ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 535

สรุปบท ราชันเร้นลับ 535: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ 535 – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ตอนนี้ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ราชันเร้นลับ 535 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 535 : รักการสอน
ราชันเร้นลับ 535 : รักการสอน
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อเริ่มทนกับสถานการณ์อึดอัดตรงหน้าไม่ไหว เดนิสตัดสินใจกระทำบางสิ่ง

มันกระแอมสองหน หันหน้าไปทางพลเรือโทธารน้ำแข็ง เอ็ดวิน่า·เอ็ดเวิร์ด และกล่าว

“กัปตัน มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีบางสิ่งต้องการถามคุณ”

ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ

หากต้องสบตากันนานกว่านี้ มันเกรงกว่า ตนอาจรักษาบุคลิกเงียบขรึมของเกอร์มันเอาไว้ไม่อยู่

เอ็ดวิน่าพยักหน้ารับเล็กน้อย จ้องมาทางไคลน์ และกล่าวเย็นชา

“มิสเตอร์สแปร์โรว์ คุณจบการศึกษาในระดับใด”

คำถามเชี่ยไรเนี่ย…

สีหน้าไคลน์ยังคงไม่แปรเปลี่ยน เพียงตอบกลับไปเสียงเรียบ

“มหาวิทยาลัย”

อะไรนะ…? เดนิสรีบหันไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์ด้วยสีหน้าสุดทึ่ง มันไม่อยากเชื่อว่า นักผจญภัยและนักล่าค่าหัวเสียสติตรงหน้าตน จะมีโอกาสได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แถมยังเรียนจนจบการศึกษา!

เดนิสมิอาจเชื่อม ‘สัญลักษณ์แห่งความรู้’ อย่างมหาวิทยาลัย เข้ากับบุคลิกสุดโฉดชั่วของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ได้เลย!

นอกเสียจากว่าจะเป็น ‘มหาวิทยาลัยนักล่า’ หรือไม่ก็ ‘มหาวิทยาลัยนักฆ่า’ … หรือจะเป็นมหาวิทยาลัยในจินตนาการ ที่พวกคนไข้จิตเวชนิยมสร้างขึ้นในสมอง?

เดนิสไม่มีทางเลือกนอกจากหมิ่นประมาทอีกฝ่ายในใจ

เอ็ดวิน่ายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เพียงซักถามต่อไปด้วยเสียงนุ่มนวล

“ถนัดภาษาอะไรบ้าง”

“…” ไคลน์พยายามจะไม่ขมวดคิ้ว

“ภาษาคนยักษ์ ภาษาเอลฟ์ ภาษามังกร เฮอร์มิสโบราณ เฮอร์มิส ฟุซัคโบราณ โลเอ็น…”

เอ็ดวิน่าผงกศีรษะแผ่วเบา

“ศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับลึกแค่ไหน”

ไคลน์ถึงกับหมดคำพูด มันรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลาไปยังสมัยเรียนชั้นประถมปีสุดท้าย เนื่องจากตนเป็นเด็กเรียนข้ามชั้น จึงถูกครูยิงคำถามชุดใหญ่

เช่น จำอักษรจีนได้กี่ตัว เรียนบวกลบคูณหารแล้วหรือยัง อ่านภาษาอังกฤษออกไหม และท่องกวีราชวงศ์ถังได้กี่บท…

ใจเย็นไว้… นายคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์…

ไคลน์พยายามตอบเสียงเย็นชา

“ชำนาญมาก”

เอ็ดวิน่าครุ่นคิดสองวินาที ก่อนจะกล่าวต่อไปอย่างไม่รีบร้อน

“ดิฉันจำเป็นต้องทราบระดับความรู้ในปัจจุบันของคุณเสียก่อน จึงจะมอบคำตอบได้อย่างเหมาะสมและเข้าใจง่าย”

ให้ตายสิ…

ไคลน์ถึงกับใบ้กิน มันไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าหญิงงามตรงหน้าเป็นโจรสลัดพาร์ทไทม์ เธอมีบรรยากาศคล้ายคุณครูเข้มงวดแต่หวังดีกับนักเรียนมากกว่า

เมื่อตระหนักว่าแวมไพร์ติดตุ๊กตายังแวะไปเรียนคำสอนในโบสถ์ทุกวันได้ ตนก็ต้องทำได้เช่นกัน

ไคลน์เริ่มใจเย็นลง

นี่คือพลเรือโจรสลัดคนแรกที่เราได้พูดคุยอย่างเป็นทางการ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขนาดนี้…

ไคลน์รำพันห่อเหี่ยว ก่อนจะเริ่มถาม

“คำถามแรก สัตว์วิเศษอาศัยอยู่ในแถบใดของทะเลบ้าง นับเฉพาะชนิดที่พบได้บ่อย”

มันมิได้ถามถึงนางเงือกโดยตรง ด้วยเกรงว่าพลเรือโทธารน้ำแข็งอาจทราบถึงจุดประสงค์แท้จริง และนั่นจะส่งผลกระทบต่อแผนระยะยาวของตน

เอ็ดวิน่ายืนไตร่ตรองสักพัก ลบข้อความเกี่ยวกับ ‘พิธีกรรมวิญญาณสถิต’ บนกระดานดำออก และวาดภาพใหม่ลงไป

“จากเกาะโซเนีย ล่องเรือตรงมาทางนี้หนึ่งพันส้องร้อยไมล์ทะเลจะเป็นการทะลุเข้าสู่น่านน้ำซึ่งมนุษย์ยังสำรวจไม่ทั่วถึง ในแถบดังกล่าวจะมีพวก ‘นากา’ ชุกชุม พวกมันพยายามค้นหาเมืองใต้ทะเลอันร่ำลือว่ามีสัตว์ประหลาดทรงพลังอาศัยอยู่ โดยสิ่งมีชีวิตดังกล่าวคือเป้าหมายของความศรัทธาของพวกมัน…”

เอ็ดวิน่าเล่าอย่างละเอียดไปทีละจุด ข้อมูลบางส่วนได้รับมาระหว่างการค้นหาสมบัติ และบางส่วนได้รับจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือข่าวลือกับผู้อื่น

ใช้เวลาสักพักกว่าเอ็ดวิน่าจะสอนจบ แต่ไคลน์กลับยังคงท้อแท้ เพราะนอกจากหมู่เกาะการ์กัสทางสุดขอบทะเลตะวันออกแล้ว ก็ไม่มีนางเงือกอาศัยอยู่แถบใดในโลกอีกเลย

มันรีบปรับอารมณ์และถามต่อ

“ข้อสอง คุณทราบวิธีลบจิตกัดกร่อนออกจากตะกอนพลังหรือไม่”

ไคลน์ไม่ปกปิดความรู้เกี่ยวกับตะกอนพลัง

เอ็ดวิน่าเผยประกายในดวงตาเป็นหนแรก คล้ายกับเธอกำลังมองเกอร์มัน·สแปร์โรว์ในมุมใหม่

จากนั้นก็ส่ายหน้า

“ไม่ทราบ แต่เคยมีไอเดียอยู่บ้าง ต้องใช้พลังจากภายนอกทำลายตะกอนพลังให้แหลกละเอียดจนใกล้เคียงฝุ่น ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าจะเป็นจิตกัดกร่อนหรือคำสาป อำนาจของพวกมันจะเสื่อมลงทันที และสลายไปกับอากาศภายในเวลาไม่นาน ส่วนตะกอนพลัง พวกมันจะดึงดูดกันเองจนรวมตัวกลับไปเป็นก้อนเดิมอีกครั้งอย่างเชื่องช้า… แต่น่าเสียดาย นอกจากเทพแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถกระทำเช่นนั้นได้ หากคุณได้รับความรักจากเทพองค์ใดเป็นพิเศษ ให้ลองวิงวอนถึงท่านและสังเวยสิ่งแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม บางทีอาจประสบผลสำเร็จ”

กฎการดึงดูดระหว่างพลังพิเศษบนเส้นทางเดียวกันสินะ… ไคลน์ตอบคำถามในจุดที่เอ็ดวิน่าจงใจว่างเว้น

ขณะเดียวกัน มันทำได้เพียงถอนหายใจอย่างท้อแท้ เพราะพลเรือโทธารน้ำแข็งคนนี้ กัปตันแห่งฝันทองคำ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับในระดับลึกซึ้งจนน่าทึ่ง เทียบเท่าตนผู้ได้อ่านไดอารีจักรพรรดิโรซายล์และเคยเผชิญเหตุการณ์มากมายผ่านห้วงมิติเหนือสายหมอก

มีข่าวลือว่า พลเรือโทธารน้ำแข็งสามารถเลียนแบบพลังพิเศษได้หากเคยเห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน… ฟังดูคล้ายกับแหวนของมิสเตอร์ไอเซนการ์ด·สแตนธอน ‘2-081’ …

ไคลน์รีบนำตัวเองกลับมายังบทสนทนา

“ผมเห็นด้วยกับทฤษฎี”

“แต่น่าเสียดาย ดิฉันยังไม่เคยลองปฏิบัติจริงเลยสักครั้ง จึงทำได้เพียงจินตนาการ” เอ็ดวิน่าใช้คำสื่อถึงอารมณ์ซึ่งเธอหยิบมาพูดไม่บ่อยนัก

เดนิสผู้เฝ้ามองจากด้านนอก กำลังยืนมึนงงสุดขีด และไม่เข้าใจแม้แต่เรื่องเดียว

พวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร? ทำไมเราถึงเข้าใจทุกคำ แต่ไม่สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้เลย… อะไรคือตะกอนพลัง? อะไรคือบดจนเป็นฝุ่น? อะไรคือการดึงดูด?

เดนิสมองสลับซ้ายขวา ดวงตาสองข้างเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

“หากเสนอเงินให้มากพอ คุณจะขายกุญแจดอกนั้นหรือไม่”

“แน่นอน นอกเสียจากว่า ดิฉันจะค้นพบเบาะแสของวังราชาคนยักษ์เพิ่มเติม” เอ็ดวิน่ายังคงพูดด้วยเสียงเยือกเย็น

ไม่เลว… หากวันใดชุมนุมทาโรต์ตัดสินใจสำรวจวังราชาคนยักษ์ เราจะซื้อกุญแจดอกนี้ต่อจากเธอ…

ขณะกำลังจะพูดว่า ‘คำถามสุดท้าย’ ชายหนุ่มบังเอิญฉุกคิดถึงกลุ่มนักผจญภัยสี่คนจากเกาะไซมีมขึ้นมาได้

มันอาศัยพลังของยันต์ห้วงความฝัน เพื่อวาดภาพหญิงสาวดวงตาสีฟ้าผู้สวมเสื้อผ้าของบุรุษ รวมถึงพวกพ้องชายอีกสามคน

“รู้จักพวกเขาไหม”

เอ็ดวิน่าชำเลือง และตอบแทบจะในทันที

นิกายมอสส์… องค์กรลับเก่าแก่ซึ่งศรัทธาในตัว ‘ปราชญ์เร้นลับ’ … ไม่ผิดแน่ เป้าหมายของหล่อนไม่ใช่เพื่อเงิน แต่เป็นบางสิ่งสำคัญภายในวิหารร้าง…

ไคลน์ซักถามเป็นกันเอง

“เลติเซีย·โดเรล่า นักโบราณคดีและนักผจญภัย มีข่าวลือหนาหูว่า เธอเป็นสมาชิกของ ‘นิกายมอสส์’ หรือไม่ก็ ‘แก่นรุ่งอรุณ’ คุณรู้จักแก่นรุ่งอรุณดีแค่ไหน”

แก่นรุ่งอรุณ องค์กรลับซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับ ‘สมาคมแปรจิต’ ในหลายด้าน เช่นการพึ่งก่อตั้งเมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อน การนำแก่นคำสอนของทุกศาสนาและโรงเรียนมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง พัฒนาจนกลายเป็นหลักสูตรของตัวเองขึ้นมา สมาชิกส่วนใหญ่ชำนาญเวทมนตร์และการใช้คาถา

เอ็ดวิน่าเม้มปาก

“ได้ยินว่ามีความขัดแย้งกับนิกายมอสส์ ก่อตั้งโดยบุตรสาวคนโตของจักรพรรดิโรซายล์มหาราช แบร์นาแดต·กุสตาฟ”

แบร์นาแดตคือหัวหน้า ‘แก่นรุ่งอรุณ’ ?

คำทำนายของซาราธนับว่าแม่นยำเอาเรื่องทีเดียว… มันเคยบอกว่าหล่อนจะกลายเป็นบุคคลสำคัญแห่งโลกผู้วิเศษ…

ไคลน์ถอนหายใจเงียบ

มันพยายามไม่แสดงท่าทีห่อเหี่ยวให้เดนิสและเอ็ดวิน่าเห็น

ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ

“คำถามสุดท้าย”

รอให้สายตาของสาวงามและ ‘เพลิงพิโรธ’ จ้องมาทางตน ชายหนุ่มฉีกยิ้ม

“สนใจจะร่วมมือกันไหม”

“ในเรื่องใด” เอ็ดวิน่าย้อนถาม

รอยยิ้มบนใบหน้าไคลน์เริ่มกว้างทีละนิด

จนดูคล้ายกับชายเสียสติ

“ล่าพลเรือเอกโลหิต”

……………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ