หญิงสาวนั่งมองจัสติสและเมจิกเชี่ยนก้มหน้าเขียนไดอารีจักรพรรดิโรซายล์เพื่อจ่ายหนี้ที่เคยติดค้างกับเดอะฟูล จากนั้น แคทลียาเหลือบมองไปทางเก้าอี้ประธานชุมนุม แต่สายตายังคงมิอาจทะลวงผ่านม่านหมอกสีเทาเข้าไปได้ เห็นเพียงเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเสกขึ้นมา
หลังจากรับไดอารีจักรพรรดิโรซายล์สามหน้ามาถือ ไคลน์ไม่รีบร้อนก้มหน้าอ่านตามปรกติ ส่วนหนึ่งเพราะมันเพิ่งได้ใกล้ชิดกับสมบัติปิดผนึกระดับ 0 วัตถุที่เป็นถึง ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทางกงล้อโชคชะตา แถมยังข่มขู่อีกฝ่ายให้หวาดกลัว ดังนั้น ไม่ว่าเนื้อหาในไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์จะน่าตื่นเต้นสักเพียงใด แต่ก็คงมิอาจสร้างความตกตะลึงให้ได้มากนัก
นอกเสียจาก เขาจะถูกแม่มดบรรพกาลอวยพรและได้รับสิทธิ์ให้เป็นหญิงชั่วคราว…
ไคลน์รำพันติดตลก กวาดตามองไปรอบโต๊ะทองแดงยาวเล็กน้อย
หืม… ความอยากรู้อยากเห็นของมาดามเฮอร์มิทแตกต่างจากมิสจัสติสกับมิสเมจิกเชี่ยน คล้ายกับเธอให้ความสนใจในตัวไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์เป็นพิเศษ…
ไคลน์เบือนหน้ากลับ บันทึกสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ไว้ในความทรงจำ ตามด้วยการก้มหน้าอ่านแผ่นกระดาษหนังสีน้ำตาลในมือ
“22 เมษายน พวกเราพร้อมแล้วที่จะเข้าไปสำรวจนรก!”
“23 เมษายน พวกเราแล่นเรือไปตามร่องน้ำทะเลสีดำสนิท ผ่านกลุ่มหมอกของเหลวเข้มข้น จนไปถึงยอดเขาที่มีลักษณะคล้ายสัตว์ประหลาด ถัดจากภูเขาเต็มไปด้วยสายหมอกสีดำไร้ขอบเขตที่ดูราวกำลังแผ่ปกคลุมทั้งผืนทวีป เมื่อก้มมองลงจากยอดเขา เราอดคิดไม่ว่าก้นเหวด้านล่างอาจไม่มีสุดสิ้นสุด ยังหันไปเล่นมุกกับเอ็ดเวิร์ดว่า หากฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงไป เกรงว่าอาจมิได้ตายเพราะร่างกายกระแทกพื้น แต่จะค้างอยู่ในสภาพ ‘ร่อนลง’ จนกระทั่งแก่ตาย”
อ่านถึงตรงนี้ ไคลน์เกือบหลุดขมวดคิ้ว เพราะเป็นการยากที่จะให้เชื่อว่า จักรพรรดิโรซายล์บ้าบิ่นถึงขั้นพาจตุรอาชาและลูกเรือของตน เสี่ยงชีวิตเข้าไปสำรวจภายในนรก!
ไม่กลัวตายเลยหรือ… หากเราจำไม่ผิด เพียงบรรยากาศด้านในนรกก็มากพอจะกัดกร่อนทุกสรรพสิ่งจนสิ้นซาก ไม่มีทางที่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้… โรซายล์ในขณะนั้นยังไม่ใช่ครึ่งเทพด้วยซ้ำ อย่างมากก็ลำดับ 5 หรืออาจน้อยกว่า… ถ้าเป็นเราคงหันหัวเรือกลับทันที และรายงานเรื่องดังกล่าวให้โบสถ์ทราบ…
เป็นอีกครั้งที่ไคลน์ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างตนกับโรซายล์
ยิ่งไปกว่านั้น สภาพแวดล้อมของ ‘นรก’ ที่จักรพรรดิโรซายล์อธิบาย ทำให้ไคลน์หวนนึกถึงบานประตูปริศนาในสุสานตระกูลอามุนด์
เป็นบานประตูที่หุ่นกลของฮารามิค·ไฮเดิน อาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์จักรกลไอน้ำ เอื้อมมือสัมผัส
โรซายล์ค้นพบอะไรในนรก… แต่อย่างน้อย เขาก็มิได้ตายระหว่างการสำรวจ เพราะช่วงชีวิตหลังจากนั้นยังคงเต็มไปด้วยความสุดโต่ง…
ไคลน์ก้มหน้าลง อ่านส่วนที่เหลือของไดอารีแผ่นแรกให้จบ
“24 เมษายน พวกเราลงจากภูเขา พยายามสำรวจให้ลึกกว่าเดิม”
“หมอกสีดำโดยรอบทั้งเย็นเฉียบและเหนอะหนะ คล้ายกับมีฤทธิ์ทำให้เปียกชุ่มไปถึงแก่นของดวงวิญญาณ ฮะฮะ… แต่โชคดีว่าสมบัติบางชิ้นบนเรือ ‘บัลลังก์มืด’ สามารถป้องกันการกัดกร่อนในลักษณะนี้ได้ ไม่อย่างนั้น บรรดาจตุรอาชาและเราคงได้กลายเป็นกลุ่มอันเดดลีเจี้ยนนานแล้ว”
“ที่นี่เงียบมาก พวกเราไม่พบสิ่งใดเลย”
“25 เมษายน พวกเราได้พบกับปีศาจสักที แต่มาในรูปแบบของศพเน่าเปื่อย”
“พวกเราพบศพปีศาจกระจัดกระจายเต็มทั่วทุกซอกมุม ไม่ว่าจะเป็นด้านหลังหินก้อนใหญ่สีดำสนิท หรือบนทางเดินโคลนที่ยากจะเรียกว่าถนน รวมไปถึงทุกจุดที่คาดไม่ถึงว่าจะมี”
“ราวกับพวกมันทั้งหมดเสียชีวิตพร้อมกัน และด้วยสาเหตุการตายเดียวกัน”
“26 เมษายน พวกเรายังไม่พบอะไรนอกจากศพปีศาจและความเงียบงัน”
“สมบัติวิเศษในบัลลังก์มืดเริ่มส่งสัญญาณการถูกกัดกร่อน”
“เราไม่เคยเกิดความหวาดกลัวถึงเพียงนี้มาหลายปีแล้ว ที่นี่มอบความรู้สึกคล้ายกับถูกฝ่ามือล่องหนบีบรัดหัวใจจนอึดอัด”
“ต้องรีบกลับทันที! อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว!”
เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น? โรซายล์หนีรอดจากนรกอย่างราบรื่น หรือเจออะไรเข้ากลางทาง? ฉากที่นรกโรซายล์บรรยายหมายถึงอะไร?
เกิดสงครามขึ้นที่นั่นอย่างกะทันหัน?
ไคลน์รีบพลิกไปถัดไปด้วยความคาดหวัง แต่น่าเสียดายที่มันมิได้ต่อเนื่องจากของเก่า
“8 พฤษภาคม แบร์นาแดตที่น่ารักของเรามีอายุครบสองขวบแล้ว! ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก เธอสืบทอดพันธุกรรมของเราและแม่เด็กไปอย่างสมบูรณ์”
“เมื่อได้ยินแบร์นาแดตเรียกว่าพ่อ เมื่อได้เห็นความน่ารักสดใสของเธอ เราเกิดความพึงพอใจและความยินดีอย่างน่าประหลาด”
“สารภาพตามตรง นับตั้งแต่เดินทางข้ามโลก เราเคยผ่านเรื่องราวมากมาย บ้างก็น่าละอาย แต่เราไม่นึกเสียใจที่ได้ทำลงไป เพราะตามสันดานแล้ว เราเป็นพวกยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่อยู่ มักถูกสิ่งเร้ารอบตัวกระตุ้นได้ง่ายดายเสมอ ฮะฮะ… ต้องขอบคุณโชคชะตาที่ช่วยให้เราไม่ต้องเผชิญกับ ‘ผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย’ ของเส้นทางปีศาจ ไม่อย่างนั้น จากรายละเอียดที่บันทึกไว้ในเอกสารลับของโบสถ์ เรามั่นใจว่าตัวเองจะถูกเส้นทางดังกล่าวเล่นงานได้ง่ายกว่าคนปรกติ บางทีอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ตายทันที”
“ถึงเราจะไม่มีความผูกพันกับโลกใบนี้สักเท่าไร แต่พ่อแม่ของโลกนี้เลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี อย่างน้อยก็ต้องการตอบแทนให้พวกท่านเกิดความภาคภูมิใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ