ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับสาวกดวงจันทร์บรรพกาลเมื่อคราวก่อน การดิ้นรนขัดขืนบิชอปยูทรอฟสกี้จากวิหารฤดูเก็บเกี่ยว เกือบทุกครั้งจะได้เปรียบด้านจำนวนเสมอ หรือก็คือ เอ็มลินเป็นประเภทที่ตัวต่อตัวไม่เก่ง
เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่สมาชิกครอบครัวของมันสามคน พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับบิชอปลูกครึ่งคนยักษ์ ใบหน้าเอ็มลินเริ่มดำมืด คล้ายกับหวนนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ต้องเผชิญภายในวิหารฤดูเก็บเกี่ยว
เนื่องจากอพาร์ตเมนต์แห่งนี้มีคนพักอาศัยไม่มาก และกาลิส·เควินซึ่งเป็นแวมไพร์เทียม มีประสาทสัมผัสที่เฉียบคม เอ็มลินจึงไม่กล้ายืนหน้าประตูนานเกินไป เลือกเดินไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตรงสุดท้ายเดิน
เราควรทำยังไงต่อ… เอ็มลินยืนพิงบางสิ่งที่กำลังบดบังแสงจันทร์สีแดงเข้ม ความคิดมากมายแล่นผ่านสมอง พยายามหาวิธีบรรลุภารกิจจากประสบการณ์อันน้อยนิด
ทีละเล็กละน้อย คำพูดที่แฮงแมนเคยพร่ำสอนเดอะซันดังก้องในใจ
“ความอดทนเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ… เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ในบางครั้งก็ต้องอดกลั้นจนถึงที่สุด”
ความอดกลั้น… เอ็มลินพยักหน้ากับตัวเอง เริ่มเข้าใจว่าตนควรทำอย่างไร
มันตั้งใจจะซ่อนตัวก่อน รอจนกระทั่งอาร์กอสออกมาจากห้อง!
นี่ไม่ใช่บ้านของแวมไพร์เทียมตนดังกล่าว ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องออกมา และเมื่อถึงเวลานั้น เอ็มลินจะมีโอกาสได้ดวลตัวต่อตัวกับกาลิส
อดทน… อดกลั้น… รออย่างใจเย็น… เอ็มลินย้ำคำพูดในใจ พยายามขจัดแรงกดดันที่สภาพแวดล้อมรอบตัวกระทำใส่
สภาพอากาศในชั้นที่หนึ่งของอพาร์ตเมนต์ กลิ่นปัสสาวะ กลิ่นน้ำเน่า กลิ่นอุจจาระไม่ราดน้ำ กลิ่นเขม่าจากการเผาถ่านหินคุณภาพต่ำ กลิ่นเหงื่อที่ไม่ได้อาบน้ำหลายวัน กลิ่นกายของผู้เช่าบางราย และกลิ่นเหม็นเปรี้ยวอีกนานับชนิด ทุกกลิ่นเหม็นเกินกว่าจะพรรณนา ชวนให้ขยะแขยง กัดกร่อนประสาทสัมผัสการดมกลิ่นของเอ็มลินที่เปรียบดังยาพิษ
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เอ็มลินอยากเฉือนจมูกตัวเองทิ้ง ความรู้สึกคล้ายกับถูกทรมานในห้วงอเวจีและขุมนรก
อดทน… อดกลั้น… รอคอย… มันท่อง ‘คติพจน์’ จากจิตใต้สำนึก พบว่าทุกวินาทีช่างยาวนาน
ในที่สุด มันเห็นประตูห้องของกาลิส·เควินถูกเปิดออก บุคคลรูปร่างผอมบาง ผิวสีคล้ำ เดินออกมา โหนกแก้มค่อนข้างสูง ดั้งจมูกโด่งเป็นสัน ปลายจมูกงุ้มงอเล็กน้อย ไม่ใช่ใครนอกจากอาร์กอส สาวกของดวงจันทร์บรรพกาล
ใบหน้าของมันมีร่องรอยและคราบสกปรก ชวนให้ขยะแขยง
กะแล้วเชียว… เหมือนกับที่ ‘ตาแก่’ เอียนว่าไว้ เสื้อผ้าของพวกมันค่อนข้างสะอาดและมีสภาพดี แตกต่างจากชาวเขตตะวันตกทั่วไปโดยสิ้นเชิง… เอ็มลินเริ่มมีไฟ เฝ้ามองอาร์กอสเดินออกจากอพาร์ตเมนต์พลางพึมพำ
อดทนรอเกือบห้านาที มันยืนขึ้น ตัดสินใจลงมือ
เนื่องจากเป้าหมายของมัน กาลิส·เควินเป็นแวมไพร์เทียม เอ็มลินจึงทราบอีกฝ่ายมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ถนัดการต่อสู้แบบไหน ส่งผลให้เตรียมตัวรับมือได้อย่างเหมาะสม
ประสาทการดมกลิ่นของกาลิส·เควินไม่ด้อยไปกว่าเราในร่างโตเต็มวัย… ไม่สิ การที่มันทนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมย่ำแย่เช่นนี้ได้เป็นเวลานาน บางที จมูกและสมองคงพังไปหมดแล้ว… นอกจากนั้น สัมผัสวิญญาณของมันค่อนข้างดี รวมถึงสัญชาตญาณในการหยั่งถึงอันตราย สายตาและหูก็ไม่เลว… เอ็มลินวิเคราะห์อีกฝ่าย ดื่มยา ฉีดพ่นของเหลวเพื่อกลบกลิ่นตัวอีกครั้ง ปกปิดไว้อย่างแนบเนียน
ถัดมา มันทำเหมือนกับคราวก่อน ใช้ยาวิเศษลบร่างกายและเสื้อผ้า หายไปกับความว่างเปล่าประหนึ่งถูกลบด้วยยางลบ
ในมุมที่มืดและเปลี่ยว สมุดบันทึกสีเขียวขี้ม้าขนาดเท่าฝ่ามือโผล่ออกจากความว่างเปล่า คล้ายกับแทรกตัวผ่านม่านล่องหน
สมุดบันทึกพลิกตัวเองโดยไม่เกิดสุ้มเสียง จนกระทั่งไปถึงหน้ากระดาษสีขาวที่อัดแน่นด้วยสัญลักษณ์เชิงโหราศาสตร์
เมื่อสัญลักษณ์หายไป สภาพแวดล้อมโดยรอบสว่างขึ้นเล็กน้อย
เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากพลังการแทรกแซง ‘ลางสังหรณ์’ ของโหราจารย์!
จากนั้น บันทึกการเดินทางของเลมาโน่ถูกเก็บกลับ ค่อยๆ หายไปทีละนิด ถูกปิดกั้นด้วยม่านล่องหนอีกครั้ง
เอ็มลินที่เตรียมตัวพร้อม นึกทบทวนแผนการเป็นครั้งสุดท้าย เริ่มขยับฝีเท้าด้วยความเงียบ ตรงมายังด้านนอกห้องพักของกาลิส·เควินอย่างไร้สุ้มเสียง แต่มิได้เข้าใกล้ประตูหน้า
สมุดบันทึกสีเขียวขี้ม้าปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าอีกครั้ง เล็งไปทางกำแพงห้อง
เสียงมายาพลันกังวานในห้วงความคิดเอ็มลิน มันรีบนำฝ่ามือ ‘แนบ’ ลงบนกำแพงและออกแรงผลัก
ขณะเดียวกัน เอ็มลินรีบสอดบันทึกการเดินทางของเลมาโน่เข้าไปในชายเสื้ออย่างระมัดระวัง คลุมทับด้วยเสื้อคลุมล่องหน
เมื่อกดฝ่ามือเข้าไปในกำแพง แสงสีฟ้าจางๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า บานประตูมายาเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างจนเสร็จสมบูรณ์บนผนัง แต่ด้านล่างประตูยังคงอิฐกำแพงตามเดิม
ตั้งใจฟังความเคลื่อนไหวในห้องสักพัก สูดกลิ่นในอากาศ เอ็มลินก้าวไปข้างหน้า ผ่านประตูสีฟ้าจางๆ ที่คล้ายม่านน้ำ
ฉากตรงหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน มันเริ่มเห็นผนังเปรอะเปื้อน ทั้งสามด้านมีเตียงไม้ทรุดโทรมและของใช้จิปาถะวางเรียงราย
ไม่ผิดแน่ ที่นี่คือห้องพักของกาลิส·เควิน!
ในส่วนประตูสีฟ้าด้านหลังเอ็มลิน บานประตูเลือนหายไปสักพักแล้ว ประหนึ่งว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่
มองไปรอบตัวด้วยความระมัดระวัง เอ็มลินพบร่างของเป้าหมาย กาลิส·เควิน
สาวกดวงจันทร์บรรพกาลรายนี้เป็นพวกเลือดผสมที่หน้าตาดี ผมยาวประบ่า ดวงตาสีน้ำตาลแดง แต่ไม่เข้มมาก คล้ายกับไม่ได้สืบทอดสีดวงตามาจากผีดูดเลือดอย่างสมบูรณ์
ในเวลานี้ มันกำลังนั่งข้างเตียง จ้องไปทางประตู ไม่มีใครรู้ว่ากำลังคิดสิ่งใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ