เคยมีเมืองชื่อ ‘เงินพิสุทธิ์’ ดำรงอยู่ในช่วงต้นยุคสมัยที่สอง… เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่?”

อีกอยู่ในฝ่ายในสภาพหวีผมเรียบร้อย สวมเชิ้ตผ้าฝ้ายสีแดงสด มือข้างหนึ่งถือกล้องยาสูบ สีหน้ากำลังเพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นของสภาพอากาศ

“ไม่น่าใช่… หรืออย่างน้อย ในความทรงจำของข้าก็ไม่มีเมืองชื่อเงินพิสุทธิ์ในช่วงก่อนยุคมหาภัยพิบัติ”

โดยไม่ปล่อยให้เอ็มลินแสดงความยินดีปรีดาจนเลยเถิด เวย์แมนดี้เสริม

“แต่มีอาณาจักรชื่อเงินพิสุทธิ์อยู่ เคยถูกปกครองโดยราชาคนยักษ์ และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอาณานิคมในภายหลัง”

อาณาจักรเงินพิสุทธิ์?

เอ็มลิน·ไวท์เค้นสมองคิด

“ท่านบารอน แล้วมีคำอธิบายเฉพาะเจาะจงมากกว่านี้ไหม? เกี่ยวกับอาณาจักรเงินพิสุทธิ์บรรพกาลนั่น”

เวย์แมนดี้เงยหน้ามอง พลางเผยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะกล่าว

“อาณาจักรเงินพิสุทธิ์มีสถานะพิเศษภายในวังราชาคนยักษ์ พวกมันมิได้รับใช้ราชาอย่างเออร์เมียร์โดยตรง ความศรัทธาดังกล่าวจะถูกมอบให้กับราชินีแห่งวังราชาคนยักษ์… โอมีเบล่า”

‘เมืองแห่งการให้’ บายัม เขตท่าเรือ

ถนนมะนาวเปรี้ยว โรงแรมวายุคราม

ไคลน์ยืนตรงหัวมุมถนน ปลดจี้บุษราคัมจากข้อมือซ้าย และทำนายเพื่อยืนยันว่าการกลับเข้าไปจะไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้นกับตน

เมื่อเบาใจ ชายหนุ่มกลับไปยังโรงแรมอย่างไม่รีบร้อน เดินขึ้นชั้นสามและเปิดประตูห้องพักสุดหรูเข้าไป

ไคลน์มีอันต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็น ‘เพลิงพิโรธ’ เดนิส เอาแต่นอนซังกะตายบนเก้าอี้เอนหลังพลางจิบเหล้า

หลังจากยืนครุ่นคิด ไคลน์ตัดสินใจซักถามอย่างเย็นชา

“วิธีอะไร?” เดนิสถามด้วยสีหน้างุนงง

ไคลน์ใช้ปลายนิ้วขยับกรอบแว่น พลางยกยิ้มชั่วร้ายตรงมุมปาก

“ใช้เหยื่อล่อ”

เหยื่อล่อ? เดนิสประสานสายตากับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสับสน

จนกระทั่งเริ่มฉุกคิดบางสิ่ง

นอกจากตัวมัน ก็ไม่มีสิ่งใดสามารถใช้เป็นเหยื่อล่อได้อีกแล้ว!

ตามหลักการตกปลาทั่วไป นักตกปลาไม่เคยสนใจว่าเหยื่อจะมีสภาพอย่างไรหลังจากถูกปลางับ! มันสนแต่ปลาเท่านั้น!

สรุปโดยสั้น การยอมเป็น ‘เหยื่อ’ เท่ากับส่งตัวเองเข้าไปสู่ประตูนรก!

“ฮะฮะ! วิธีดังกล่าวไม่ได้ผลหรอก เชื่อฉันสิ ยิ่งไปกว่านั้น ญาณวิเศษของฉันกำลังบอกว่า แถวๆ โรงละครแดงต้องมีเบาะแสสำคัญของ ‘เหล็กกล้า’ ซ่อนอยู่แน่! ฉ…ฉันจะรีบออกไปสืบข่าวเดี๋ยวนี้!”

เดนิสรีบสวมโค้ทตัวใหญ่อย่างลนลาน ก่อนจะเดินพ้นประตูห้องพักบานใหญ่

เดิมที ไคลน์มีแผนจะสะกดรอยตามเพื่อดูว่าเดนิสได้พบเบาะแสใดบ้าง แต่กลับได้ยินเสียงวิงวอนจากใครบางคนเสียก่อน

เป็นเสียงผู้ชาย

ชายหนุ่มหยุดยืนครุ่นคิด และตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำ

ราวสิบวินาทีถัดมา ไคลน์ส่งจิตตัวเองขึ้นไปยังวังสายหมอกสีเทา และพบว่าดาวแดงตัวแทน ‘แฮงแมน’ กำลังยุบพองเป็นจังหวะ

นึกแล้วเชียว… มันเอนหลังพิงเก้าอี้พลางถ่ายวิญญาณเข้าไปในดาวแดง

เสียงของแฮงแมนดังอย่างแจ่มชัด

“ถึงท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ขณะผมได้รับมอบหมายให้สืบสวนกุญแจเทพมรณาของพลเรือโทธารน้ำแข็ง ระหว่างทางได้พบกับ ‘เพลิงพิโรธ’ เดนิสเข้าโดยไม่ตั้งใจในบ่อนพนันเหรียญทอง และทราบว่าชายคนนั้นคือหนึ่งในพยานรู้เห็นเหตุการณ์บนเท่าเรือแบนชี โดยภายหลังยังได้ทราบว่า ชายคนนั้นเตรียมวางแผนแก้แค้น ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้ร่วมกับตัวตนทรงพลังสักคนหนึ่ง ผมสงสัยว่า ‘เพลิงพิโรธ’ เดนิสกำลังทำงานร่วมกับข้าหนึ่งในรับใช้ของท่าน จึงตัดสินใจส่งข้อความวิงวอนในครั้งนี้ หากนั่นเป็นความจริง และเขาต้องการความช่วยเหลือ ผมสามารถมอบความช่วยเหลือได้ตามสถานการณ์”

มิสเตอร์แฮงแมนคาดเดาตัวตนแท้จริงของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ออกแล้วสินะ… ในตอนแรก เขาอาจแค่สงสัย แต่มั่นใจหลังจากได้ถามหยั่งเชิงเดนิส… นั่นสินะ ถ้ามีความช่วยเหลือจากบุคคลในท้องถิ่น การล่า ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้คงราบรื่นกว่าเดิมมาก…

เว้นเสียแต่ว่า แฮงแมนจะพบวิธีจัดการกับเดอะฟูลโดยตรง ไม่อย่างนั้น เขาไม่มีวันหักหลังหรือวางกับดักข้ารับใช้เดอะฟูลแน่นอน… ถ้าประเมินจากท่าทีตอบสนอง ชายคนนั้นยังมิได้เคลือบแคลงในตัวเดอะฟูล… ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เราไม่เคยทิ้งช่องโหว่ให้สืบสาว…

ไคลน์สรุปความคิด

หลังจากทำนายยืนยัน ชายหนุ่มสร้างหมอกเทียมขึ้นมาปกคลุมรอบ ‘เดอะเวิร์ล’ ตัวปลอม และแสร้งทำเป็นสวดวิงวอนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ถึงมิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ผมต้องการความช่วยเหลือจากเขา”

หลังจากจัดการตัวเองเสร็จ ไคลน์ส่งภาพและเสียงเข้าไปในดวงดาวสีแดงเข้มตัวแทนมิสเตอร์แฮงแมนทันที

……………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ