มันกระแอมสองหน หันหน้าไปทางพลเรือโทธารน้ำแข็ง เอ็ดวิน่า·เอ็ดเวิร์ด และกล่าว
“กัปตัน มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีบางสิ่งต้องการถามคุณ”
ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ
หากต้องสบตากันนานกว่านี้ มันเกรงกว่า ตนอาจรักษาบุคลิกเงียบขรึมของเกอร์มันเอาไว้ไม่อยู่
เอ็ดวิน่าพยักหน้ารับเล็กน้อย จ้องมาทางไคลน์ และกล่าวเย็นชา
“มิสเตอร์สแปร์โรว์ คุณจบการศึกษาในระดับใด”
คำถามเชี่ยไรเนี่ย…
สีหน้าไคลน์ยังคงไม่แปรเปลี่ยน เพียงตอบกลับไปเสียงเรียบ
“มหาวิทยาลัย”
อะไรนะ…? เดนิสรีบหันไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์ด้วยสีหน้าสุดทึ่ง มันไม่อยากเชื่อว่า นักผจญภัยและนักล่าค่าหัวเสียสติตรงหน้าตน จะมีโอกาสได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แถมยังเรียนจนจบการศึกษา!
เดนิสมิอาจเชื่อม ‘สัญลักษณ์แห่งความรู้’ อย่างมหาวิทยาลัย เข้ากับบุคลิกสุดโฉดชั่วของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ได้เลย!
นอกเสียจากว่าจะเป็น ‘มหาวิทยาลัยนักล่า’ หรือไม่ก็ ‘มหาวิทยาลัยนักฆ่า’ … หรือจะเป็นมหาวิทยาลัยในจินตนาการ ที่พวกคนไข้จิตเวชนิยมสร้างขึ้นในสมอง?
เดนิสไม่มีทางเลือกนอกจากหมิ่นประมาทอีกฝ่ายในใจ
เอ็ดวิน่ายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เพียงซักถามต่อไปด้วยเสียงนุ่มนวล
“ถนัดภาษาอะไรบ้าง”
“…” ไคลน์พยายามจะไม่ขมวดคิ้ว
“ภาษาคนยักษ์ ภาษาเอลฟ์ ภาษามังกร เฮอร์มิสโบราณ เฮอร์มิส ฟุซัคโบราณ โลเอ็น…”
เอ็ดวิน่าผงกศีรษะแผ่วเบา
“ศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับลึกแค่ไหน”
ไคลน์ถึงกับหมดคำพูด มันรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลาไปยังสมัยเรียนชั้นประถมปีสุดท้าย เนื่องจากตนเป็นเด็กเรียนข้ามชั้น จึงถูกครูยิงคำถามชุดใหญ่
เช่น จำอักษรจีนได้กี่ตัว เรียนบวกลบคูณหารแล้วหรือยัง อ่านภาษาอังกฤษออกไหม และท่องกวีราชวงศ์ถังได้กี่บท…
ใจเย็นไว้… นายคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์…
ไคลน์พยายามตอบเสียงเย็นชา
“ชำนาญมาก”
เอ็ดวิน่าครุ่นคิดสองวินาที ก่อนจะกล่าวต่อไปอย่างไม่รีบร้อน
“ดิฉันจำเป็นต้องทราบระดับความรู้ในปัจจุบันของคุณเสียก่อน จึงจะมอบคำตอบได้อย่างเหมาะสมและเข้าใจง่าย”
ให้ตายสิ…
ไคลน์ถึงกับใบ้กิน มันไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าหญิงงามตรงหน้าเป็นโจรสลัดพาร์ทไทม์ เธอมีบรรยากาศคล้ายคุณครูเข้มงวดแต่หวังดีกับนักเรียนมากกว่า
เมื่อตระหนักว่าแวมไพร์ติดตุ๊กตายังแวะไปเรียนคำสอนในโบสถ์ทุกวันได้ ตนก็ต้องทำได้เช่นกัน
ไคลน์เริ่มใจเย็นลง
นี่คือพลเรือโจรสลัดคนแรกที่เราได้พูดคุยอย่างเป็นทางการ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขนาดนี้…
ไคลน์รำพันห่อเหี่ยว ก่อนจะเริ่มถาม
“คำถามแรก สัตว์วิเศษอาศัยอยู่ในแถบใดของทะเลบ้าง นับเฉพาะชนิดที่พบได้บ่อย”
มันมิได้ถามถึงนางเงือกโดยตรง ด้วยเกรงว่าพลเรือโทธารน้ำแข็งอาจทราบถึงจุดประสงค์แท้จริง และนั่นจะส่งผลกระทบต่อแผนระยะยาวของตน
เอ็ดวิน่ายืนไตร่ตรองสักพัก ลบข้อความเกี่ยวกับ ‘พิธีกรรมวิญญาณสถิต’ บนกระดานดำออก และวาดภาพใหม่ลงไป
“จากเกาะโซเนีย ล่องเรือตรงมาทางนี้หนึ่งพันส้องร้อยไมล์ทะเลจะเป็นการทะลุเข้าสู่น่านน้ำซึ่งมนุษย์ยังสำรวจไม่ทั่วถึง ในแถบดังกล่าวจะมีพวก ‘นากา’ ชุกชุม พวกมันพยายามค้นหาเมืองใต้ทะเลอันร่ำลือว่ามีสัตว์ประหลาดทรงพลังอาศัยอยู่ โดยสิ่งมีชีวิตดังกล่าวคือเป้าหมายของความศรัทธาของพวกมัน…”
เอ็ดวิน่าเล่าอย่างละเอียดไปทีละจุด ข้อมูลบางส่วนได้รับมาระหว่างการค้นหาสมบัติ และบางส่วนได้รับจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือข่าวลือกับผู้อื่น
ใช้เวลาสักพักกว่าเอ็ดวิน่าจะสอนจบ แต่ไคลน์กลับยังคงท้อแท้ เพราะนอกจากหมู่เกาะการ์กัสทางสุดขอบทะเลตะวันออกแล้ว ก็ไม่มีนางเงือกอาศัยอยู่แถบใดในโลกอีกเลย
มันรีบปรับอารมณ์และถามต่อ
“ข้อสอง คุณทราบวิธีลบจิตกัดกร่อนออกจากตะกอนพลังหรือไม่”
ไคลน์ไม่ปกปิดความรู้เกี่ยวกับตะกอนพลัง
เอ็ดวิน่าเผยประกายในดวงตาเป็นหนแรก คล้ายกับเธอกำลังมองเกอร์มัน·สแปร์โรว์ในมุมใหม่
จากนั้นก็ส่ายหน้า
“ไม่ทราบ แต่เคยมีไอเดียอยู่บ้าง ต้องใช้พลังจากภายนอกทำลายตะกอนพลังให้แหลกละเอียดจนใกล้เคียงฝุ่น ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าจะเป็นจิตกัดกร่อนหรือคำสาป อำนาจของพวกมันจะเสื่อมลงทันที และสลายไปกับอากาศภายในเวลาไม่นาน ส่วนตะกอนพลัง พวกมันจะดึงดูดกันเองจนรวมตัวกลับไปเป็นก้อนเดิมอีกครั้งอย่างเชื่องช้า… แต่น่าเสียดาย นอกจากเทพแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถกระทำเช่นนั้นได้ หากคุณได้รับความรักจากเทพองค์ใดเป็นพิเศษ ให้ลองวิงวอนถึงท่านและสังเวยสิ่งแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม บางทีอาจประสบผลสำเร็จ”
กฎการดึงดูดระหว่างพลังพิเศษบนเส้นทางเดียวกันสินะ… ไคลน์ตอบคำถามในจุดที่เอ็ดวิน่าจงใจว่างเว้น
ขณะเดียวกัน มันทำได้เพียงถอนหายใจอย่างท้อแท้ เพราะพลเรือโทธารน้ำแข็งคนนี้ กัปตันแห่งฝันทองคำ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับในระดับลึกซึ้งจนน่าทึ่ง เทียบเท่าตนผู้ได้อ่านไดอารีจักรพรรดิโรซายล์และเคยเผชิญเหตุการณ์มากมายผ่านห้วงมิติเหนือสายหมอก
มีข่าวลือว่า พลเรือโทธารน้ำแข็งสามารถเลียนแบบพลังพิเศษได้หากเคยเห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน… ฟังดูคล้ายกับแหวนของมิสเตอร์ไอเซนการ์ด·สแตนธอน ‘2-081’ …
ไคลน์รีบนำตัวเองกลับมายังบทสนทนา
“ผมเห็นด้วยกับทฤษฎี”
“แต่น่าเสียดาย ดิฉันยังไม่เคยลองปฏิบัติจริงเลยสักครั้ง จึงทำได้เพียงจินตนาการ” เอ็ดวิน่าใช้คำสื่อถึงอารมณ์ซึ่งเธอหยิบมาพูดไม่บ่อยนัก
เดนิสผู้เฝ้ามองจากด้านนอก กำลังยืนมึนงงสุดขีด และไม่เข้าใจแม้แต่เรื่องเดียว
พวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร? ทำไมเราถึงเข้าใจทุกคำ แต่ไม่สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้เลย… อะไรคือตะกอนพลัง? อะไรคือบดจนเป็นฝุ่น? อะไรคือการดึงดูด?
เดนิสมองสลับซ้ายขวา ดวงตาสองข้างเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ