นี่มัน… เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน… สำหรับชุมนุมทาโรต์ที่มีเดอะฟูล ปัญหาเชิงเทคนิคจะไม่ใช่อุปสรรค… มิสเมจิกเชี่ยนมักทำตัวขี้เกียจและจืดจางเสมอ คิดไม่ถึงว่าจะกระตือรือร้นในเรื่องแบบนี้… อา ส่วนหนึ่งคงฉุกคิดได้จากการที่เราขอยืมสมุดเวทมนตร์มาใช้งาน… แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ถือว่าเธอนำไอเดียไปปรับปรุงได้เร็ว เกิดเป็นโมเดลทางธุรกิจที่น่าสนใจ… ไคลน์จงใจบังคับให้ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ครุ่นคิดสองสามวินาทีก่อนจะกล่าว
“สุดสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า… ผมอาจต้องใช้มัน”
ชายหนุ่มกะเกณฑ์เวลาที่มิสเตอร์แฮงแมนจะเดินทางจาก ‘วังวนนรก’ มาถึงเขตรอบนอกของหมู่เกาะรอสต์ ขณะเดียวกันจะทิ้งช่วงให้อีกฝ่ายมีเวลาปรับพลังวิญญาณให้มั่นคง รวมถึงการเติมเสบียง
เมื่อได้เวลา พวกมันจะร่วมมือกันสำรวจเกาะโบราณที่ยังไม่มีใครยึดครอง – เกาะที่เต็มไปด้วยสัตว์วิเศษ
‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สรีบพยักหน้าหลังจากได้ยิน
“ตกลง ฉันจะได้จัดสรรเวลาถูก ไม่ให้ใครเช่าในช่วงที่คุณต้องการใช้”
หญิงสาวแอบโล่งใจ ขณะเดียวกันก็ขอร้องให้มิสเตอร์ฟูลเป็นสักขีพยานในสัญญาปากเปล่า หลังจากอีกฝ่ายอนุญาต เธอส่งสัญญาณให้สิ้นสุดการสนทนาส่วนตัว
จากนั้น หญิงสาวนำบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ออกมาแสดงต่อหน้าทุกคน มองไปรอบๆ
“ทุกคน ดิฉันมีสมบัติวิเศษ… มีทั้งหมดสามสิบแปดหน้า ทุกหน้าสามารถบันทึกพลังพิเศษลงไปได้ ขอเพียงได้เห็นกับตาตัวเอง โดยจะหายไปทันทีหลังจากใช้งาน แล้วก็ ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าพลังต้นแบบ… แต่ละหน้าสามารถบันทึกพลังที่แตกต่างกัน… จากบรรดาหน้ากระดาษเหล่าทั้งหมด มีสามหน้าที่สามารถบันทึกพลังของครึ่งเทพลงไป แต่โอกาสสำเร็จต่ำมาก สิบครั้งอาจจะไม่สำเร็จเลย”
ขณะฟอร์สอธิบายการใช้งานและผลข้างเคียงของสมุดเวทมนตร์ ดวงตา ‘จัสติส’ ออเดรย์และคนที่เหลือสว่างขึ้นเล็กน้อย
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่เด็กใหม่ในโลกศาสตร์เร้นลับ เพียงได้ยินข้อมูล ก็สามารถประเมินค่าของสมุดเวทมนตร์ในมือมิสเมจิกเชี่ยนได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องปรึกษาหารือ ทุกคนคิดในใจตรงกันว่า สมบัติวิเศษชิ้นนี้มีระดับทัดเทียมครึ่งเทพ
มีส่วนคล้ายกับคนเลี้ยงแกะ มีส่วนคล้ายกับยุบพองหิวโหย เป็นการรวบรวมพลังพิเศษหลากหลายชนิดไว้ใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่าง แต่ผลข้างเคียงต่ำมาก แถมยังสามารถบันทึกพลังของครึ่งเทพลงไป… ป้ายเลือดของตัวเอง… ขณะ ‘จัสติส’ ออเดรย์ครุ่นคิด ฝ่ามือของเธอสั่นระริกแผ่วเบาด้วยความกลัว
ในฐานะบุตรสาวของขุนนางใหญ่ ตั้งแต่เด็กจนโต เธอแทบไม่เคยมีแผล ดังนั้น ความเจ็บปวดที่ตัวเองไม่รู้จัก ย่อมเป็นบ่อเกิดของความหวาดกลัว
อาศัยจังหวะที่ฟอร์สเว้นวรรค ออเดรย์ยกมือขึ้น
“มิสเมจิกเชี่ยน คุณต้องการขายเท่าไร?”
ออเดรย์เชื่อว่า บิดาของตน เอิร์ลฮอลล์ ย่อมต้องมองเห็นคุณค่าของ ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ เล่มนี้แน่ เธอสามารถซื้อไปและเบิกเงินคืนได้เต็มจำนวน ดังนั้น ไม่ว่าฟอร์สจะเสนอราคาเท่าไร ออเดรย์ก็ยินดีจะทุ่มจ่าย
ได้ยินมาว่า ในระยะหลัง ฟอร์สกำลังถังแตก ไม่อย่างนั้น คงไม่คิดขายสมบัติวิเศษแสนสำคัญและมีประโยชน์ขนาดนี้… ออเดรย์ครุ่นคิดพลางเห็นใจ เริ่มลังเลว่าตนควรเป็นฝ่ายเสนอราคาไปก่อนดีไหม
บ้าจริง! ทำไมไม่รอให้เรากลับจากเกาะโบราณนั่นก่อนค่อยขาย… ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เองก็สนใจในบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ แต่ ณ ขณะนี้ มันมีเงินสดไม่พอที่จะซื้อสมบัติวิเศษ
หนึ่งพันสามร้อยปอนด์สำหรับคนธรรมดา คือเงินก้อนโตที่ต้องใช้เวลารวบรวมนานนับสิบหรือยี่สิบปี แต่นั่นกลับยังห่างไกลจากราคาที่แท้จริงของบันทึกการเดินทางของเลมาโน่อย่างมาก ห่างไกลจนเกินเอื้อม!
มูลค่าต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์แน่… ถ้าผู้วิเศษที่มีองค์กรใหญ่หนุนหลังรู้เข้า มีโอกาสที่จะขายได้มากถึงสามหมื่นปอนด์… อัลเจอร์ชำเลืองไปทางมิสจัสติส รวมถึงคนที่กำลังขยับแว่นลงอย่าง ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาซึ่งคิดจะเข้าร่วมประมูลเช่นกัน มันทำได้เพียงถอนหายใจอย่างหดหู่ อัลเจอร์เชื่อว่า การค้าขายในคราวนี้คงลงเอยด้วยความสำเร็จ ซึ่งมันไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ในใจลึกๆ กำลังหวังให้การค้าขายยืดออกไปจนกระทั่งมันกลับจากเกาะโบราณ
มิสจัสติสร่ำรวยมาก มาดามเฮอร์มิทก็มีราชินีเงื่อนงำและนิกายมอสส์คอยหนุนหลัง ไม่มีทางขาดแคลนเงินทุนและทรัพยากร เฮ่อ… ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เปลี่ยนท่านั่ง มองอย่างใจเย็นไปที่ฝั่งตรงข้าม
‘เดอะมูน’ เอ็มลินและ ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคต่างก็สนใจบันทึกการเดินทางของเลมาโน่เช่นกัน แต่ก็ทำได้แค่สนใจ เพราะพวกมันทราบดี ตนไม่มีทางเป็นผู้ชนะในการเสนอราคา
ได้ยินคำถามจากมิสจัสติส ฟอร์สเพิ่งตระหนักว่าตนลืมเล่าส่วนสำคัญที่สุดไป จึงรีบเสริมอย่างรวดเร็ว
“ผิดแล้ว มันไม่ได้มีไว้ขาย แต่ให้เช่า… หากคุณต้องการ สามารถเช่าได้ในระยะเวลาสั้นๆ โดยมีมิสเตอร์ฟูลเป็นสักขีพยาน”
เช่า? ทำได้ด้วยหรือ? ทันใดนั้น นอกจาก ‘เดอะฟูล’ ไคลน์และ ‘เดอะซัน’ เดอร์ริค ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาและคนที่เหลือต่างพากันตกตะลึง
แน่นอน พวกมันทุกคนทราบว่าการเช่าคืออะไร แต่ไม่คิดว่าจะใช้ได้กับสินค้าประเภทสมบัติวิเศษ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชุมนุมทาโรต์!
ฟังดูเป็นไปได้ แถมยังราบรื่นกว่าที่คิด… หากเป็นเช่นนี้ สมาชิกทุกคนในชุมนุมทาโรต์จะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า และค่าใช้จ่ายก็จะไม่สูงเกินไป อยู่ในอันตรายที่รับได้ แน่นอน คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือมิสเมจิกเชี่ยน สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่สิ สิ่งที่มีประโยชน์กว่านั้นก็คือ ในยามที่พลังพิเศษมากมายถูกบันทึกลงไป เธอสามารถรวบรวมพลังพิเศษที่แตกต่างกันจากหลากหลายเส้นทาง ถึงจะไม่รู้ว่ามากกว่ากี่เท่า แต่ก็มีประสิทธิภาพมากกว่าการบันทึกด้วยตัวเองคนเดียวแน่นอน! ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ตระหนักถึงแก่นสำคัญของการเปิดให้เช่าบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ มันถามออกไปขณะหัวใจกำลังอิ่มเอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ