“สตรี สตรี สตรี แล้วก็สตรี การเคลื่อนไหวร่างกายที่ซ้ำซากราวกับเครื่องจักร กลิ่นน้ำหอมที่ฟุ้งกระจายจนมิอาจแยกแยะ ความอบอุ่นของร่างหญิงสาวที่เกิดจากการก่ายกอด ความสุขสมเพียงเสี้ยววินาที แต่หลังจากนั้นต้องเผชิญความว่างเปล่า ห่อเหี่ยว และชาชิน”
“ชีวิตแบบนี้น่าสนุกตรงไหน… การทำกิจวัตรเช่นนี้ทุกวันมีประโยชน์อันใด?”
“เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องหาวิธีหลุดพ้นจากสภาพอันน่าสมเพชโดยเร็ว!”
“ขอเตือนความจำตัวเองอีกครั้ง ห้ามเผลอเขียนตัวเลขอาราบิกในชีวิตประจำวันเด็ดขาด!”
ท่านมหาจักรพรรดิเองก็มีช่วงเวลาย้อนทบทวนตัวเองกับเขาด้วยหรือ… ผิดจากที่คิดไว้พอสมควร… ไคลน์เกือบขมวดคิ้ว
จากนั้น มันก้มอ่านเนื้อหาส่วนถัดไป
“11 เมษายน เคาต์เทสวาเรียนชวนเราเข้าร่วมงานซาลอนส่วนตัวอีกแล้ว แต่ครั้งนี้หล่อนบอกว่า มาดามจูเลียก็จะมาร่วมด้วย”
“หึหึ… สตรีหัวโบราณคนนั้นเนี่ยนะ”
“รอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว!”
“แต่ไหนแต่ไร เราเคยทำได้เพียงจินตนาการภาพหล่อนบนเตียง… หึหึ คงได้แต่หวังว่าสามีของเธอ ไวเคาต์เดลเลี่ยน จะไม่ถือสาเอาความ”
ท่านมหาจักรพรรดิ ลืมไดอารี่ที่เขียนเมื่อวันก่อนไปแล้วหรือ… เฮ่อ… เรื่องแบบนี้คงหอมหวานมากสินะ คงเป็นสันดานที่ไม่มีทางเปลี่ยนได้ของนาย… ไคลน์รำพัน
“14 เมษายน เราเอาแต่ทำเรื่องอย่างว่าจนร่างกายอ่อนเพลียไปหมด”
“ปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้!”
“แม้จะยังหนุ่มยังแน่น แต่ถ้าทำมากเกินไปโดยไม่เว้นช่วงพักเสียบ้าง การเสื่อมสภาพสมรรถภาพก็อาจมาเยือนโดยไม่ต้องรอถึงตอนแก่!”
“จริงอยู่ โอสถนักโบราณคดีช่วยเสริมกำลังวังชาและประสิทธิภาพร่างกาย แต่นี่ไม่ใช่จุดเด่นของอาชีพ เป็นแค่ส่วนเสริมที่ช่วยให้สำรวจซากโบราณได้ง่ายขึ้น”
“โชคดี การเพิ่มลำดับช่วยให้พลังจากโอสถก่อนหน้ายกระดับขึ้นมาก ถือว่าเรา ‘อึด’ กว่ามนุษย์ปรกติพอสมควร”
“หืม… ถ้าจำไม่ผิด ‘นักปรุงยา’ สามารถผลิตยาอย่างว่าได้โดยแทบไม่มีผลข้างเคียง เห็นทีคงต้องหาคนปรึกษาสักหน่อย”
“แล้วก็ เราจำเป็นต้องยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป มาตรฐานความสุขทางเพศของเราจะสูงขึ้น จนกิจกรรมทั่วไปไม่สามารถทำให้ถึงจุดสุดยอด ต้องสรรหาสิ่งพิสดารมาช่วยเติมเต็ม”
“เมื่อลองสงบสติและใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน โลกนี้ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมาย แต่เรากลับหมกมุ่นอยู่แต่กามอารมณ์จนมองไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริง… ทำไมจิตของเราถูกส่งข้ามโลก ความลับของดวงดาวบนท้องฟ้าคืออะไร จิตมนุษย์มาจากไหน? ถ้ามาจากจิตในชาติที่แล้ว… ก่อนจะมาเป็นตัวเรา ฮวงเทา เราเคยเป็นใคร? แล้วใครคือจิตต้นกำเนิด?”
ท่านมหาจักรพรรดิ เมื่อครู่ก่อนจะอึ๊บสาว ท่านยังทำตัวเป็นหมาล่าเนื้ออยู่เลย แต่หลังจากเสร็จกิจก็เปลี่ยนเป็นมหาปราชญ์ทันทีเลยหรือ… เคยกังวลเกี่ยวกับการเดินทางข้ามโลกเหมือนกันสินะ คิดว่าในใจมีแต่เรื่องพรรค์นั้นเสียอีก…
โชคยังดีที่นายไม่สอนภาษาจีนกลางให้กับทายาท… ไม่อย่างนั้น หากพวกเขาได้อ่านไดอารีเหล่านี้เข้า คงรู้สึกน่าสังเวชพิลึก… ซาราธเคยทำนายไว้ว่า บุตรสาวคนโต แบร์นาแดตจะหันหลังให้กับนาย และอาจถึงขั้นทรยศ… เริ่มฟังดูสมเหตุสมผลขึ้นมาบ้างแล้ว… บางที การไม่สอนภาษาจีนกลาง ก็คงเพื่อป้องกันมิให้เกิดเรื่องราวดังกล่าว…
เนื้อหาในไดอารีของโรซายล์ทำให้ไคลน์รู้สึกขบขัน แต่ก็ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า
สำหรับชายหนุ่ม ไดอารีโรซายล์เป็นทั้งแหล่งความรู้ชั้นยอดและหนังสือคลายเครียดในเวลาเดียวกัน
อ่านถึงจุดนี้ มันพลิกไปยังหน้าถัดไป
“2 ตุลาคม ซาราธมาหาเราอีกครั้ง”
“มันหวังว่า ตัวเราที่กลายเป็นครึ่งเทพแล้ว จะรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ในตอนแรก นั่นคือการขโมยสมบัติปิดผนึกสุดอันตรายมาจากโบสถ์ เป้าหมายเป็นสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสแห่งยุคสมัยที่สี่… สมบัติปิดผนึกระดับ 1!”
ข้อความดังกล่าวทำให้รูม่านตาของไคลน์หดเกร็งอย่างมิอาจควบคุม
นี่คือสมุดบันทึกที่ลัทธิเร้นลับ ซึ่งมีซาราธเป็นผู้นำ ทำสูญหายในภายหลัง…
นี่คือสิ่งที่ทำให้ไคลน์?โมเร็ตติคนก่อนต้องจบชีวิตลง และเป็นสิ่งที่ทำให้เรา โจวหมิงรุ่ย มาเกิดใหม่บนโลกใบนี้!
ต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด!
เข้าใจแล้ว… สมุดบันทึกมิได้ตกอยู่ในมือลัทธิเร้นลับมาตั้งแต่แรก แต่เป็นสมบัติปิดผนึกระดับ 1 ของโบสถ์จักรกลไอน้ำ โดยในภายหลัง ด้วยฝีมือจารกรรมของโรซายล์มหาราช สมุดดังกล่าวจึงตกอยู่ในมือซาราธ ผู้นำแห่งลัทธิเร้นลับ…
หากจำไม่ผิด สมาชิกของลัทธิเร้นลับที่เคยอยู่ในถุงมือยุบพองหิวโหย ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวต่อซาราธเป็นอย่างมาก และมองว่าอีกฝ่ายไม่มีวันตาย เป็นสัตว์ประหลาดพิสดาร…
หรือว่าซาราธจะได้รับผลประโยชน์บางอย่างจากสมุดบันทึก แต่ขณะเดียวกันก็เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น ส่งผลให้จากมนุษย์ที่เคยสื่อสารกับโรซายล์ กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด ลัทธิเร้นลับจึงสูญเสียสมุดบันทึกในเวลาถัดมา?
แน่นอน ยังมีอีกหนึ่งความเป็นไปได้… ซาราธจงใจทำมันสูญหาย…
อา… เนื่องจากซาราธกลายเป็นสัตว์ประหลาด ลัทธิเร้นลับจึงสูญเสียนางเงือกทั้งหมดที่เลี้ยงไว้ ทำให้ ‘ผู้นำไร้หน้า’ ต้องเสี่ยงชีวิตออกทะเลเพื่อตามหานางเงือกด้วยตัวเอง?
…โรซาโก้ตามหานางเงือกในน่านน้ำของซากสมรภูมิเทพสำเร็จ?
เมื่อสมมติฐานมากมายแล่นผ่านสมอง หัวใจไคลน์เริ่มตื่นตัว
ชายหนุ่มไม่คิดว่าโรซายล์จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสมากนัก เพราะความบังเอิญส่วนใหญ่สามารถอธิบายได้ด้วยกฎการดึงดูดของพลังพิเศษบนเส้นทางเดียวกัน หากใช้ตรรกะดังกล่าว เรื่องก็นับว่าสมเหตุสมผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ