‘เดอะฟูล’ ไคลน์ชำเลืองมอง ‘เดอะซัน’ ที่ถูกดึงมาก่อนและ ‘เดอะเวิร์ล’ ที่เสกรอไว้ล่วงหน้า จากนั้นก็แผ่พลังวิญญาณเข้าไปสัมผัสกับดาวสีแดงเข้มที่เป็นตัวแทนของจัสติส แฮงแมน เมจิกเชี่ยน เดอะมูน และเฮอร์มิท
เสาลำแสงพวยพุ่ง ร่างมายาที่ไม่คมชัดของแต่ละคนเริ่มปรากฏบนเก้าอี้สองฝั่งโต๊ะทองแดงยาว
‘จัสติส’ ออเดรย์ที่เพิ่งกลับถึงปราสาทหลังจากเข้าไปในป่า เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเดรส กำไลข้อมือลายลูกไม้ประดับประดาด้วยไข่มุกเม็ดกลม
หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง จับชายกระโปรง แสดงความเคารพ
“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”
อารมณ์ของไคลน์ดีขึ้นหลายระดับแล้ว จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ขณะเดียวกัน มันอดถอนหายใจไม่ได้
ลำพังเศรษฐีใหม่อย่างเรายังมีค่าใช้จ่ายมหาศาล… ตระกูลขุนนางแบบมิสจัสติสจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายขนาดไหน…
หลังจากสมาชิกทุกคนทักทายกันเสร็จ ชายหนุ่มชำเลืองไปทางเฮอร์มิทด้วยท่าทีผ่อนคลาย เพราะทราบว่าพลเรือโจรสลัดรายนี้จะต้องนำไดอารีจักรพรรดิโรซายล์หน้าใหม่มาส่งมอบ
ไม่ผิดจากที่คาด ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาเปิดปากพูด
“มิสเตอร์ฟูล ดิฉันรวบรวมไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์ได้อีกหนึ่งหน้า”
แค่หน้าเดียว? ไม่ใช่ว่าราชินีเงื่อนงำสามารถส่งมอบไดอารีทั้งเล่มได้ตามใจปรารถนาหรอกหรือ? แม้ไคลน์จะได้เผชิญบททดสอบอันหนักหน่วงมาตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังสามารถรักษาความสุขุม
“ไม่มีปัญหา”
แคทลียารีบลงมือเขียนไดอารีลงบนกระดาษสีน้ำตาลอมเหลือง ส่งมันถึงมือเดอะฟูลผ่านพลังวิญญาณ
ไคลน์ก้มมอง แปลกใจเล็กน้อยเมื่อไม่พบ ‘วันที่’ บนกระดาษ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไดอารีหน้านี้เป็นเนื้อหาที่ต่อจากหน้าอื่น… ทำไมแบร์นาแดตไม่เอาหน้าแรกมาด้วย? เธอควรแยกแยะได้ไม่ยาก เพราะแม้แต่ลุงนีลล์ก็ยังดูออกว่าตรงไหนเป็นวันที่… หรือเป็นเพราะไดอารีเสียหายจนหน้าสลับกัน ส่งผลให้เรียงกลับไม่ถูก? หมายความว่า หลังจากจักรพรรดิโรซายล์ร่วงหล่น ข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ถูกรื้อค้นโดยกองกำลังของฝ่ายตรงข้ามจนบางส่วนสูญหาย? ตอนนั้นแบร์นาแดตคงยังมีพลังไม่พอจะยับยั้ง รอจนกระทั่งกลายเป็นราชินีเงื่อนงำ จึงค่อยกลับมาสืบสาวหาความจริง… ไคลน์กวาดตาอ่านเนื้อหาอย่างรวดเร็ว
“ผิดคาดมาก… ประวัติศาสตร์ของยุคสมัยที่สี่จากปากมิสเตอร์ประตูเริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ”
“ชายอับโชคที่ติดอยู่ท่ามกลางพายุและหลงทางในความมืดบอกกับเราว่า แม้จักรพรรดิมืดจะตายไปครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังสามารถคืนชีพได้… น่าประหลาดใจมาก ข้อมูลนี้บังเอิญไปตรงกับสิ่งที่องค์กรลึกลับนั่นเล่าให้ฟัง… ในการชุมนุมครั้งหนึ่ง พวกเขาระบุว่า หากสุสานทั้งเก้าของจักรพรรดิมืดไม่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ต่อให้เทพตนนี้ร่วงหล่นไปพร้อมกับร่างเนื้อ แต่ก็ยังสามารถคืนชีพได้ใหม่จากหนึ่งในสุสานของท่าน”
“และแม้ว่าสุสานทั้งเก้าจะถูกทำลาย ตราบใดที่คำสั่งของจักรพรรดิมืดยังมีผู้คนปฏิบัติตาม ท่านสามารถคืนชีพกลับมาได้ด้วยวิธีพิสดาร เว้นเสียแต่ว่าจะมีจักรพรรดิมืดองค์ใหม่ถือกำเนิด นั่นจึงจะเป็นความตายโดยแท้จริง หมดสิทธิ์คืนชีพโดยสิ้นเชิง”
“จากคำอธิบายของมิสเตอร์ประตู การคืนชีพของจักรพรรดิมืดมีทั้งหมดสามขั้นตอน ขั้นแรก ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทางต้องแยกตัวเป็นอิสระจากเจ้าของปัจจุบัน แปรสภาพกลายเป็นนามธรรม ขั้นที่สอง เหล่าผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อจักรพรรดิมืดต้องได้ยินเสียงที่เปี่ยมด้วยพลังอำนาจจากพระองค์ และขั้นที่สาม จักรพรรดิมืดที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเอกลักษณ์นามธรรม จะปรากฏตัวอีกครั้งบนโลกดารา ส่งผลสืบเนื่องทำให้ตะกอนพลังลำดับ 1 ทั้งสามชิ้น กลับมาอยู่บนมือจักรพรรดิมืดทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีใครสามารถบิดเบือนหรือฝ่าฝืนสิ่งนี้ได้ ไม่เว้นกระทั่งเหล่าเทพแท้จริงตนอื่น”
“ด้วยเหตุผลข้างต้น จักรพรรดิโลหิตและจักรพรรดิรัตติกาลซึ่งล้วนเป็นลำดับ 1 องค์ชายวิปลาสของเส้นทางเดียวกัน ต่างตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่มีใครทราบผลลัพธ์ที่แน่ชัดหากจักรพรรดิมืดคืนชีพ พวกมันอาจต้องเสียชีวิตคาที่ หรือไม่ก็ถอยกลับไปเป็นลำดับ 2… มิสเตอร์ประตูเล่าว่า ในช่วงเวลานั้น เทพวายุสลาตันและเทพธิดารัตติกาลตัดสินใจสนับสนุนจักรพรรดิรัตติกาล ช่วยให้ท่านเปลี่ยนไปยังเส้นทางใกล้เคียง – เส้นทาง ‘ผู้ตัดสิน’ ส่งผลให้จักรวรรดิทูดอร์-ทรันซอสต์ต้องแยกตัวออกจากกัน”
“และ ‘จักรพรรดิโลหิต’ อลิสต้า·ทูดอร์ผู้ถูกบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังตามลำพัง ตัดสินใจกระทำในสิ่งที่บ้าบิ่น นั่นคือการย้ายไปยังเส้นทางที่ไม่ใกล้เคียง ยอมสละสติสัมปชัญญะ เสี่ยงเลื่อนลำดับเป็นเทพแท้จริงกึ่งเสียสติโดยไม่มีทางเลือก”
“ต้องยอมรับว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย แทบจะมองไม่เห็นโอกาสประสบความสำเร็จ… แต่มิสเตอร์ประตูกลับระบุว่า ท้ายที่สุดแล้ว อลิสต้า·ทูดอร์ประสบความสำเร็จในการเลื่อนลำดับ กลายเป็นเทพแท้จริงกึ่งเสียสติ!”
“ฟังดูน่าเหลือเชื่อมาก น่าเสียดายที่มิสเตอร์ประตูไม่ได้เล่ารายละเอียด คงจงใจปิดบังจากเรา”
“เราถามกลับไปว่า ระหว่างความตายกับการกลายเป็นคนเสียสติ แบบไหนเลวร้ายมากกว่ากัน มิสเตอร์ประตูตอบว่าความตาย เพราะหากยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาสคืนสติกลับมาได้”
“ท่านยิ้มและยกตัวอย่าง – หากพิจารณาจากสัญชาตญาณ เทพแท้จริงที่เสียสติยังสามารถผสมพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดโดยไม่เลือกหน้า ให้กำเนิดลูกหลายมากมาย ระหว่างนั้น ถ้าดวงดี ตะกอนพลังที่ขัดแย้งกันจะถูกถ่ายเทไปยังทายาท อาการเสียสติจะค่อยๆ หายไปทีละนิด”
“มิสเตอร์ประตูจงใจไม่บอกว่าต้นตอของปัญหาหมดไปหรือไม่ และไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงไม่มีใครคิดจะทำมาก่อน แต่เราสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่า การทำแบบนี้มีอันตรายใหญ่หลวงซ่อนอยู่”
“คงต้องยอมรับตามตรง มิสเตอร์ประตูมีข้อมูลเกี่ยวกับเทพแท้จริงเกินกว่าที่เราจินตนาการไปมาก… ก่อนจะถูกขับไล่ออกไป บางทีท่านอาจเป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าใกล้ลำดับ 0… เข้าใจแล้วว่าทำไมท่านถึงดูแคลนซาราธ แถมยังไม่นับถือเทพแท้จริงองค์ใดเลย”
“นั่นยิ่งทำให้เราไม่อยากพาท่านกลับมายังโลกแห่งความจริง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ