ศัตรูของฉันไม่ได้อยู่ในบายัม… และถ้าให้นายไปตายหน้าห้องของเจ้าสมุทร นั่นคงไม่เกิดประโยชน์อะไรนัก… ชายหนุ่มสูดลมหายใจช้าๆ ไม่สนใจคำพูดเมื่อครู่ เปลี่ยนไปถามเรื่องใหม่
“เฮลโมซีน… ไม่สิ มิสเตอร์ฮิลลาเรี่ยน ทำไมคุณถึงรู้ว่าเป็นผม”
แถมยังแวะมาบอกก่อนจะตาย!
นี่คือสิ่งที่อยากถามกับ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสและผู้ส่งสารไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่สบโอกาส
เฮลโมซีนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามประตู เงียบงันสองวินาที ตอบด้วยรอยยิ้ม
“เจ้ามีร่องรอยพิเศษอยู่กับตัว… สิ่งมีชีวิตระดับสูงของโลกวิญญาณจะมองเห็นได้ทันที ขอเพียงเข้าใกล้… เหนือสิ่งอื่นใด หมอกสีเทาคือสัญลักษณ์ของผู้ปกครองสูงสุดแห่งโลกวิญญาณ เป็นเจ้านายเหนือพวกเราทุกคน นอกจากนั้น เทพและผู้วิเศษบนเส้นทางแห่งโชคชะตาก็สามารถมองเห็นได้ระดับหนึ่ง แน่นอน ต้องเข้าใกล้เช่นกัน”
หมอกสีเทา… แม้คำอธิบายของ ‘แสงส้ม’ จะใกล้เคียงกับอาโรเดส แต่ก็เป็นคนแรกที่พูดถึงหมอกโดยตรง! มิติลึกลับนั่นคืออาณาจักรแห่งเทพที่ผู้ปกครองสูงสุดเหนือโลกวิญญาณเหลือทิ้งไว้? เป็นลำดับ 0 ของเส้นทางไหน? เทพสามารถมองเห็นหมอกสีเทารอบตัวเรา หนึ่งในนั้นคือมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย… และท่านกำลังเล็งเราอยู่? ขณะสมองกำลังคุกรุ่น ไคลน์เตรียมซักถาม
แต่เฮลโมซีนชิงเล่าต่อ
“จากคำทำนายของ ‘แสงเหลือง’ ผู้ปกครองสูงสุดเหนือโลกวิญญาณคือหนึ่งในตัวแปรสำคัญของวันแตกดับ แต่ข้าไม่มั่นใจว่าเจ้าจะเป็น ‘ท่านผู้นั้น’ หรือไม่ ยังมีความเป็นไปได้อีกหลายทางที่ทำให้เจ้าแสดงความพิเศษของท่านผู้นั้นออกมา ยกตัวอย่างเช่น เจ้าเป็นข้ารับใช้ของพระองค์ เป็นบุตรของพระองค์ หรือเป็นผู้ส่งสารที่พระองค์เลือก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้าเมินเจ้า… อะแฮ่ม เจ้ารู้จักตลาดหลักทรัพย์แห่งกรุงเบ็คลันด์ใช่ไหม? เจ้าเป็นเหมือนกับหุ้นรางรถไฟ มีอนาคตที่ดี หลายคนกำลังจับตามองและอยากลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็ดึงดูดคนโลภเข้ามาด้วยเช่นกัน พวกมันหวังจะยึดครองและควบคุมบริษัทให้อยู่ในกำมือตัวเอง ฝ่ายแรกคือตัวข้า ส่วนฝ่ายหลังคือมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย สิ่งมีชีวิตวิญญาณที่ทรงพลังกว่ามาก”
นั่นสินะ… นอกจากเรา ยังมีผู้เดินทางข้ามโลกคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับมิติหมอก โรซายล์มหาราช… ถ้าไม่ใช่เพราะเราทำนายบนมิติหมอกถึงต้นกำเนิดของตัวเองและเห็นภาพโลกเก่า โดยความทรงจำทั้งหมดยังชัดเจน เราคงสงสัยว่าตัวเองเป็นร่างจุติของผู้ปกครองสูงสุดแห่งโลกวิญญาณ… พิจารณาจากประสบการณ์ จักรพรรดิโรซายล์และเราน่าจะถูกเลือกให้เป็นผู้ส่งสาร… หรือว่าผู้ปกครองสูงสุดแห่งโลกวิญญาณคือ ‘ราชันสวรรค์ไร้ขอบเขตประทานโชค’ ? ไคลน์อดคาดเดาไม่ได้ สมองกำลังปั่นป่วนราวกับโหลแยมที่ถูกแมวตบเล่น
ชายหนุ่มข่มจิตใจและกล่าว
“แล้วมีวิธีซ่อนร่องรอยไหม”
“กลายเป็นครึ่งเทพ” กล่าวจบ เฮลโมซีนไอแห้งสองครั้ง “ถ้าข้าตายหน้าประตู เจ้าจะถือไหม”
“…ถือ” ไคลน์ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของครึ่งเทพอย่าง ‘เจ้าสมุทร’ แยนน์·ค็อตแมนและพลเรือเอกโรเบิร์ต·เดวีส์
เฮลโมซีนกัดลูกอมและกล่าวต่อ
“เช่นนั้นก็ต้องขอตัว หากข้าไม่รีบไปอาจไม่ทันการ… ถ้าเจ้ากลายเป็นครึ่งเทพและมีพลังมากพอจะสำรวจส่วนลึกของโลกวิญญาณเมื่อไร พวกเราคงได้พบกันอีก”
ไคลน์เงียบงันหนึ่งวินาที
“ขอบคุณสำหรับคำเตือน มิสเตอร์ฮิลลาเรี่ยน”
เฮลโมซีนไม่ตอบสนอง เพียงเดินไปทางบันไดด้วยฝีเท้าหนัก
ได้ยินเสียงเท้าสัมผัสกับบันไดขั้นแรก ไคลน์ดึงความสนใจกลับ ลองคาดเดาสาเหตุที่จักรพรรดิโรซายล์พบค้นพบมิติหมอกแต่เข้ามาไม่ได้
ตอนที่จักรพรรดิจำลองถาดเงินสำหรับเดินทางข้ามโลกขึ้นมาใหม่ เขากลายเป็นผู้วิเศษแล้ว แต่ตอนที่เราประกอบพิธีกรรมเสริมดวงชะตา ตอนนั้นยังเป็นแค่คนธรรมดา… แล้วก็… จักรพรรดิโรซายล์เลือกเส้นทาง ‘นักปราชญ์’ แต่เราเลือกเส้นทาง ‘นักทำนาย’ … พลังของมิติลึกลับเหนือสายหมอกเอื้อประโยชน์แก่การทำนายมาก…
หมายความว่า เงื่อนไขในการเข้าสู่มิติสายหมอกคือต้องเป็นคนธรรมดา หรือไม่ก็ผู้วิเศษเส้นทางนักทำนาย ขณะเดียวกันก็ต้องทราบคาถา สัญลักษณ์ หรือไม่ก็พิธีกรรมสำหรับเข้ามาในมิติ? จักรพรรดิโรซายล์ทดลองช้าเกินไป แถมยังผิดเส้นทาง ทำให้ไม่สามารถเข้าได้…
หากมองในมุมดังกล่าว เส้นทางใกล้เคียงกับนักทำนายอย่าง ‘ผู้ฝึกหัด’ และ ‘นักจารกรรม’ ก็คงเข้าได้เช่นกัน หรือนี่จะเป็นเหตุผลที่ทำให้จักรพรรดิเสียดายที่ไม่เลือกสามเส้นทางนี้? นอกจากจะไม่มีลำดับ 0 ไม่ถูกรบกวนจากเทพเบื้องบน ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าสู่มิติหมอก?
ขณะความคิดแล่นผ่าน ไคลน์ตัดสินใจระงับความสงสัยที่มิอาจพิสูจน์ นำคำเตือนของ ‘แสงส้ม’ ฮิลลาเรี่ยนมาตีความ
จงระวังมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย?
จากสิ่งที่เกิดกับพลเรือเอกอมิรุส ไคลน์เริ่มหวาดระแวงมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย ถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัวตน หลบซ่อนนานกว่าสองเดือน แต่นั่นก็เป็นโอกาสในการสวมบทบาทและย่อยโอสถ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มเริ่มไม่อยากเข้าไปพัวพันกับพลเรือเอกโลหิตและคนของโรงเรียนกุหลาบ ด้วยเกรงว่าจะติดกับดักเข้าสักวัน
เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ มนุษย์ปรกติคงหาทางแก้ไข ไคลน์เองก็เช่นกัน แต่ติดตรงที่ตนไม่มีทางเลือก
มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหายต้องสงสัยว่าจะเป็นเทพแท้จริงในลำดับ 0 อาศัยอยู่บนโลกดารา ถึงไคลน์จะขึ้นไปหา แต่ก็ไม่สามารถโจมตีได้ ไม่มีวันเอาชนะ แถมหล่อนยังมีกองกำลังในมือ – โรงเรียนกุหลาบคือองค์กรเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ยอมไม่ขาดแคลนเทวทูตและสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ไม่อย่างนั้นคงมิอาจรับมือศัตรูรอบทิศและโบสถ์หลักได้จวบจนปัจจุบัน ดังนั้น ถึงไคลน์จะขอร้องให้มิสเตอร์อะซิกและพวกพ้องคนอื่นๆ ช่วย แต่การถอนรากถอนโคนโรงเรียนกุหลาบก็ทำได้ยาก บางทีอาจได้ผลตรงกันข้าม
ด้วยเหตุผลข้างต้น ไคลน์ไม่มีทางเลือกนอกจากซ่อนตัว ภาวนาให้เลื่อนเป็นลำดับ 4 – ครึ่งเทพโดยเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ