ไคลน์กระโดดหลบไปยังอีกฝั่งอย่างรวดเร็วแม้จะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก ก่อนจะเปิดเนตรวิญญาณพร้อมกับชักลูกโม่
ระหว่างนั้น ความคิดแวบแรกในหัวชายหนุ่มก็คือ เมื่อคืนแอนเดอร์สันคงออกล่าโจรสลัดจนเลยเถิด ส่งผลให้ถูกแก้แค้นเข้าในช่วงเช้า ไคลน์จึงอยากตะโกนออกไปว่า “ฉันไม่รู้จักหมอนี่! ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยสักนิด!”
ขณะเดียวกัน ที่โต๊ะอาหารด้านข้างแอนเดอร์สัน·ฮู้ด ชายกำยำซึ่งถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น ทำการโยนมีดและส้อมทิ้งพร้อมกับชักปืนลูกซองแฝดพร้อมยิงออกจากใต้เก้าอี้ เล็งกดไปบนพื้น ลั่นไกจากมุมสูงที่ตนเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ทั้งหมดเกิดขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกับที่เจ้าของโรงแรมลั่นไกยิงปืน เพียงแต่ช้ากว่าเนื่องจากมีขั้นตอนยุ่งซากซับซ้อนมากกว่า
ปัง!
สิ้นเสียงยิง กระสุนลูกปรายจำนวนมากเจาะใส่พื้นจนพรุนเป็นรังผึ้ง แม้นแอนเดอร์สันจะกลิ้งหลบได้ทันเวลา สามารถหลีกเลี่ยงกระสุนกลุ่มใหญ่ แต่ก็ยังถูกเศษๆ ประปรายจนสีข้างชุ่มโชก
ขณะไคลน์เตรียมยิงชายร่างท้วมที่ถือลูกซองแฝด หวังช่วยแอนเดอร์สันให้รอดพ้นจากวิกฤติ ชายหนุ่มพบว่าอีกฝ่ายตกอยู่ในสภาพเดียวกับเจ้าของโรงแรม สีหน้าเหม่อลอยกะทันหัน เจือความประหลาดใจและหวาดกลัว ก่อนจะทำท่าทางคล้ายกับตื่นจากภวังค์
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง… พวกเขาไม่ใช่คนร้ายตัวจริง… ไคลน์ชะงักนิ้วที่เตรียมเหนี่ยวไกอย่างไม่ผลีผลาม รีบกวาดตามองไปทั่วร้านอาหาร
เมื่อเนตรวิญญาณตรวจไม่พบสิ่งใด ไคลน์ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดข้อนิ้วชี้แรก เปิดเนตรด้ายวิญญาณ
ทันใดนั้น เหล่าสุภาพบุรุษและสตรีภายในร้านต่างรีบลุกขึ้นเพราะตื่นตระหนกจากเสียงปืน ก่อนจะวิ่งเบียดเสียดตรงไปยังทางออก
ขณะหญิงสาวหน้าตาดีแต่งตัวหรูหราคนหนึ่งเดินผ่านแอนเดอร์สัน หล่อนชะงักฝีเท้าพร้อมกับเปิดฝาขวดแก้วสีเข้มในมือ เทของเหลวด้านในราดศีรษะนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด
ฉ่า!
พื้นผิวของทุกจุดที่ของเหลวตกไปถึงล้วนถูกกัดกร่อน แอนเดอร์สันรีบใช้มือปิดหน้าปิดตาพร้อมกับกระโดดหลบ หลีกหนีจากการลอบโจมตีอันคาดไม่ถึง
ถัดมาในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวเงียบขรึม สุภาพบุรุษถือหนังสือพิมพ์ บริกรชายในเสื้อกั๊กสีแดง และเด็กชายห้าขวบที่ถือลูกกวาดในมือ ต่างกรูเข้ามาทำร้ายแอนเดอร์สันตามแบบฉบับของตัวเอง
ทั้งแป้งมัน ก้านไม้ขีด มีดปอกผลไม้ กาแฟเดือด และเหล้าความเข้มข้นสูง ต่างลอยละลิ่วตรงมาทางแอนเดอร์สันอย่างต่อเนื่อง ราวกับทุกคนในร้านอาหารโรงแรมมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือการเอาชีวิตแอนเดอร์สัน·ฮู้ด!
ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพลังพิเศษใดเลย แอนเดอร์สันที่ถูกล้อมกรอบจากทุกทิศทางจนยากจะหลบพ้น ทำได้เพียงกลิ้งตัวไปบนพื้น บางครั้งกระโดดหลบ บางครั้งเตะโต๊ะขึ้นมาบัง บางครั้งจุดไฟเผาวัตถุบางชิ้นทิ้ง หลบเลี่ยงจุดตายได้อย่างฉิวเฉียด จบลงด้วยการไม่มีบาดแผลฉกรรจ์
ขณะเดียวกัน ไคลน์เริ่มพบความผิดปรกติ
ณ มุมหนึ่งของร้านอาหาร ด้านหลังตู้สำหรับจัดแสดง ด้ายวิญญาณมายาสีดำกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัด ลักษณะเป็นการลอยแน่นิ่งและเงียบงันในจุดเดิม
ท่ามกลางความโกลาหลของร้านอาหาร พฤติกรรมเช่นนี้นับว่าผิดปรกติอย่างมาก!
คนร้ายตัวจริงผู้วางแผน ‘ฆาตกรรมด้วยฝีมือคนธรรมดา’ กำลังหลบอยู่ตรงนั้น? พิจารณาจากอาการสับสนเจือความตื่นตระหนกของเจ้าของโรงแรม พนักงาน และลูกค้า คนเหล่านี้มิได้กลายเป็นหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์ แต่เป็นเทคนิค ‘บงการ’ ในรูปแบบหนึ่ง… ถูกทำให้เห็นภาพหลอน? หรือถูกกระตุ้นอารมณ์โดยผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย? ไม่สิ อาจเป็นอิทธิพลในระดับจิตใจ… ไคลน์ที่ผุดความคิดบางอย่างได้กะทันหัน ตัดสินใจเหยียดขาไปข้างหน้า สกัดขาลูกค้าคนหนึ่งซึ่งยังมีครีมติดอยู่ที่มุมปาก เปิดทางให้แอนเดอร์สันหลบหนี
นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดกลิ้งตัวออกจากวงล้อมในทิศทางดังกล่าว รีบพยุงตัวลุกขึ้นและวิ่งตามไคลน์กลับขึ้นชั้นสองของโรงแรม จากนั้นก็ยืนพิงผนังตรงมุมบันไดพลางหายใจหอบ
“พลังการยั่วยุของฉันพัฒนาถึงระดับนี้แล้วหรือ… กระทั่งชาวบ้านธรรมดาที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ยังต้องการฆ่าฉันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ… ซี้ด…” แอนเดอร์สันเลื่อนมือขึ้นมาจับซี่โครงขวาที่บาดเจ็บ สีหน้าคล้ายกับอยากครวญคราง
ผิดแล้วสหาย… ต้นตอของเรื่องนี้ก็คือ นายดันไปล่าโจรสลัดจำนวนมากขณะที่ตัวเองยังไม่หลุดพ้นจากคำสาปความซวย… เหตุผลที่ไคลน์ตัดสินใจถอยห่าง ไม่เดินเข้าไปควบคุมด้ายวิญญาณของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายตัวจริง เพราะคำนึงถึงความเป็นไปได้ดังนี้
คนธรรมดาเหล่านั้น คล้ายกับถูกบงการหรือไม่ก็ถูกฝังการชี้นำทางจิตอยู่ ส่งผลให้กรูเข้ามารุมทำร้ายแอนเดอร์สันอย่างกะทันหันในลักษณะมีระเบียบแบบแผน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สอดคล้องกับพลังพิเศษของผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านทั่วไปจะลงมือส่งเดช ปราศจากความชำนาญและเป็นขั้นเป็นตอน แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการเตรียมตัวล่วงหน้า และเหนือสิ่งอื่นใด ไคลน์ยังเคยได้ยินว่ามีโอสถลำดับ 4 ที่ชื่อ ‘จอมบงการ’ !
นอกจากนั้น ตามคำบอกเล่าของดวงวิญญาณ ‘นักจิตบำบัด’ ที่เคยถูกขังในยุบพองหิวโหย ไคลน์สงสัยมาตลอดว่า บนเกาะทอสคาร์เตอร์อาจบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสมาคมแปรจิตแฝงตัวอยู่
ไม่เพียงเท่านั้น พลังพิเศษสำหรับบงการจิตใจหรือฝังการชี้นำทางใจยังสอดคล้องกับลักษณะเด่นของเส้นทางผู้ชม และไคลน์เคยคาดเดาไว้ว่า โอสถ ‘จอมบงการ’ น่าจะอยู่บนเส้นทางผู้ชม หรืออีกชื่อหนึ่งคือเส้นทางมังกร เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้เค้าโครงดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
สมาคมแปรจิตมีฐานลับสำคัญซ่อนอยู่บนเกาะทอสคาร์เตอร์ สำคัญถึงขั้นที่มีครึ่งเทพลำดับ 4 คอยเฝ้าระวังความปลอดภัย และ ‘ท่านผู้นั้น’ คงแอบ ‘บงการ’ โจรสลัดบางคนให้ทำงานบางอย่างแทนโดยไม่รู้ตัว แต่แอนเดอร์สันดัน ‘ระดมเงินทุน’ กับโจรสลัดเหล่านั้นเข้า ส่งผลให้เจ้าของเงินทุนตัวจริงโผล่ออกมาในตอนเช้า!
หลังจากปั้นหน้าขรึม ไคลน์จ้องไปทางแอนเดอร์สันและกล่าวเสียงเรียบ
“มีโอกาสเป็นไปได้มากว่า โจรสลัดเมื่อคืนหลายคนมีครึ่งเทพคอยหนุนหลัง… นายคิดว่าลำพังผู้วิเศษลำดับกลางจะทำเรื่องแบบเมื่อครู่ได้หรือ?”
“ฉันไม่น่าจะดวงซวยขนาดนั้น… หรอกมั้ง…” หางเสียงแอนเดอร์สันเบาลงทีละนิด จนกลายเป็นพึมพำในที่สุด “ก็อาจจะใช่… พวกเขาเป็นเพียงหมากของใครบางคน เป็นผู้บริสุทธิ์ โชคดีที่ฉันไม่ได้ตอบโต้กลับไป ไม่อย่างนั้นคงถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรสังหารหมู่ และนั่นจะมาพร้อมค่าหัวก้อนโต! ชีวิตบั้นปลายจะเหลือเพียงเส้นทางโจรสลัดให้เลือกเดิน”
“…” ไคลน์ขยับปากเล็กน้อยและกล่าว
“หากเหยื่อที่ถูกบงการเมื่อครู่เป็นพวกโจรสลัดที่มีพลังพิเศษ ทูตพิพากษา หรือนักบวชจากโบสถ์วายุสลาตัน นายคิดว่าเหตุการณ์จะลงเอยยังไง?”
“ฉันคงตายไปแล้ว” แอนเดอร์สันผายมืออย่างจนปัญญา ตามด้วยการตอบสนองคล้ายกับเริ่มเข้าใจบางสิ่ง “นายกำลังจะบอกว่า อีกฝ่ายมิได้คิดจะฆ่าฉัน เพียงแค่ตักเตือน?”
ไคลน์พยักหน้าขรึม
“หรือก็คือ นายยังมีโอกาส… ขอโทษเขาซะ”
จงไปหาและสอบถามว่า ครึ่งเทพตนดังกล่าวต้องการสิ่งใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ