ชายหนุ่มเพิ่งได้ทราบว่า ชื่อของพลังพิเศษที่พลเรือเอกขุมนรก ลูเธอร์ไวล์ เพิ่งใช้ออกมาก็คือ ‘วาจาแห่งความตาย’ เป็นพลังที่สามารถทะลวงผ่านร่างเนื้อ ตรงเข้าไปเล่นงานร่างวิญญาณได้ทันที
นับเป็นพลังขั้นสูงของ ‘ผู้สื่อวิญญาณ’ ช่วยให้สื่อสารกับวิญญาณได้โดยตรง ไม่ว่าจะออกคำสั่งหรือเปลี่ยนให้กลายเป็นทาส
ถ้อยคำที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปมิอาจทำความเข้าใจ กำลังก้องกังวานทั่วดาดฟ้าส่วนหัวเรือ ร่างกายลูเธอร์ไวล์พลันแข็งทื่ออย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ร่างมายาโปร่งใสเริ่มปรากฏบนลำตัวของกัปตันโจรสลัด
วิญญาณของมันกำลังถูกพลังที่มองไม่เห็นดึงออกมา!
ทันใดนั้น แหวนสีดำทรงเหลี่ยมบนนิ้วชี้ซ้ายลูเธอร์ไวล์ เริ่มส่องแสงแผ่วเบา
ร่างวิญญาณที่ถูกกระชากออกจากร่างเล็กน้อย ย้อนกลับคืนร่างเนื้อในทันที ผสานเป็นหนึ่งเดียวอย่างกลมกลืน
ฉึบ!
ลูเธอร์ไวล์ใช้มือขวาดึงเรเพียร์เล่มบางที่ห้อยตรงเอว
ผิวคล้ายเหล็กดำ ปลายดาบดูดกลืนแสงโดยรอบจนมีสีทึบ
พลเรือเอกขุมนรกย่างกรายเข้าใส่อย่างดุดัน อาศัยแรงลมกระโชก ระยะห่างจากมันและไคลน์ลดลงอย่างมากในพริบตา เรเพียร์ในมือทิ่มแทงด้วยความรวดเร็วราวกับอสนีบาต
ประตูทองแดงสลักลวดลายลึกลับยังคงตั้งตรงในตำแหน่งเดิม มิได้หายไปเพียงเพราะลูเธอร์ไวล์ปล่อยมือข้างซ้ายออก ตรงจุดนี้แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ไคลน์เคยเห็นมาดามชารอนใช้สมบัติวิเศษ
ฟุ่บ!
เรเพียร์สีดำทะลวงร่างไคลน์ในวิถีที่มิอาจหลบพ้น
ร่างกายชายหนุ่มพลันแห้งกรังกลายเป็นแผ่นกระดาษบางที่ถูกย้อมด้วยสีเหลืองแก่ คล้ายกับตากแดดตากลมมานานนับพันปี
แผ่นกระดาษถูกพายุกระโชกจากประตูทองแดงฉีกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
บนท้องฟ้า ไคลน์กระโดดออกจากมุมมืด ในมือถือแผ่นยันต์เทพสมุทรจำนวนมาก
“พายุ!”
หลังจากเสียงคาถาเฮอร์มิสโบราณก้องกังวาน เศษดีบุกขาวจำนวนมากถูกเผาอย่างพร้อมเพรียง เป็นการสังเวยตัวเองแด่เทพสมุทร หรือกล่าวได้ว่า หากไคลน์ปรารถนา มันสามารถนำวัสดุทำยันต์เกือบทั้งหมดกลับมาใช้ใหม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าดีบุกขาวจะมิอาจบรรจุพลังวิญญาณได้อีก
ฟ้าว!
คมมีดสายลมสีฟ้าพลันพวยพุ่ง น้ำทะเลรอบข้างยกตัวสูงขึ้นจนเท่าห้องโดยสาร เนื่องจากไคลน์ไม่มีเวลาจำแนกชนิดของยันต์ และยันต์ทุกชนิดก็ใช้คาถากระตุ้นแบบเดียวกัน การโจมตีหลากหลายประเภทจึงถาโถมใส่ลูเธอร์ไวล์อย่างพร้อมเพรียง ขณะเดียวกันก็เป็นการมอบผลลัพธ์เชิงบวกให้กับพลเรือเอกขุมนรก ไม่ว่าจะพรหายใจใต้น้ำ พรว่ายน้ำอิสระ พรการเหาะ พรการต่อต้านแรงลม และอีกมาก แต่ทั้งหมดคือสิ่งไร้ค่าในสถานการณ์ปัจจุบัน
ลูเธอร์ไวล์เปิดปากพร้อมกับกรีดร้องโดยแทบไม่มีเสียงเล็ดลอด ทันใดนั้น คลื่นทะเลรอบข้างและใบมีดลมเฉือนจำนวนมาก ต่างพากันชะงักค้างกลางอากาศ
วินาทีถัดมา พลเรือเอกขุมนรกยกมือซ้าย แหวนสีดำทรงเหลี่ยมบนนิ้วชี้เริ่มส่องแสงแฝงความชั่วร้ายและดำมืด
ฟ้าว!
ประตูทองแดงที่อัดแน่นด้วยความรู้สึกยากอธิบาย พลันขยายขนาดขึ้นเป็นสองเท่า
ท่ามกลางเสียง ‘แอ๊ด’ บานประตูเริ่มเปิดกว้าง แรงดึงดูดที่มากมายอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งทวีความรุนแรงจนเหนือจินตนาการ
ไม่ว่าจะใบมีดลมเฉือนสีฟ้า คลื่นยักษ์สีดำ หรือไคลน์ที่กำลังลอยกลางอากาศ ทั้งหมดถูกดูดเข้าหาบานประตูทองแดงอย่างพร้อมเพรียง โดยมีเถาวัลย์ประหลาดและท่อนแขนโชกเลือดกำลังอ้าแขนรอรับ
ขณะไคลน์เตรียมกระตุ้นดวงวิญญาณนักบวชแสงและใช้ ‘แสงศักดิ์สิทธิ์’ โจมตีใส่ประตูเพื่อสร้างจังหวะหลบหนี มันบังเอิญเหลือบไปเห็น ‘ครึ่งลูกไฟครึ่งคน’ กำลังเหาะมาจากอีกทิศทางหนึ่ง
ลูกไฟพุ่งด้วยความเร็วสูงกว่าปรกติเนื่องจากถูกอิทธิพลของประตูทองแดงดูดเข้าหา เพียงไม่นานก็โฉบผ่านไคลน์ กระแทกใส่ช่องว่างระหว่างบานประตู
บึ้ม!
เปลวไฟสาดกระเซ็นโปรยปรายคล้ายเม็ดฝน แต่ก็ทำได้เพียงโยกคลอนประตูทองแดงอย่างแผ่วเบา รวมไปถึงสีที่หม่นหมองลงเล็กน้อย
ไคลน์ไม่พลาดโอกาสทอง มันรีบดีดนิ้ว
ก้านไม้ขีดไฟที่พกมาในกระเป๋าเสื้อเริ่มลุกไหม้ เปลวเพลิงสีแดงเข้มคลอกร่างภายในเวลาอันสั้นและอันตรธานหายไป
กองไฟจุดใหม่ปรากฏขึ้นข้างประตูทองแดงโดยมีไคลน์กระโจนออกมา
ชายหนุ่มมองเห็นแอนเดอร์สัน·ฮู้ดกำลังลอยตัวกลางอากาศด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ในมือกำลังถือหอกเพลิงเล่มยาวสุกสว่างลุกโชน
ในที่สุด นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดก็มาช่วย แต่ดูเหมือนหมอนี่จะไม่ถนัดการเหาะสักเท่าไร…
เมื่อพลเรือเอกขุมนรก ลูเธอร์ไวล์ เงยหน้าขึ้นและพบฉากตรงหน้า เปลวไฟสีซีดบริเวณช่องดวงตาใต้หน้ากากเงินพลันวูบวาบอย่างเห็นได้ชัด
ไม่แปลกที่มันจะตกใจ เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่า บนอนาคตกาลจะมีบุคคลที่แข็งแกร่งระดับนายพลโจรสลัดอีกถึงสองคนนอกเหนือจากแคทลียา และทั้งหมดล้วนพกสมบัติวิเศษทรงพลังติดตัว
ในวินาทีนี้ ลูเธอร์ไวล์เลื่อนมือขึ้น กดลงบนใบหน้าและถอดหน้ากากเงินออกอย่างเหนือความคาดหมายของทุกคน
แสงสีซีดปริมาณเข้มข้นพลันพวยพุ่งจากใต้หน้ากาก แหวนสีดำทรงเหลี่ยมบนนิ้วชี้ซ้ายของลูเธอร์ไวล์เริ่มปกคลุมด้วยบรรยากาศเงียบงัน
ความเงียบดังกล่าวเริ่มหลั่งไหลไปทางบานประตูทองแดง ผลักจนประตูกระเด็นออกจากดาดฟ้าเรือและลอยไปในอากาศ
ประตูลวดลายลึกลับผสานเป็นหนึ่งกับความเงียบงันไร้ก้นบึ้ง ขนาดของมันขยายขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีความสูงไม่ต่ำกว่าสามสิบเมตร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ