สรุปเนื้อหา ราชันเร้นลับ 601 – ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet
บท ราชันเร้นลับ 601 ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ในที่สุด มันยังคงเลือกทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ปลดปล่อยดวงวิญญาณของนักจิตบำบัดออกจากถุงมือหนังมนุษย์
ด้านข้างโต๊ะทองแดงยาวพลันปรากฏร่างมายาของคนตัวสูง เธอเป็นสตรี ใบหน้าค่อนข้างพร่ามัว แต่สีหน้าอันเจ็บปวดและบิดเบี้ยวกลับแจ่มชัด
ไคลน์จ้องหล่อนสักพัก ชวนเข้าสู่บทสนทนา
“ยังจำตัวเองได้ไหม”
ท่ามกลางมิติลึกลับ ชายหนุ่มสามารถสื่อสารกับดวงวิญญาณได้โดยตรง
นักจิตบำบัดเริ่มบรรเทาความรู้สึกด้านลบ มุมปากเผยรอยยิ้มขื่นขม
“แน่นอน ยังจำได้ ดิฉันเป็นสมาชิกขององค์กรลับแห่งหนึ่ง เดินทางไปยังเกาะทอสคาร์เตอร์เพื่อเยี่ยมเพื่อนสนิท แต่กลับต้องเผชิญหน้าโจรสลัดระหว่างทาง แม้ฉันจะใช้พลังของตัวเองเอาตัวรอดมาได้ แต่โจรสลัดที่หนีไปกลับคาบข่าวไปบอกคีลิงเกอร์ เพื่อที่จะช่วงชิงพลังของฉัน มันถึงกับยอมเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ ซุ่มโจมตีเรือของพวกเรา คุณคงเดาเหตุการณ์หลังจากนั้นได้ไม่ยาก แต่ต้องขอบคุณในความไม่ประมาทของมัน คีลิงเกอร์ฆ่าฉันทันที จึงไม่ต้องเผชิญความทุกข์ทรมานที่เลวร้ายไม่ต่างจากตายทั้งเป็นเหมือนกับผู้โดยสารหญิงคนอื่น”
ไคลน์เงียบงัน พยักหน้ารับอ่อนโยน
“รู้จักหนังสือโบราณที่ชื่อการเดินทางของกรอซายไหม”
ชายหนุ่มเชื่อว่า ในเมื่อการเดินทางของกรอซายถูกเขียนโดยตระกูลมังกร โอกาสที่นักจิตบำบัดจะเคยได้ยินชื่อก็ไม่เป็นศูนย์
นักจิตบำบัดสาวครุ่นคิดอย่างจริงจัง ตามด้วยการส่ายหน้าแผ่วเบา
“ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนั้น”
ไคลน์ไม่ซักไซ้ประเด็นเก่า เปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแทน
“คุณกำลังจะสลายไป ได้รับอิสรภาพอันเป็นนิรันดร์ มีความปรารถนาสุดท้ายเหลืออยู่ไหม”
นักจิตบำบัดก้มหน้าครุ่นคิด หัวเราะเบาๆ
“อยากคืนชีพอีกสักครั้ง… แต่ดิฉันทราบดีว่าความปรารถนาดังกล่าวคงไม่มีวันเป็นจริง ตอนนี้ไม่เหลือสิ่งใดให้ค้างคาใจอีกแล้ว ผ่านมาก็นาน ครอบครัวและเพื่อนสนิทคงได้รับข่าวการตายกันถ้วนหน้า หากต้องทราบข่าวสะเทือนใจซ้ำอีกหน เกรงว่าจะเกิดความเจ็บปวดขึ้นโดยไม่จำเป็น ขอบคุณมาก ดิฉันไม่ต้องการอะไรแล้ว”
ร่างกายหญิงสาวเลือนรางลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสลายไปโดยสมบูรณ์ เหลือทิ้งไว้เพียงผลึกดวงตาสีทองขนาดใหญ่ ผลึกที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงจิตใจมนุษย์ทุกคน
นี่คือตะกอนพลังของนักจิตบำบัด
ไคลน์ถอนหายใจยาว ครุ่นคิดเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อยระหว่างคำพูดของหญิงสาว
“เธอถ่อไปถึงเกาะทอสคาร์เตอร์เพียงเพื่อพบเพื่อนสนิท เป็นการเดินทางตามลำพัง ไม่มีญาติคนใดไปด้วยกัน เกาะทอสคาร์เตอร์ตั้งอยู่สุดเขตตะวันออกของทะเลโซเนีย ถูกล้อมกรอบด้วยหมู่เกาะการ์กัสทั้งทิศเหนือและใต้ เกาะดังกล่าวเป็นอาณานิคมทางทะเลที่ไกลที่สุดของอาณาจักรโลเอ็น โดยที่หมู่เกาะการ์กัสเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิฟุซัค… ต้องเป็นเพื่อนแบบใดกันถึงอาศัยบนเกาะทอสคาร์เตอร์… แล้วคุ้มค่ากับการถ่อไปไกลถึงเพียงนั้นจริงหรือ… ถึงเธอมิได้เอ่ยชื่อองค์กรลับ แต่ก็มีโอกาสเป็นสมาคมแปรจิตมากทีเดียว และนี่อาจเป็นภารกิจลับบางอย่าง…”
ไคลน์ตัดสินใจเคารพผู้ตาย หยุดการขุดคุ้ยความลับของอีกฝ่าย คำถามในสมองจบลงเพียงเท่านี้ เปลี่ยนประเด็นไปคิดถึงเรื่องอื่นแทน
หลังจากสังหารนักเจรจา·มีซอร์·คิง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด แต่เราก็ต้องรีบย้ายออกจากบายัมโดยเร็ว… ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เราก่อเรื่องภายในเมืองแห่งการให้ไปไม่น้อย…
อา… คงต้องเข้าร่วมชุมนุมลับอีกสักสองสามแห่งดูก่อน ยืนยันให้แน่ใจว่าเมืองนี้ไม่มีวัตถุดิบหลักของโอสถนักเชิดหุ่น จึงค่อยย้ายออกเป็นการถาวร…
ไคลน์คิดไวทำไว สร้างฉากเดอะเวิร์ลกำลังสวดวิงวอนโดยมีสายหมอกสีเทารายล้อมรอบทิศ ส่งเข้าไปในดาวแดงตัวแทนจัสติส
…
ออเดรย์บนระเบียงชั้นสามกำลังมองออกไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง หลังคาบ้านส่วนใหญ่ในละแวกดังกล่าวเป็นสีของอิฐแดง จงใจเลียนแบบให้เกิดเป็นลวดลายเกล็ดมังกร
ทันใดนั้น ทัศนียภาพรอบตัวหญิงสาวพลันถูกปกคลุมด้วยสายหมอกสีเทาที่คุ้นเคย
ท่ามกลางกลุ่มหมอกหนา ชายคนหนึ่งกำลังสวดวิงวอนต่อเทพอย่างศรัทธา
“มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ช่วยแจ้งให้มิสจัสติสทราบด้วยว่า ผมพร้อมทำการแลกเปลี่ยนแล้ว”
พร้อมแลกเปลี่ยน? หมายความว่าเขาหาตะกอนพลังของนักจิตบำบัดได้แล้ว…
แต่เมื่อวานยังไม่มีอยู่เลย…
การลงมืออันฉับไวของเดอะเวิร์ลทำให้หญิงสาวเริ่มเกิดความหวาดกลัว ยืนเหม่อลอยจนเกือบลืมขอบคุณมิสเตอร์ฟูล
น่าทึ่งมาก…
เธอมิได้เป็นหญิงสาวไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกอีกต่อไป เคยเห็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่มาไม่น้อย สติจึงคืนความสุขุมได้รวดเร็ว
ออเดรย์ขอบคุณเดอะฟูลจากก้นบึ้ง และฝากไปถึงมิสเตอร์เวิร์ลว่า ขอเวลาอีกสักสองสามวัน เพราะตนต้องชำระเงินที่ติดค้างกับข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูลให้ครบเสียก่อน
จริงอยู่ เธออาจมีเงินในมือมากเพียงพอ แต่ก็ต้องกันไว้ใช้ในยามฉุกเฉินส่วนหนึ่ง ไม่อย่างนั้น คนรอบตัวอาจพบความผิดปรกติ
รอจนกระทั่งหมอกมายาเลือนหาย หญิงสาวก้มหน้าลงไปมองซูซี่ที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานภายในสวนชั้นล่าง
ออเดรย์เดินกลับเข้าห้อง พึมพำกับตัวเอง
“มิสเตอร์เวิร์ลน่ากลัวจัง…”
…
ตกเย็น ณ ผับสายหร่ายทะเล
เนตรสีฟ้า·มีธที่เพิ่งนำเงินไปถลุงกับบ่อนพนัน นั่งลงหน้าเคาน์เตอร์ สั่งเแลงติร้อนแรงดื่ม
ขณะเตรียมยกแก้วซด บาร์เทนเดอร์พลันหรี่เสียงลงและกระซิบ
“นักเจรจา·มีซอร์ตายแล้ว”
“ตาแก่มีนิสัยชอบบอกใบ้ในจุดที่คาดไม่ถึง หรือว่าจดหมายฉบับนั้นจะมีเบาะแสเขียนไว้…? แต่จดหมายมิได้กล่าวถึงเรื่องใดเป็นพิเศษ เพียงนัดหมายให้เรามาพบใกล้กับโรงละครแดง รวมถึงการโอ้อวดเกี่ยวกับฝีมือนักพนัน เฮ่อะ! ฝีมืออะไรกัน การพนันขึ้นอยู่กับดวงเพียงอย่างเดียวไม่ใช่รึไง… หืม… เขายังบอกให้เราแวะไปยังร้านขายของชำ ‘มาร์เบล’ บนถนนเอ็นมาร์ทเพื่อซื้อลูกเต๋าหนึ่งลูก ไว้สำหรับเรียนเทคนิคการพนันจากเขา… เราคิดมาตลอดว่าเดี๋ยวค่อยซื้อหลังจากได้พบกันก็คงไม่สาย จึงไม่เคยไปที่นั่นเลยสักครั้ง… กำลังจะบอกว่าร้านนั้นมีความลับซ่อนอยู่?”
ดัควีลล์เค้นสมองนึกหาทางออกราวกับคนกำลังจะจมน้ำตาย
โดยทั่วไปแล้ว ถนนหลายสายของบายัมจะถูกตั้งชื่อตามเมืองสำคัญของโลเอ็น
ดัควีลล์ใช้เวลานานหลายนาทีเพื่อรวบรวมความกล้า ปิดร้านสมุนไพร เดินออกมายังถนนพร้อมกับนกฮูกอ้วน
ขณะยืนรอรถม้า มันซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่จากเด็กส่ง กวาดตาอ่านข่าวภายในและภายนอกเกาะด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
ทันใดนั้น มันได้พบใบหน้าอันคุ้นเคย เป็นภาพของนักผจญภัยคนที่แจ้งเบาะแสว่ารอย·คิงถูกจับขังในจวนนายกเทศมนตรี
“เกอร์มัน·สแปร์โรว์ ลงมือสังหารมีซอร์·คิงยามกลางวันแสก ส่งผลให้โจรสลัดเจ้าของเงินค่าหัวห้าพันสี่ร้อยปอนด์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ… นี่เราจ้างให้นักผจญภัยที่แข็งแกร่งขนาดนั้นช่วยทำงานหาเบาะแส…” ดัควีลล์โพล่งเสียงดัง
แต่เพียงไม่นานก็ขจัดความคาใจ รีบขึ้นรถม้าเช่าตรงไปยังถนนเอ็นมาร์ท ตามหาร้านขายของชำมาร์เบลจนพบ
เจ้าของร้านเป็นหญิงชราใจดี เธอมองสำรวจดัควีลล์หัวจรดเท้าและกล่าว
“ลูกเต๋าที่คุณต้องการมีราคาหนึ่งปอนด์”
คิดจะปล้นกันรึไงวะ!
ดัควีลล์สบถในใจ แต่นั่นยิ่งทำให้มันมั่นใจว่าลูกเต๋าดังกล่าวคือเบาะแส
หลังจากควักเงินจ่าย มันรับกล่องแหวนขนาดเล็กมาถือ เปิดฝาสำรวจ พบลูกเต๋าสีขาวนมสดหนึ่งลูก มีหกด้านตามมาตรฐาน กำลังเผยด้านที่มีสี่จุดสีแดงไว้ข้างบน
แม้จะสงสัยในหลายประเด็น ทั้งความธรรมดาของลูกเต๋า และเรื่องที่มันถูกยัดลงในกล่องขนาดพอดิบพอดี แทบไม่มีช่องว่างเว้นไว้ให้ขยับ แต่ดัควีลล์ตัดสินใจไม่ยืนตรวจสอบทันที เก็บใส่กระเป๋าเสื้อ เดินตรงไปยังอีกฝั่งของถนน
รอจนกระทั่งมาถึงจุดอับสายตา มันอดใจไม่ไหวที่จะเปิดฝาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าไม่มีสิ่งผิดปรกติกับลูกเต๋า
ทันใดนั้น รถม้าลึกลับแล่นผ่านหลังไปด้วยความเร็วสูง ดัควีลล์พลันสะดุ้ง รีบสะบัดข้อมืออย่างลนลาน ทำลูกเต๋าหล่นตกพื้น
ลูกเต๋ากลิ้งกุกกัก จนกระทั่งหยุดแน่นิ่งบนพื้นถนนโดยหงายจุดสีแดงหนึ่งจุดขึ้นด้านบน
ดัควีลล์หันไปสบถด่าคนขับรถม้าอย่างหยาบคาย ตามด้วยการย่างกรายเข้าใกล้ลูกเต๋า เตรียมหยิบมันขึ้นมา
ขณะกำลังเดิน ร่างกายเกิดเสียหลักกะทันหันโดยที่รอบตัวไม่มีอุปสรรคใดเลย นักปรุงยาอ้วนล้มฟุบไปบนพื้นพร้อมกับเกิดอาการวิงเวียน
มันหมดคำจะกล่าวเป็นเวลานาน นอนแน่นอนนิ่งอยู่เช่นนั้น ด้านหน้ามองเห็นเพียงลูกเต๋าสีขาวนมสด
……………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ