ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 642

สรุปบท ราชันเร้นลับ 642: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปตอน ราชันเร้นลับ 642 – จากเรื่อง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

ตอน ราชันเร้นลับ 642 ของนิยายInternetเรื่องดัง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 642 : ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
ราชันเร้นลับ 642 : ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
โดย
Ink Stone_Fantasy
ไม่เพียงจะรู้ภาษามังกร แต่งใช้เขียนบันทึกในช่วงความเป็นความตายของชีวิต… ไม่แปลกใจว่าทำไมสมาคมแปรจิตถึงต้องการสมุดบันทึกของอัศวินคนดังกล่าว…

ออเดรย์รีบดึงสติกลับ หันไปสนทนากับมิตเชล·ดิตเตอร์อย่างตื่นเต้นและเอาจริงเอาจังเกี่ยวกับความผิดปรกติในด้านลีลาการเขียน

จากนั้นไม่นาน การพูดคุยเกี่ยวกับสมุดบันทึกปกดำก็จบลง มิตเชลเริ่มแนะนำของสะสมชิ้นอื่น

จากวินาทีเป็นนาที การเดินเที่ยวชมห้องสะสมได้จบลงอย่างเป็นทางการ เดิมที ออเดรย์มีแผนจะขอซื้อสมุดบันทึกในการพบกันครั้งหน้า อีกฝ่ายจะได้ไม่เกิดความระแวงหรือสงสัย แต่บรรยากาศอันชื่นมื่นและเป็นมิตรได้ส่งสัญญาณกับเธอว่า นี่คือโอกาสอันเหมาะสมที่จะบรรลุเป้าหมายหลัก หญิงสาวถ่ายพลังเข้าไปใน ‘คำลวง’ เพื่อฉาบแก้มของตนให้แดงระเรื่อและมีเลือดฝาด

“มิสเตอร์ดิตเตอร์ ดิฉันสนใจหมวกเหล็กของตระกูลเซารอนจากสงครามกุหลาบขาวใบนี้มาก เพราะเป็นวัตถุที่ช่วยให้ระลึกถึงวีรกรรมอันห้าวหาญของบรรพบุรุษตระกูล ต้องขอเรียนถามตามตรงว่า ดิฉันสามารถซื้อต่อจากคุณได้ไหม? อีกทั้งยังสนใจสมุดบันทึกจากสงครามสองทศวรรษด้วย เพราะดิฉันนับถือความกล้าหาญของอัศวินผู้ยืนหยัดปกป้องเกาะโซเนียจนวินาทีสุดท้าย จึงต้องการเก็บสะสมไว้ ดิฉันทราบดี มันเป็นคำขอร้องที่เสียมารยาทและเห็นแก่ตัว แต่ได้โปรดเข้าใจความรู้สึกของทางนี้ด้วย แน่นอน คุณมีสิทธิ์ตอบปฏิเสธค่ะ”

ดวงตาของเธอกลอกกลับไปกลับมา บ้างพยายามหลบหน้า บ้างจ้องตา เป็นอากัปกิริยาของคนที่รู้สึกผิด กระอักกระอ่วน และเสียใจ

มิตเชล·ดิตเตอร์รีบเบือนสายตาหนีจากการเพ่งมองของหญิงสาว มอบคำตอบอ่อนโยน

“ผมเป็นนักสะสม… จะไม่ขายของสะสม”

น้ำเสียงและการใช้คำยังขาดความหนักแน่น… จากข้อมูลที่เราได้รับ เขาคือสุภาพบุรุษผู้ให้ความสำคัญกับชื่อเสียง การขอซื้อของสะสมด้วยเงินโดยตรงคงเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ…

เหตุผลที่สมาคมแปรจิตไม่ส่งคนมาติดต่อขอซื้อโดยตรง หนึ่งคงเพราะต้องการมอบหมายภารกิจให้เราสะสมคะแนนผลงาน แต่อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องเจรจาอย่างระมัดระวัง และไม่ทำให้รองศาสตราจารย์ขุ่นเคือง… เราต้องเปลี่ยนวิธีเข้าหา…

ก่อนออเดรย์จะมาเยือน เธอเตรียมแผนสำรองไว้มากมายในกรณีแผนหลักล้มเหลว เป็นแผนที่ถูกคิดคำนวณจากข้อมูลในมือ หญิงสาวตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา

“มิสเตอร์ดิตเตอร์ ดิฉันได้ยินมาว่า คุณอยากก่อตั้งสถาบันวิจัยและเก็บรักษาโบราณวัตถุภายในมหาวิทยาลัยสโตนใช่ไหมคะ”

“ครับ สิ่งนี้เป็นเป้าหมายของผมในช่วงหลายปีหลัง” มิตเชลกลับมาจ้องออเดรย์ มอบคำตอบเถรตรง

หญิงสาวยกมุมปากอย่างสง่างาม

“ดิฉันสนใจงานวิจัยประเภทนี้มาก และมีความชื่นชมในตัวคุณมากเช่นกัน จึงต้องการช่วยให้คุณสมหวัง เอาอย่างนี้เป็นไงคะ ดิฉันจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยสโตนและบริจาคเงินสดหนึ่งพันปอนด์ รวมถึงที่ดินอีก 1.3 ตารางกิโลเมตรพร้อมอาคารที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับวิจัยและเก็บรักษาโบราณวัตถุ ดิฉันทราบดีว่า เท่านี้คงยังไม่เพียงพอ จึงเตรียมชักชวนให้บรรดาชนชั้นสูงทั้งหลายช่วยกันทำแบบเดียวกัน มิสเตอร์ดิตเตอร์ คุณคือนักสะสมวัตถุโบราณที่มีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก มากที่สุดเท่าที่ดิฉันรู้จัก ถ้าอย่างไรช่วยเป็นผู้ดูแลสถาบันวิจัยแห่งนี้ได้หรือไม่คะ?”

ที่ดิน 1.3 ตารางกิโลเมตรใกล้กับเขตมหาวิทยาลัยจะมีมูลค่าเทียบเท่าหกพันปอนด์ เมื่อนับรวมอาคาร อุปกรณ์ และเงินสดเข้าไป มิสออเดรย์จะบริจาคมากถึงเกือบหนึ่งหมื่นปอนด์ในคราวเดียว… หากมีสถาบันวิจัยและเงินทุนมากขนาดนี้คอยสนับสนุน ปัญหาในงานวิจัยของเราก็จะลดลงอย่างมาก…

มิตเชลเงียบงันนานหลายวินาที ก่อนจะเผยรอยยิ้มอย่างจริงใจ โค้งคำนับและกล่าว

“คุณหนูผู้สูงศักดิ์ ผมรู้สึกทึ่งในความกระตือรือร้นที่จะใฝ่หาความรู้ของคุณ ถือเป็นความสง่างามทางปัญญาที่ไม่ด้อยไปกว่าความเลอโฉมที่โด่งดังไปทั่วราชอาณาจักร ผมไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธคำขอร้องอันแสนประเสริฐ สำหรับสมุดบันทึกเล่มนั้น ผมได้คัดลอกข้อความเอาไว้หมดแล้ว จะส่งไปยังคฤหาสน์ของคุณหนูในคืนนี้พร้อมกับหมวกเหล็ก ถือเป็นของขวัญจากมิตรสหายที่จริงใจ”

สำเร็จ!

ออเดรย์พลันโล่งอก ในใจนึกอยากกล่าวชมเชยตัวเอง แต่ภายนอกต้องคอยสงวนกิริยาให้สง่างามไว้ตลอดเวลา

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ” หญิงสาวพูดจากใจ

แม้วัตถุโบราณทั้งสองชิ้นจะมีมูลค่าไม่ถึงหนึ่งหมื่นปอนด์ แต่สำหรับออเดรย์ เธอมิได้ใช้เงินไปอย่างสูญเปล่า

จากแผนการของเธอ ข้อเสนอในคราวนี้แฝงไว้ด้วยจุดประสงค์สามเรื่อง นับเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้ถึงนกสามตัว!

ข้อแรกเป็นการทำภารกิจให้สำเร็จ ได้รับคะแนนผลงานเพียงพอสำหรับแลกเปลี่ยนสูตรโอสถนักสะกดจิตจากสมาคมแปรจิต

ข้อที่สองคือ การบริจาคเงินสร้างสถาบันวิจัยและเก็บรักษาโบราณวัตถุ จะช่วยให้ชื่อเสียง สถานะทางสังคม และภาพลักษณ์ของเธอเป็นปึกแผ่นมากขึ้น การบริจาคเงินคือสิ่งที่ชนชั้นสูงและพ่อค้ามั่งคั่งพึงกระทำทุกปี ถึงวันนี้จะไม่ต้องบริจาค แต่ออเดรย์ก็ถูกบิดากำหนดให้ต้องบริจาคเงินราวสามพันปอนด์หรือมากกว่า ให้กับองค์กรการกุศลอยู่ดี

ดังนั้น หญิงสาวเชื่อว่าเอิร์ลฮอลล์จะไม่ขัดข้องกับเงินบริจาคที่เป็นประโยชน์การด้านศึกษาภายใต้ชื่อของตัวเธอเอง

จุดประสงค์ที่สาม สถาบันวิจัยและเก็บรักษาวัตถุโบราณมักมีโอกาสเข้าถึงสมบัติวิเศษหรือวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ได้ง่าย ออเดรย์ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาด้วยตัวเอง เพียงนั่งอยู่ที่บ้านและรอให้คนอื่นรวบรวมวัตถุโบราณแทนตน ถือเป็นการใช้เงินหนึ่งหมื่นปอนด์สร้าง ‘อิทธิพล’ ของตัวเองขึ้นมา

แน่นอน หากมิตเชลยังไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ หญิงสาวยังมีแผนอื่นในการเข้าหา : ตระกูลฮอลล์มีบุคลากรระดับสูงทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ เป็นคนที่เธอค่อนข้างสนิทสนม หากรองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยสโตนกำลังปรารถนาในสิ่งใด เธอสามารถหาทางทำให้เป็นจริงได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ออเดรย์ไม่ชื่นชอบวิธีการข้างต้นสักเท่าไร มันไม่สง่างาม และยังอาจทำลายภาพลักษณ์ทางสังคมของเธอ

หลังจากครุ่นคิดหลายสิ่ง ออเดรย์ตัดสินใจผลาญเวลาภายในบ้านมิตเชล·ดิตเตอร์อีกราวสิบห้านาที ไม่รีบร้อนเดินทางกลับให้ผิดสังเกต

เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เธอเดินทางออกจากบ้านของมิตเชล มุ่งหน้ากลับสู่คฤหาสน์ตระกูลฮอลล์ในเมืองสโตนทันที

สองทุ่มตรง ตามที่นัดหมายกันไว้ หญิงสาวได้รับหมวกเหล็กของตระกูลเซารอนและสมุดบันทึกปกดำเกี่ยวกับสงครามสองทศวรรษ

ออเดรย์สวมถุงมือขาว นั่งลงหน้าโต๊ะอ่านหนังสือและเริ่มศึกษาค้นคว้า หมวกเหล็กถูกวางไว้ด้านข้าง สายตากำลังเพ่งอ่านเนื้อความในสมุดบันทึกของอัศวินอย่างตั้งใจ

หญิงสาวพบว่าเนื้อหาเป็นไปอย่างไม่ปะติดปะต่อ ในช่วงต้นแรกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอัศวินหนุ่มที่ถูกส่งไปประจำการบนเกาะเอลฟ์โบราณ กล่าวถึงการเรียนสูตรบ่มไวน์เลือดโซเนีย กล่าวถึงการไล่จีบสาวพื้นเมือง กล่าวถึงการฆ่าเวลาอันแสนน่าเบื่อ จนกระทั่งช่วงกลางและท้ายของสมุดบันทึก สงครามสองทศวรรษเริ่มถูกเอ่ยถึงบ่อยครั้ง อัศวินหนุ่มสบถใส่ชาวฟุซัค ตำหนิเพื่อนร่วมรบอย่างหัวเสีย เล่าถึงความตั้งใจที่จะปักหลักบนเกาะจนวินาทีสุดท้าย รวมไปถึงผลลัพธ์ความพ่ายแพ้ครั้งแรกบนเกาะโซเนีย

“นอกจากลีลาการเขียนที่คล้ายภาษามังกร บันทึกเล่มนี้ก็ไม่เหลือประเด็นอื่นที่น่าสนใจแล้ว ไม่มีเค้าลางของเบาะแสใดเลย…”

ออเดรย์ขมวดคิ้ว ปิดหนังสือ

จากนั้น เธอลองใช้เทคนิคทางศาสตร์เร้นลับเพื่อตรวจหาความผิดปรกติ แต่ก็ไม่พบร่องรอย

“ซูซี่ ช่วยออกไปเฝ้าด้านนอกประตูให้หน่อย ฉันจะตรวจสอบสมุดบันทึกนี้ด้วยเทคนิคของศาสตร์เร้นลับ”

“เธอทำไปแล้วไม่ใช่หรือ” ซูซี่ถามอย่างฉงน

ชักโกหกได้ยากขึ้นทุกวัน…

แววตาออเดรย์แปรเปลี่ยนเล็กน้อย ตอบกลับไปตามความจริง

“ฉันจะใช้การทำนายกระจกวิเศษ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เป้าหมายการอัญเชิญเป็นตัวตนที่ปลอดภัย”

“ตกลง” ซูซี่ยืนยันได้ว่าออเดรย์พูดความจริง

หลังจากเดินไปสองสามก้าว สุนัขขนทองหันกลับมามองและกล่าวเน้นย้ำ

“ออเดรย์ เธอต้องคอยระวังไม่ให้ถูกตัวตนลึกลับสิงสู่ร่างกาย”

“ฉันรู้” หญิงสาวขานรับด้วยสีหน้าร่าเริง

จากมุมมองของเธอ หากมิสเตอร์ฟูลคิดกับตนในแง่ร้ายจริง ในอดีตย่อมมีโอกาสมากมายให้ลงมือ ไม่จำเป็นต้องรอนานถึงวันนี้

จนกระทั่งซูซี่เปิดประตูร้อง หญิงสาวนั่งลงหน้าโต๊ะอ่านหนังสือและเริ่มสวดวิงวอนด้วยนามเต็มอันสูงส่งของเดอะฟูล จากนั้นก็ร้องขอการทำนายกระจกวิเศษ

ผ่านไปสักพัก ไคลน์บนอนาคตกาลเดินเข้าไปในห้องน้ำ ส่งตัวเองขึ้นมิติหมอก รับฟังคำสวดวิงวอนจากมิสจัสติส

ทำแบบนี้ก็ได้หรือ…

แต่ก็ฟังดูสมเหตุสมผล เพราะในฐานะ ‘ตัวตนลึกลับ’ เราสามารถปรากฏกายในกระจกวิเศษเพื่อมอบคำทำนายได้…

ไคลน์ให้สัญญาณ ‘อนุญาต’ กับอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ขบขัน

ออเดรย์รีบหยิบสมุดบันทึก เดินย้ายไปนั่งหน้ากระจกเต็มบานบนโต๊ะเครื่องแป้ง เริ่มจุดเทียนไขสำหรับพิธีกรรม

……………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ