ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 709

สรุปบท ราชันเร้นลับ 709: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปเนื้อหา ราชันเร้นลับ 709 – ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

บท ราชันเร้นลับ 709 ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ราชันเร้นลับ 709 : คำเตือนของไอร์แลนด์

จ้องมองผับอันเงียบสงบที่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจ ไคลน์ยืนตัวแข็งทื่อสองสามวินาที ก่อนจะเดินตรงไปทางเคาน์เตอร์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คงต้องเปลี่ยนหน้าก่อน ค่อยย้อนกลับมาใหม่… ชายหนุ่มครุ่นคิดกับตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ยกมือขึ้นมาลูบหน้า

ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะยุกฟ่าไม่ทราบเรื่องที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์สังหารจิลเซียส ไคลน์จึงคิดว่าข่าวล่าสุดของตนยังส่งมาไม่ถึง ‘เมืองแห่งการให้’ ทำให้วางใจและกล้ามายังผับสาหร่ายทะเลโดยไม่ปลอมตัว ใครจะไปคิดว่า เป็นยุกฟ่าต่างหากที่ไม่ทันสถานการณ์ ข่าวสารล้าหลัง ไม่ทราบวีรกรรมล่าสุดของนักผจญภัยเสียสติที่กำลังแพร่สะพัดในละแวกหมู่เกาะรอสต์

ถอนหายใจเงียบงัน ไคลน์นั่งลงบนเคาน์เตอร์ เคาะนิ้วกับผิวไม้

“เบียร์นันวีลล์หนึ่งแก้ว”

“หกเพนนี” บาร์เทนเดอร์ฝืนกลืนน้ำลาย

ไคลน์หยิบเหรียญทองแดงหนึ่งกำ วางลงตรงหน้าอีกฝ่าย ซักถามโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง”

บาร์เทนเดอร์รับเงิน ส่งเบียร์ให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์อย่างระมัดระวัง ยิ้มและตอบ

“พลเรือเอกอมิรุส·รีเวลต์ถูกย้ายกลับไปประจำการที่กรุงเบ็คลันด์ พลเรือเอกโรเบิร์ต·เดวีส์เข้ามารับตำแหน่งแทน กลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือโลเอ็นในทะเลละแวกนี้ทั้งหมด สถานการณ์แถบหมู่เกาะกำลังตึงเครียด กลุ่มโจรสลัดต่างส่งคนมาสืบข่าวกันให้วุ่น”

ลงเอยด้วย นายพลอมิรุสตัดสินใจเข้าไปพัวพันกับคดีของน้องชายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งสินะ… ไคลน์กระดกเบียร์พลางตั้งคำถามอย่างไม่ใส่ใจ

“โรเบิร์ต·เดวีส์เป็นคนของตระกูลใหญ่ฝ่ายไหน”

“ไม่มี… เขาไม่ใช่คนของตระกูลใหญ่ เป็นเพียงหนึ่งในน้อยคนที่ไต่เต้าจากตำแหน่งล่างขึ้นมาเป็นนายพล ไม่ว่าจะสมรภูมิทะเลคลั่ง สมรภูมิโซเนีย สมรภูมิไบลัมตะวันออก เขาสร้างชื่อเสียงไว้มากมาย” บาร์เทนเดอร์นึกถึงคำชมล่าสุดในหนังสือพิมพ์ที่กล่าวถึงพลเรือเอกเดวีส์ เว้นวรรคเล็กน้อย “แต่ผมได้ยินมาว่า เขาได้รับการสนับสนุนจากขุนนางหลายคน”

นั่นสินะ สำหรับกองทัพเรือในปัจจุบัน กว่าแปดในสิบจะคนเป็นเชื้อพระวงศ์ ตระกูลขุนนาง และคนสนิทของสองประเภทแรก ส่วนที่เหลืออีกสองในสิบ การเลื่อนตำแหน่งจะหยุดอยู่แค่พลเรือโทหรือพลเรือตรี… ไคลน์ทราบสถานการณ์ปัจจุบันจากเอกสารของนายพลอมิรุส·รีเวลต์

เมื่อเทียบกันแล้ว กองทัพบกนั้นดีกว่ามาก

หลังจากเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ถามสิ่งใดต่อ กำลังตั้งใจดื่ม บาร์เทนเดอร์เล่าต่อ

“ในช่วงสองสามเดือนหลัง กลุ่มต่อต้านเคลื่อนไหวบ่อยครั้งจนผิดปรกติ บ้างพยายามทำลายรางรถไฟ บ้างพยายามกีดขวางถนนเส้นหลัก เทศบาลต้องปวดหัวกับเรื่องนี้ไม่น้อย ต้องส่งกำลังพลจำนวนมากออกมาคอยปกป้องการจราจรสายหลัก แต่ฝ่ายต่อต้านก็แทบเลี่ยงการปะทะได้ตลอด”

เรื่องนี้รู้อยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นแผนของฉันเอง… บนเกาะที่มีสัดส่วนของชนพื้นเมืองและเลือดผสมสูงถึงแปดในสิบ ไม่ใช่เรื่องยากที่กองกำลังต่อต้านจะสืบข่าวได้แม่นยำ ผนวกกับเงินทุนภายนอก พวกเขาสามารถเลี้ยงตัวเองได้สบาย… เหตุผลที่กลุ่มต่อต้านเคยตกระกำลำบากเมื่อในอดีต เพราะเจ้างูทะเลคาเวทูว่าไม่มีสมอง เอาแต่สั่งให้โจมตีเมืองและยึดครองจุดสำคัญ เปิดหน้าแลกกับกองทัพเรือและกองทัพบกอาณาจักรโลเอ็นโดยตรง… ไคลน์พึมพำ จิบเบียร์อย่างอารมณ์ดี

ชายหนุ่มยังคอยเตือนกลุ่มต่อต้านด้วยว่า พวกเขาไม่ควรเคลื่อนไหวมากเกินไป หากทางการถูกบีบให้จนตรอก อาณาจักรโลเอ็นอาจส่งผู้เศษลำดับ 5 ที่ชำนาญการแกะรอยมาทำภารกิจ หรืออาจถึงขั้นส่งครึ่งเทพมาสนับสนุนปฏิบัติการ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของกลุ่มต่อต้าน โอกาสชนะนั้นมีเพียงริบหรี่ ทั้งหมดเป็นคำแนะนำในฐานะ ‘เทพสมุทร’ และคอยปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

อีกไม่นาน… จากข้อมูลของมิสจัสติสและมิสเตอร์แฮงแมน หากอาณาจักรโลเอ็นปฏิรูปภายในสำเร็จและนำกองทัพเรือหุ้มเกราะรุ่นใหม่ออกปฏิบัติการเมื่อไร สงครามในอาณานิคมทวีปใต้ก็จะเริ่มต้นขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง…

นั่งดื่มอย่างเงียบงันจนหมดแก้ว ไคลน์สวมหมวก ลุกขึ้นและเดินออกจากผับ ตรงไปทางโรงแรมที่พักอาศัย

ระหว่างทางได้พบกับเด็กผิวสีแทนเส้นผมหยักศก รวมถึงชนพื้นเมืองที่แต่งกายด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลและกางเกงขาบาน หลายคนหลบหน้า บางคนก้มต่ำโดยไม่กล้าเงย บางคนเดินหลบเข้าไปในตรอก บางคนจ้องไคลน์ด้วยสายตาแฝงอารมณ์หลากหลาย

ไคลน์เม้มปากอย่างจนปัญญา เดินกลับโรงแรมโดยไม่กล่าวคำใด

ชายหนุ่มยังไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์และมุ่งหน้าไปที่ผับเพื่อตามหาโจรสลัดทันที เพราะคนเหล่านั้นคงหลบซ่อนตลอดทั้งคืน ไม่โผล่หัวออกมาจนกว่าจะเช้า

ขณะไคลน์เตรียมเข้าไปสำรวจ ‘บันทึกการเดินทางของกรอซาย’ ใครบางคนเคาะประตูห้อง

โดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม เพียงเดินไปจับลูกบิด ภาพของผู้มาเยือนก็ปรากฏในนิมิตลางสังหรณ์

วัยกลางคน เพศชาย สวมเครื่องแบบสีแดงเข้มและกางเกงขายาวสีขาว สวมหมวกทรงเรือ บริเวณมุมปาก หางตา และหน้าผากมีริ้วรอยเหี่ยวย่นเด่นชัด ไม่ใช่ใครนอกจากกัปตัน ‘โมราขาว’ หนึ่งในคนของกองทัพ ‘เที่ยงธรรม’ ไอร์แลนด์

น่าทึ่งมาก ทั้งที่ข่าวการปรากฏตัวของเราในบายัมเพิ่งแพร่สะพัดออกไป เขากลับหาโรงแรมและห้องพักของเราพบได้ทันที… อา… ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่ได้ซ่อนตัว จงใจลงทะเบียนด้วยชื่อจริง… ไคลน์หมุนลูกบิด ดึงประตูกลับเข้าหาตัว กล่าวอย่างสุภาพ

“สายัณห์สวัสดิ์”

“สายัณห์สวัสดิ์ ดีใจที่คุณกลับมาเยือนบายัมอีกครั้ง” ไอแลนด์ถอดหมวก ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้อง

“มีอะไรหรือ” ไคลน์ดึงเก้าอี้ ทิ้งตัวนั่ง

ไอร์แลนด์นั่งลงฝั่งตรงข้าม หัวเราะในลำคอ

“ไม่ใช่ว่า การเยี่ยมสหายเก่าคือสิ่งที่ควรทำหรอกหรือ”

“ตอนนี้… คอร์เนอร์·วิกเตอร์อยู่ที่ไหน”

ไอร์แลนด์ส่ายหน้าอีกครั้งอย่างจนปัญญา

“ผมเองก็ไม่ทราบ แต่ลูกน้องของมันบางคนยังแฝงตัวอยู่ในบายัมเพื่อสืบข่าว… นับตั้งแต่ที่นายพลอมิรุสถูกส่งตัวกลับเบ็คลันด์และนายพลเดวีส์เตรียมเข้าประจำการแทน หลายสิ่งหลายอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป กลุ่มโจรสลัดต้องคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด… ดังนั้น ผมเชื่อว่าเรือของคอร์เนอร์น่าจะจอดอยู่ในเงามืดของเกาะละแวกใกล้เคียง… แต่นั่นเป็นเพียงการคาดคะเน ไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ”

หลังจากฟังจบ ไคลน์ประสานมือ

“ขอบคุณ”

ไอร์แลนด์ถอนหายใจ มองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นขึงขัง

“ที่ผมมาหาคุณวันนี้ก็เพราะต้องการเตือน คุณทำตัวโดดเด่นเกินไป เบื้องบนกำลังจับตามอง บุคคลที่แข็งแกร่งถึงขนาดสังหารจิลเซียสและมีชีวิตรอดมาได้ ทางการไม่มีทางเพิกเฉยแน่! เลิกใช้ตัวตนนี้เสีย เปลี่ยนโรงแรม เช็กอินด้วยชื่อและใบหน้าอื่น ไม่อย่างนั้นอาจเผชิญปัญหาที่ยากจะรับมือ”

ไคลน์พยักหน้าขึงขัง

“ตกลง”

มันรู้สึกขอบคุณไอร์แลนด์จากก้นบึ้ง แต่มิได้แสดงออกทางสีหน้า

รอจนกระทั่งกัปตันไอร์แลนด์กลับไป ไคลน์แปลงโฉมทันที เปลี่ยนโรงแรม ตรวจสอบจนแน่ใจว่าทางการไม่สามารถแกะรอย

จัดการทั้งหมดเสร็จ แผนการขั้นถัดไปคือการตามหา ‘กัปตันคลั่ง’ คอร์เนอร์·วิกเตอร์

สำหรับคนทั่วไปอาจเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับไคลน์ มันมีเทคนิคพิเศษ

นั่นคือการใช้ ‘คทาเทพสมุทร’ สื่อสารกับสัตว์ทะเลในละแวกใกล้เคียง!

ตราบเท่าที่คอร์เนอร์·วิกเตอร์ยังอยู่ในเขตน่านน้ำหมู่เกาะรอสต์ ไคลน์ไม่มีทางหาไม่พบ!

แน่นอน นั่นอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องมีเวลาให้ค้นหานานพอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ