ราชันเร้นลับ 709 : คำเตือนของไอร์แลนด์
จ้องมองผับอันเงียบสงบที่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจ ไคลน์ยืนตัวแข็งทื่อสองสามวินาที ก่อนจะเดินตรงไปทางเคาน์เตอร์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คงต้องเปลี่ยนหน้าก่อน ค่อยย้อนกลับมาใหม่… ชายหนุ่มครุ่นคิดกับตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ยกมือขึ้นมาลูบหน้า
ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะยุกฟ่าไม่ทราบเรื่องที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์สังหารจิลเซียส ไคลน์จึงคิดว่าข่าวล่าสุดของตนยังส่งมาไม่ถึง ‘เมืองแห่งการให้’ ทำให้วางใจและกล้ามายังผับสาหร่ายทะเลโดยไม่ปลอมตัว ใครจะไปคิดว่า เป็นยุกฟ่าต่างหากที่ไม่ทันสถานการณ์ ข่าวสารล้าหลัง ไม่ทราบวีรกรรมล่าสุดของนักผจญภัยเสียสติที่กำลังแพร่สะพัดในละแวกหมู่เกาะรอสต์
ถอนหายใจเงียบงัน ไคลน์นั่งลงบนเคาน์เตอร์ เคาะนิ้วกับผิวไม้
“เบียร์นันวีลล์หนึ่งแก้ว”
“หกเพนนี” บาร์เทนเดอร์ฝืนกลืนน้ำลาย
ไคลน์หยิบเหรียญทองแดงหนึ่งกำ วางลงตรงหน้าอีกฝ่าย ซักถามโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง”
บาร์เทนเดอร์รับเงิน ส่งเบียร์ให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์อย่างระมัดระวัง ยิ้มและตอบ
“พลเรือเอกอมิรุส·รีเวลต์ถูกย้ายกลับไปประจำการที่กรุงเบ็คลันด์ พลเรือเอกโรเบิร์ต·เดวีส์เข้ามารับตำแหน่งแทน กลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือโลเอ็นในทะเลละแวกนี้ทั้งหมด สถานการณ์แถบหมู่เกาะกำลังตึงเครียด กลุ่มโจรสลัดต่างส่งคนมาสืบข่าวกันให้วุ่น”
ลงเอยด้วย นายพลอมิรุสตัดสินใจเข้าไปพัวพันกับคดีของน้องชายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งสินะ… ไคลน์กระดกเบียร์พลางตั้งคำถามอย่างไม่ใส่ใจ
“โรเบิร์ต·เดวีส์เป็นคนของตระกูลใหญ่ฝ่ายไหน”
“ไม่มี… เขาไม่ใช่คนของตระกูลใหญ่ เป็นเพียงหนึ่งในน้อยคนที่ไต่เต้าจากตำแหน่งล่างขึ้นมาเป็นนายพล ไม่ว่าจะสมรภูมิทะเลคลั่ง สมรภูมิโซเนีย สมรภูมิไบลัมตะวันออก เขาสร้างชื่อเสียงไว้มากมาย” บาร์เทนเดอร์นึกถึงคำชมล่าสุดในหนังสือพิมพ์ที่กล่าวถึงพลเรือเอกเดวีส์ เว้นวรรคเล็กน้อย “แต่ผมได้ยินมาว่า เขาได้รับการสนับสนุนจากขุนนางหลายคน”
นั่นสินะ สำหรับกองทัพเรือในปัจจุบัน กว่าแปดในสิบจะคนเป็นเชื้อพระวงศ์ ตระกูลขุนนาง และคนสนิทของสองประเภทแรก ส่วนที่เหลืออีกสองในสิบ การเลื่อนตำแหน่งจะหยุดอยู่แค่พลเรือโทหรือพลเรือตรี… ไคลน์ทราบสถานการณ์ปัจจุบันจากเอกสารของนายพลอมิรุส·รีเวลต์
เมื่อเทียบกันแล้ว กองทัพบกนั้นดีกว่ามาก
หลังจากเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ถามสิ่งใดต่อ กำลังตั้งใจดื่ม บาร์เทนเดอร์เล่าต่อ
“ในช่วงสองสามเดือนหลัง กลุ่มต่อต้านเคลื่อนไหวบ่อยครั้งจนผิดปรกติ บ้างพยายามทำลายรางรถไฟ บ้างพยายามกีดขวางถนนเส้นหลัก เทศบาลต้องปวดหัวกับเรื่องนี้ไม่น้อย ต้องส่งกำลังพลจำนวนมากออกมาคอยปกป้องการจราจรสายหลัก แต่ฝ่ายต่อต้านก็แทบเลี่ยงการปะทะได้ตลอด”
เรื่องนี้รู้อยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นแผนของฉันเอง… บนเกาะที่มีสัดส่วนของชนพื้นเมืองและเลือดผสมสูงถึงแปดในสิบ ไม่ใช่เรื่องยากที่กองกำลังต่อต้านจะสืบข่าวได้แม่นยำ ผนวกกับเงินทุนภายนอก พวกเขาสามารถเลี้ยงตัวเองได้สบาย… เหตุผลที่กลุ่มต่อต้านเคยตกระกำลำบากเมื่อในอดีต เพราะเจ้างูทะเลคาเวทูว่าไม่มีสมอง เอาแต่สั่งให้โจมตีเมืองและยึดครองจุดสำคัญ เปิดหน้าแลกกับกองทัพเรือและกองทัพบกอาณาจักรโลเอ็นโดยตรง… ไคลน์พึมพำ จิบเบียร์อย่างอารมณ์ดี
ชายหนุ่มยังคอยเตือนกลุ่มต่อต้านด้วยว่า พวกเขาไม่ควรเคลื่อนไหวมากเกินไป หากทางการถูกบีบให้จนตรอก อาณาจักรโลเอ็นอาจส่งผู้เศษลำดับ 5 ที่ชำนาญการแกะรอยมาทำภารกิจ หรืออาจถึงขั้นส่งครึ่งเทพมาสนับสนุนปฏิบัติการ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของกลุ่มต่อต้าน โอกาสชนะนั้นมีเพียงริบหรี่ ทั้งหมดเป็นคำแนะนำในฐานะ ‘เทพสมุทร’ และคอยปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
อีกไม่นาน… จากข้อมูลของมิสจัสติสและมิสเตอร์แฮงแมน หากอาณาจักรโลเอ็นปฏิรูปภายในสำเร็จและนำกองทัพเรือหุ้มเกราะรุ่นใหม่ออกปฏิบัติการเมื่อไร สงครามในอาณานิคมทวีปใต้ก็จะเริ่มต้นขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง…
นั่งดื่มอย่างเงียบงันจนหมดแก้ว ไคลน์สวมหมวก ลุกขึ้นและเดินออกจากผับ ตรงไปทางโรงแรมที่พักอาศัย
ระหว่างทางได้พบกับเด็กผิวสีแทนเส้นผมหยักศก รวมถึงชนพื้นเมืองที่แต่งกายด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลและกางเกงขาบาน หลายคนหลบหน้า บางคนก้มต่ำโดยไม่กล้าเงย บางคนเดินหลบเข้าไปในตรอก บางคนจ้องไคลน์ด้วยสายตาแฝงอารมณ์หลากหลาย
ไคลน์เม้มปากอย่างจนปัญญา เดินกลับโรงแรมโดยไม่กล่าวคำใด
ชายหนุ่มยังไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์และมุ่งหน้าไปที่ผับเพื่อตามหาโจรสลัดทันที เพราะคนเหล่านั้นคงหลบซ่อนตลอดทั้งคืน ไม่โผล่หัวออกมาจนกว่าจะเช้า
ขณะไคลน์เตรียมเข้าไปสำรวจ ‘บันทึกการเดินทางของกรอซาย’ ใครบางคนเคาะประตูห้อง
โดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม เพียงเดินไปจับลูกบิด ภาพของผู้มาเยือนก็ปรากฏในนิมิตลางสังหรณ์
วัยกลางคน เพศชาย สวมเครื่องแบบสีแดงเข้มและกางเกงขายาวสีขาว สวมหมวกทรงเรือ บริเวณมุมปาก หางตา และหน้าผากมีริ้วรอยเหี่ยวย่นเด่นชัด ไม่ใช่ใครนอกจากกัปตัน ‘โมราขาว’ หนึ่งในคนของกองทัพ ‘เที่ยงธรรม’ ไอร์แลนด์
น่าทึ่งมาก ทั้งที่ข่าวการปรากฏตัวของเราในบายัมเพิ่งแพร่สะพัดออกไป เขากลับหาโรงแรมและห้องพักของเราพบได้ทันที… อา… ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่ได้ซ่อนตัว จงใจลงทะเบียนด้วยชื่อจริง… ไคลน์หมุนลูกบิด ดึงประตูกลับเข้าหาตัว กล่าวอย่างสุภาพ
“สายัณห์สวัสดิ์”
“สายัณห์สวัสดิ์ ดีใจที่คุณกลับมาเยือนบายัมอีกครั้ง” ไอแลนด์ถอดหมวก ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้อง
“มีอะไรหรือ” ไคลน์ดึงเก้าอี้ ทิ้งตัวนั่ง
ไอร์แลนด์นั่งลงฝั่งตรงข้าม หัวเราะในลำคอ
“ไม่ใช่ว่า การเยี่ยมสหายเก่าคือสิ่งที่ควรทำหรอกหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ