หลังจากเอ็มลินลงรถม้า มันยืนอยู่กับที่ จ้องตรงไปข้างหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย เกือบลืมหลบแดด
ปัจจุบัน ประตูหน้าของผับกำลังปิดสนิทแน่นหนา ยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิด
เป็นภาพที่หาชมได้ยากมาก ผีดูดเลือดที่เคยแวะเข้าผับเพียงไม่กี่ครั้งในตอนกลางคืน เอ็มลิน ไม่คิดไม่ฝันว่า ร้านประเภทนี้จะไม่เปิดทำการในตอนเช้า หลังจากอ่านกระดาษแผ่นดังกล่าวจบ มันรีบหันหลังกลับอย่างมีความสุข เดินออกจากวิหารฤดูเก็บเกี่ยว ใช้บริการขนส่งเพื่อตรงมาที่นี่ หวังว่าจะได้รับข้อมูลโดยเร็วที่สุด
เพื่อประหยัดเวลา มันยอมทนกับสภาพแวดล้อมอันคับแคบและกลิ่นไม่พึงประสงค์ของรถไฟใต้ดินไอน้ำ
แน่นอน เอ็มลินกำลังฉุนเฉียว แต่ก็ตระหนักว่าฝ่ายที่ผิดคือตน ทำได้เพียงยกมือขึ้นมาปิดหน้า ตัดสินใจสำรวจรอบๆ ถนนประตูเหล็กเพื่อฆ่าเวลา การเดินทางมาในครั้งนี้จะได้ไม่สูญเปล่า
ขณะกำลังเดินเข้าใกล้รถม้าที่จอดริมถนน บุคคลที่คุ้นเคยเดินผ่านไปตรงมุมสายตา
อีกฝ่ายสวมหมวกทรงโดมสีน้ำตาล เสื้อโค้ทตัวเก่า กระเป๋าสภาพยับเยิน ไม่ใช่ใครนอกจากเอียน พ่อค้าข่าวและอาวุธเถื่อนในตลาดมืด
หึหึ… สัญชาตญาณของเรายังเฉียบแหลมเหมือนเคย รู้อยู่แล้วว่าเขาจะมาตั้งแต่เช้า! เอ็มลินเปลี่ยนความโกรธเป็นความสุข ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เดินอย่างผ่อนคลาย หยุดลงตรงหน้าเอียน หัวเราะในลำคอ
“อรุณสวัสดิ์”
เอียนเงยศีรษะมอง จ้องชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า ตอบกลับด้วยสีหน้าเจือความประหลาดใจ
“อรุณสวัสดิ์… มิสเตอร์ไวท์ เวลาที่เหมาะสมในการมาหาผมคือตอนเย็น”
“แต่ตอนนี้เหมาะสมเหมือนกัน” เอ็มลินยิ้มอย่างอารมณ์ดี “เอียน ทำไมคุณถึงใส่ชุดเดิมทุกครั้ง มีเสื้อผ้าที่คล้ายกันหลายตัว?”
เอียนตอบเสียงเรียบ
“มันทำให้ผมดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และไม่ตกเป็นจุดสนใจ… แน่นอน เหตุผลหลักคือผมไม่มีเงิน”
มันเสริมประโยคหลังด้วยน้ำเสียงติดตลก
“ยังจะใส่ต่อไปในหน้าร้อน?” เอ็มลินหัวเราะ
“ผมก็แค่ถอดเสื้อนอก” เอียนตอบพลางหยิบกระดาษสองแผ่นออกจากกระเป๋าสภาพทรุดโทรม สิ่งนี้คือ ‘ใบค่าหัว’ ที่เอ็มลินเคยมอบให้เมื่อครั้งก่อน “พบเป้าหมายในฝั่งตะวันออก”
มันยื่นเอกสารให้เอ็มลิน บุคคลที่ถูกทำเครื่องหมายไว้คือ ‘อาร์กอส’
เมื่อพบเบาะแสสาวกของดวงจันทร์บรรพกาล เอ็มลินถามอย่างมีความสุข
“มันอยู่ที่ไหน?”
เอียนไม่ตอบ เพียงยิ้มโดยไม่กล่าวคำใด
เอ็มลินไม่ใช่คนโง่ รีบหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาทันที ส่งเงินให้อีกฝ่ายหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์
“รางวัล”
เอียนยิ้ม
“เหลืออีกครึ่งหนึ่ง”
“อีกครึ่ง?” เอ็มลินพลันฉุนเฉียว นึกอยากจะทำให้พ่อค้าข่าวและอาวุธเถื่อนรายนี้ตระหนักถึงความน่ากลัวของผีดูดเลือด เนื่องจากข้อตกลงในตอนแรกคือ ยี่สิบปอนด์สำหรับเบาะแสที่ถูกต้อง หนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์สำหรับการระบุตำแหน่ง
ทว่า มันเริ่มตระหนักถึงความนัยของอีกฝ่าย จึงถามกลับด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลง
“เจออีกราย?”
“ครับ” เอียนยื่นกระดาษแผ่นที่เหลือในมือ “ในตอนที่เพื่อนของผมคอยจับตามองอาร์กอส ขณะกำลังจะยืนยันที่อยู่ เขาพบว่าอาร์กอสแอบไปพบกับสุภาพบุรุษที่ชื่อกาลิส·เควิน ดังนั้น พวกเราได้ตำแหน่งของเป้าหมายสองคนในคราวเดียว”
“ดีมาก” เอ็มลินควักกระเป๋าสตางค์ ยื่นธนบัตรอีกหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์ให้เอียน
มันกำลังมีความสุขสุดขีด รู้สึกราวกับบรรพบุรุษและมิสเตอร์ฟูลกำลังอวยพรตนอย่างท่วมท้น เนื่องจาก ในการแข่ง ‘ล่า’ คราวนี้มีเหยื่อเพียงห้าราย มันล่ามาได้แล้วหนึ่ง และในมือมีอีกสองเบาะแส หากประสบความสำเร็จ ไม่ว่าผีดูดเลือดตนอื่นๆ จะทำอย่างไร พยายามมากแค่ไหน เอ็มลินก็สามารถประกาศชัยชนะเหนือทุกคนได้อย่างมั่นใจ
เอียนนับอย่างระมัดระวังพลางตรวจสอบความถูกต้องของธนบัตร ก่อนจะหรี่เสียงลงและพูด
“อาร์กอสพักอยู่บนชั้นสามของอาคารหมายเลข 6 ถนนหินปูน เขตตะวันออก ตรงข้ามกับห้องน้ำรวม… กาลิส·เควินเองก็อยู่ในเขตตะวันออก อาศัยในห้องติดบันไดชั้นที่หนึ่งของอาคารหมายเลข 19 ถนนวาฬขาว”
“จะตรวจสอบข้อมูลอีกที… แต่ผมเชื่อว่า คุณคงไม่ทำลายธุรกิจของตัวเองด้วยเงินเพียงสามร้อยปอนด์” เอ็มลินพยักหน้า กึ่งบอกเล่ากึ่งตักเตือน จากนั้นก็หัวเราะ “แล้วทำไมพวกมันถึงถูกพบง่ายนัก?”
ดวงตาสีแดงของเอียนขยับเล็กน้อย มองไปรอบๆ และตอบ
“ประการแรก ผมมีเพื่อนเป็นนักล่าค่าหัวหลายคน พวกเขามีสายข่าวมากมายในเขตตะวันออก… ประการที่สอง การปลอมตัวของสุภาพบุรุษทั้งสองยังไม่ดีพอ ในเขตตะวันออก พวกเขาโดดเด่นกว่าคนรอบข้างมากเกินไป เว้นเสียแต่จะเปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าสกปรกและเก่าโทรม คล้ายกับคนทำงานหนักราวสิบสองชั่วโมงต่อวัน ถ้าเป็นแบบนั้น คงเป็นการยากที่จะหาตัวพบในเขตตะวันออกอันแสนวุ่นวาย”
อย่างนี้นี่เอง… การปลอมตัวต้องใส่ใจความแตกต่างของสภาพแวดล้อมด้วย… เอ็มลินพึมพำ ตระหนักว่าตนได้เรียนรู้สิ่งใหม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ