ตอน ราชันเร้นลับ 550 จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ราชันเร้นลับ 550 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
สามารถสร้างสึนามิ สร้างพายุเฮอร์ริเคน สร้างฝนฟ้าคะนอง สร้างพายุฟ้าผ่า ทำให้คนบินไปบนฟ้า เดินใต้ทะเล ได้โดยแทบไม่มีขีดจำกัดเหนี่ยวรั้ง
ตัวคทาแทบไม่มีโอกาสถูกทำลาย สามารถใช้ทุบหัวศัตรูได้โดยตรง หากไม่มีการรบกวนจากตัวตนระดับสูงกว่า ผู้ถือคทาแทบไม่มีวันหลงทาง มอบสมดุลทางร่างกายอันเป็นเลิศ สามารถออกคำสั่งกับสัตว์ทะเล ตอบสนองคำสวดวิงวอนของสาวก และสามารถมอบพลังระดับเดียวกับสัตว์ทะเลให้เป้าหมาย หรือสรุปโดยสั้น เจ้าของคทาด้ามนี้สามารถปกครองส่วนหนึ่งของท้องทะเลได้ไม่ยากเย็น
สำหรับไคลน์ พลังมากมายข้างต้นนับว่าเข้าข่ายขอบเขตของครึ่งเทพ เพราะแม้แต่ในสมรภูมิบนบก มันก็มั่นใจว่าตนสามารถหยุดยั้งการรุกรานจากฝูงบินรบกองทัพข้าศึกได้!
ย้อนกลับมามองตัวเอง ผู้วิเศษลำดับ 6 ที่เปี่ยมด้วยพลังพิเศษชั้นยอดมากมาย บางที ในสายตาคนทั่วไป ไคลน์สามารถกลายเป็นบุคคลในตำนานได้ไม่ยาก แต่สำหรับโลกผู้วิเศษ ตัวมันช่างเปราะบาง ใกล้เคียงกับคำว่า ‘มนุษย์’ มากกว่า ‘เทพ’ หากไม่ระวังให้ดี ลำพังปืนลูกโม่ธรรมดากระบอกเดียวก็สามารถปลิดชีพตนได้ แน่นอน การคลานขึ้นจากหลุมศพนั้นค่อนข้างเป็นกรณีพิเศษ
อย่างไรก็ตาม หากใครได้ครอบครองคทาเทพสมุทร ระดับตัวตนของมันจะเข้าใกล้กับเทพมากกว่ามนุษย์ทันที เป็นพลังระดับเดียวกับในนิทานก่อนนอนปรัมปรา พบได้เฉพาะสิ่งมีชีวิตประเภทเทพและมาร
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม บุคคลตั้งแต่ลำดับ 4 ขึ้นไปถึงถูกเรียกว่าครึ่งเทพ เพราะระดับของตัวตนใกล้เคียงกับเทพมากกว่ามนุษย์…
ไคลน์ถอนหายใจเงียบ หัวเราะกับตัวเอง
หากเราสามารถใช้คทาเทพสมุทรได้อย่างอิสระ ตอนนี้ก็คงสมัครเป็นหนึ่งในอาวุโสใหญ่ของเหยี่ยวราตรีได้ทันที กลายเป็นสุดยอดสี่สิบสองบุคคลทรงอำนาจแห่งโบสถ์รัตติกาล…หรือถ้าอินซ์·แซงวิลล์ไม่มี 0-08 อยู่กับตัวและหลงเข้ามาในทะเล เราสามารถลงมือแก้แค้นได้ทันที แถมโอกาสสำเร็จก็ยังไม่น้อย…
แต่คำถามคือ มันใช้คทาเทพสมุทรได้อย่างอิสระหรือไม่?
“ไม่…”
ไคลน์เพิ่งพบว่า ผลข้างเคียงของคทาเทพสมุทรนั้นร้ายแรงจนน่าขนลุก ชนิดที่ว่าถ้าเป็นโบสถ์รัตติกาล สมบัติปิดผนึกชิ้นนี้จะต้องถูกจัดอยู่ในความอันตรายระดับ 1 แน่นอน และไม่ทางเดาได้เลยว่า ทีมวิจัยจะต้องสังเวยชีวิตไปมากเท่าไร กว่าจะพบวิธีผนึกคทาด้ามนี้ให้ไม่มีพิษภัย
คทาเทพสมุทรมีผลเสียใหญ่ๆ อยู่สามข้อ
ข้อแรก คทาจะทำให้ผู้ใช้งานฉุนเฉียวง่าย โมโหง่าย และมักทำอะไรบุ่มบ่าม
ข้อสอง คทาจะค่อยๆ แช่แข็งความคิดของสิ่งมีชีวิตในรัศมีรอบตัวทั้งหมด พร้อมกับสูบเลือดและความชุ่มชื้นออกจากร่างกายจนเหือดแห้ง รวมถึงตัวผู้ใช้งานด้วย หากถามถึงรัศมีการแสดงผล ไคลน์ไม่ใช่นักวิจัยมืออาชีพ ยังมิอาจระบุขอบเขตเป็นตัวเลขได้แม่นยำนัก แต่ก็พอจะกะเกณฑ์ได้อย่างคร่าว รัศมีการแสดงผลนั้นกว้างราวหกร้อยเมตรถึงหนึ่งกิโลเมตร และรอบการสูบเลือดจะวนมาทุกๆ ยี่สิบถึงสามสิบห้านาที
ข้อสาม ได้ยินการสวดวิงวอนจากสาวกทุกคนภายในรัศมี แน่นอน ทั้งภาพและเสียง เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้วิเศษลำดับต่ำกว่าครึ่งเทพซึ่งมีจิตใจไม่เข้มแข็ง เกิดภาวะคลุ้มคลั่งในบันดลเพราะได้รับข้อมูลปริมาณมหาศาลเข้าไป
“ข้อแรกยังพบรับได้ หากเราใช้งานไม่นานนัก อาการฉุนเฉียวก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หลังจากนั้นค่อยนำไปผนึกให้แน่นหนา เพียงเท่านี้ก็ปราศจากผลข้างเคียงแล้ว ในส่วนของข้อสาม เราพอจะหาวิธีหลีกเลี่ยงได้ การสวดวิงวอนถึงเทพสมุทรจะมีระยะทางจำกัด หรือในอีกความหมายหนึ่ง ขอเพียงเดินทางออกจากหมู่เกาะรอสต์ ไปยังสักอาณาจักรบนบก เสียงสวดวิงวอนของสาวกก็จะส่งไปไม่ถึง เรียกว่าไม่มีผลข้างเคียงก็ยังได้ อา…การเก็บเอาไว้ในมิติเหนือสายหมอกก็คงได้ผลแบบเดียวกัน สามารถกีดขวางเสียงสวดวิงวอนได้ชะงักงัน โดยจะปรากฏในรูปแบบของละอองแสงรอบคทาแทน ไม่ส่งผลใดต่อเราทั้งนั้น จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เลือกตอบใครก็ได้ และตอบอย่างไรก็ได้ โดยขณะตอบสนอง เรายังสามารถใช้พลังอื่นจากคทาเทพสมุทรได้ด้วย”
“แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือข้อสอง ตัวเราเองยังไม่เท่าไร เพราะในร่างจักรพรรดิมืดวิญญาณอาฆาต จะไม่มีเลือดให้สูบ แต่ปัญหาคือผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตรอบข้างทั้งหมด ไม่แบ่งแยกมิตรหรือศัตรู แถมยังกะเกณฑ์ระยะเวลาสูบเลือดได้ลำบาก…หรือถ้าไม่ต้องการสร้างอันตรายให้คนบริสุทธิ์ เราควรเจรจากับศัตรูเพื่อขอเปลี่ยนสถานที่ต่อสู้…ดีไหม?”
ไคลน์ครุ่นคิด ภาพการใช้คทาเทพสมุทรในรูปแบบต่างๆ ถูกจำลองในหัว แต่ไม่ว่าจะด้วยสภาพแวดล้อมแบบใด การนำคทาเทพสมุทรไปใช้งานจริงก็แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้น
“เฮ่อ…เห็นที ชะตากรรมของมันคงต้องอยู่บนมิติสายหมอกเพียงอย่างเดียว รอให้คนแบบอามุนด์แทรกซึมเข้ามา จากนั้นค่อยใช้คทาเขกกะโหลก…ไม่สิ ต้องสร้างสายฟ้าลงมาผ่ากบาล…แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีวิธีใช้งานในรูปแบบอื่น ตัวอย่างเช่น เมื่อมิสเตอร์แฮงแมนหรือมิสจัสติสขอความช่วยเหลือ ตัวเลือกจะมิได้จำกัดเพียงเทวทูตกระดาษอีกต่อไป เรายังสามารถเสกฝน เสกพายุ… แน่นอน วิธีการทำนั้นไม่ซับซ้อน ลักษณะเดียวกับการใช้แสงชำระล้างจากเข็มกลัดสุริยัน ส่งพลังผ่านเทวทูตกระดาษไปอีกทอดหนึ่ง เมื่อลองนึกดูให้ดี ด้วยความช่วยเหลือจากคทาเทพสมุทร การรับบทบาทครึ่งเทพบนมิติสายหมอกก็ยิ่งสมจริงมากขึ้น…”
อารมณ์ของไคลน์เริ่มกลับมาสดชื่น เพราะอย่างน้อยก็พบว่า คทาเทพสมุทรมิได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว อาจช่วยให้งานของตนหลายด้านสะดวกสบายขึ้นในอนาคต
มันเพ่งสมาธิอีกครั้ง สายตาจ้องมองคทาด้ามสีขาวที่ส่วนหัวเลี่ยมด้วยอัญมณีสีฟ้าเม็ดเล็กจำนวนมาก พลางผุดคำถามใหม่ :
เราควรตอบสนองต่อคำสวดวิงวอนของสาวกเทพสมุทรหรือไม่…?
“คาเวทูว่าตายไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้คนเหล่านั้นยึดเหนี่ยวในเทพที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง…แต่ถึงนักบวชและหัวหน้ากลุ่มต่อต้านพบความผิดปรกติหรือไม่ได้รับการตอบสนองเป็นเวลานาน พวกเขาคงไม่ล้มเลิกความเชื่อของตนโดยง่าย มนุษย์มักหาทางปลอบใจตัวเองอยู่เสมอ สะกดจิตให้ตัวเองเชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ โดยเฉพาะช่วงเวลายากลำบากของชีวิต ตัวอย่างที่ชัดเจนไม่ต้องหาจากไหนไกล เมืองเงินพิสุทธิ์ แม้จะผ่านมาแล้วกว่าสองพันปี พวกเขากลับยังคงประกอบพิธีกรรมสังเวยให้พระผู้สร้างอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกจะเชื่อว่า พระองค์เพียงทอดทิ้งพวกตนไป และอาจกลับมาเหลียวแลในสักวัน ด้วยหลักการเดียวกัน เมื่อสาวกคลั่งไคล้ของเทพสมุทรไม่ได้รับการตอบสนอง นอกจากพวกเขาจะไม่เชื่อว่าคาเวทูว่าเสียชีวิตไปแล้ว พิธีกรรมสังเวยคงยิ่งดุเดือดและเพิ่มจำนวนขึ้นจากเดิม โดยหวังจะได้รับความรักจากเทพอีกครั้ง…ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีหรือไม่กี่สิบปี ไม่มีทางเยียวยาให้ตาสว่าง…เมื่อกลุ่มต่อต้านไม่มีเทพพื้นเมืองอย่างคาเวทูว่าคอยหนุนหลัง เกรงว่ากองทัพฟุซัคหรืออินทิสจะเข้ามาล้างสมอง ถึงตอนนั้น กลุ่มต่อต้านอาจทำในสิ่งที่ขัดต่อหลักศีลธรรมยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้เทพพึงพอใจ ตัวอย่างเช่น การบุกถล่มเขตชุมชน หรือการฝึกฝนเด็กหนุ่มตัวเล็กขึ้นมาเป็นโล่มนุษย์ เราควรชี้นำให้พวกเขาเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง ควรสอนสั่ง และสาธิตให้เห็นว่าความศรัทธาที่ถูกต้องเป็นเช่นไร ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำเกินตัว ช่วยได้เท่าที่ช่วย เราไม่มีหน้าที่ต้องรักษาชีวิตคนเหล่านี้”
ไคลน์เคาะโต๊ะทองแดงยาวลายโบราณ พลางเผยรอยยิ้มตรงมุมปาก
“แบบนี้ก็ดีเลยไม่ใช่หรือ…คาเวทูว่าถือเป็นเป้าหมายอันยอดเยี่ยมสำหรับเทคนิคสวมบทบาทผู้ไร้หน้า เราสามารถ ‘สวมรอย’ แทนคนเดิมได้อย่างแนบเนียน…แต่เราไม่รู้ว่าการสวมบทบาทบนมิติสายหมอกจะถูกขัดขวางหรือไม่ และได้รับการตอบสนองจากโอสถไหม ฮะฮะ… ของแบบนี้ ไม่ลองก็คงไม่รู้”
เมื่อตัดสินใจได้ ไคลน์รู้สึกผ่อนคลาย
หลังจากวางแผนเสร็จ มันทำการแสดงภาพที่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็น จากนั้นก็ถือคทาเทพสมุทร แผ่พลังวิญญาณเข้าไป สัมผัสกับหนึ่งในละอองแสงที่รายล้อม
…
ในป่าลึกแห่งหนึ่งบนเกาะภูเขาคราม
ณ ถ้ำลึกลับ
สมาชิกกลุ่มต่อต้าน หัวล้าน·ไครัท กำลังนอนหมอบไปบนพื้นใกล้กับวีลแชร์ ดวงตาสับสนและสิ้นหวัง พยายามตะเกียกตะกายไปหาเทวรูปคาเวทูว่าที่แตกหักด้วยตัวเอง
ด้านหลังแยนน์·ค็อตแมนคือกลุ่มหัวกะทิจากทูตพิพากษาและสมาชิกกองทัพ ทุกคนกวาดสายตาไปรอบตัวอย่างระแวดระวัง ไม่กล้าประมาทระบบความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตประเภทครึ่งเทพ
ทันใดนั้น พวกมันได้ยินเสียง ‘ฟ้าว’ หนึ่งระลอก ก่อนจะถูกลมพายุพัดพาร่างกายและร่อนลงจอดบริเวณหน้าทางเข้าห้องโถงหลัก
ทุกคนเห็นเศษก้อนเนื้อ ศพของงูทะเลที่เหลือเพียงกระดูกสีขาว วางพาดยาวใจกลางห้องพร้อมด้วยชิ้นเนื้ออีกไม่มาก
“ฝีมือใคร!”
แยนน์·ค็อตแมนคำรามต่ำ พยายามระงับโทสะมิให้ปะทุออก
เมื่อสิ้นเสียงตะโกน ม่านน้ำตกพลันสาดเทลงมาจากความว่างเปล่าเบื้องบน
เสียงคลื่นทะเลดังสะท้อนจนกังวานไปทั่วห้องโถงซึ่งพังไปเกินกว่าครึ่ง ก่อนที่กระแสน้ำตกแนวตั้งจะเริ่มไหลเงียบเชียบด้วยผิวเรียบเนียนประหนึ่งทะเลสาบยามสงบ
ผิวน้ำตกฉายภาพเหตุการณ์ก่อนหน้า :
ใครบางคนที่แทบจะมองไม่ออก ทำการดึงคทาสีขาวซึ่งส่วนหัวเลี่ยมอัญมณีสีฟ้าจำนวนมาก ออกจากซากเสาหินถล่ม เป็นเหตุให้น้ำทะเลโดยรอบหมุนวนจนโบราณสถานสั่นสะเทือนหนักหน่วง
แยนน์·ค็อตแมนสูดลมหายใจยาว หันไปออกคำสั่งกับทุกคน
“หามันให้พบ”
…
ในคราวนี้ ไคลน์เลือกสาวกคนสำคัญเพิ่มอีกราวสิบราย จากนั้นก็ตอบสนองกลับไปแบบตัวต่อตัว จุดประสงค์เพื่อให้ช่วยกันเผยแพร่บัญญัติศาสนาข้อใหม่
“ข้ากลับมาเพื่อยกโทษให้กับบาปในอดีตของทุกคน ขณะเดียวกันก็เพื่อช่วยมอบแสงสว่างและความจริงแก่พวกเจ้า บัญญัติประการแรก : ห้ามสังเวยสิ่งมีชีวิตอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะมนุษย์”
……………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ