ในอาณาจักรโลเอ็น ลิงบาบูนขนหยิกมักถูกใช้เพื่อล้อเลียนผู้อื่น เป็นมุกตลกเกี่ยวกับสติปัญญา
จากที่เห็น มิสเตอร์เวิร์ลมิได้อธิบายเพิ่มเติม ตีความได้ว่าเป็นลิงบาบูนขนหยิกตัวจริง… ออเดรย์ไม่ถามต่อ หันไปพูด
“ถ้าเดินทางไปยังสถานที่ซึ่งมีประเพณีบูชามังกร จะได้พบร่องรอยของมังกรจิตหรือไม่?”
“ไม่ใช่ว่าคุณเคยพบมังกรจิตในทะเลจิตใต้สำนึกรวมของชาวบ้านแล้วหรือ? จำได้ว่า ครั้งนั้นคุณตัดสินใจหนีกลับเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเอง” แคทลียาตอบ
“คุณย้อนกลับไป?” ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สคาดเดา
‘จัสติส’ ออเดรย์ส่ายหน้า
“เปล่า… ฉันอยู่ไกลจากที่นั่นมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งได้ยินข่าวลือ… ทีมนักโบราณคดีเข้าไปสำรวจหมู่บ้านแห่งหนึ่งในละแวกใกล้เคียง สมาชิกคนหนึ่งเกิดเสียสติในเวลากลางคืน และดูเหมือนอาการเช่นนี้จะเป็นโรคติดต่อ สมาชิกคนที่เหลือเริ่มเสียสติตามไป บ้างเข่นฆ่ากันเอง บ้างฆ่าตัวตาย สุดท้ายไม่มีใครรอดชีวิต”
ขณะแฮงแมนเตรียมตอบ เฮอร์มิทชิงพูดตัดหน้า
“สอดคล้องกับลักษณะของมังกรจิต”
“ดิฉันไม่สงสัยเรื่องนั้น แต่อยากทราบว่ามังกรจิตยังอยู่ในพื้นที่ละแวกดังกล่าวหรือไม่” ออเดรย์แสดงความเห็น
“ไม่” แฮงแมนและเฮอร์มิทตอบพร้อมกัน
ไคลน์ในนาม ‘เดอะฟูล’ ที่อยู่สุดขอบโต๊ะทองแดงยาว กำลังคิดอีกอย่าง
‘หลักยึดเหนี่ยว’ ของเทพ!
มันเชื่อว่าประเพณีบูชามังกรในแถบนั้น เครื่องยึดเหนี่ยวที่ช่วยให้สติของมังกรจิตอยู่ในสถานะมั่นคง!
ก่อนที่ประเพณีดังกล่าวจะสูญหายไปอย่างสมบูรณ์ มังกรจิตตัวนั้นก็ไม่ต้องกังวลกับ ‘หลักยึดเหนี่ยว’ ไปอีกพักใหญ่ สามารถออกจากหมู่บ้านไปและหลบซ่อนอยู่ในทะเลจิตใต้สำนึกรวมของเขตใหม่ ครอบงำผู้คนให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใส ส่งผลให้โบสถ์หลักยากจะตามหาตัว เพราะท้ายที่สุด พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตของจิตใจ และถึงแม้จะครอบครองสมบัติปิดผนึกที่สอดคล้องกัน อย่างมากก็ช่วยให้เข้าไปสำรวจในทะเลจิตใต้สำนึกรวมเพื่อต่อสู้หรือขับไล่มังกรจิตออกจากเขตดังกล่าว… แต่ในทางกลับกัน สมาคมแปรจิตมีข้อมูลมากกว่านั้น… ไคลน์ครุ่นคิดอย่างผ่อนคลาย บังคับให้เดอะเวิร์ลพูด
“ประเพณีบูชามังกรจะช่วยให้สติของมังกรจิตมั่นคงขึ้น… คุณสามารถบอกให้คนของตัวเองจดจำหลักการนี้ไว้ หากมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นวงกว้างในพื้นที่ใหม่ ให้เดาไว้ก่อนว่ามังกรจิตพยายามสร้างอิทธิพลและเปลี่ยนความเชื่อของชาวบ้าน”
ใจจริง มันอยากจะเสริมว่ามังกรจิตตนดังกล่าวน่าจะเป็นเทวทูตลำดับ 2 ของเส้นทาง แต่หลังจากไตร่ตรอง ไคลน์พบว่าตนไม่มีหลักฐานยืนยัน
ในกรณีของมนุษย์ หลักยึดเหนี่ยวจะจำเป็นก็ต่อเมื่อก้าวไปถึงลำดับ 2 มีไว้รักษาสภาพจิตใจและหลีกเลี่ยงความบ้าคลั่ง แต่นี่เป็นมังกรตัวจริง สัตว์วิเศษโบราณที่เคยใช้ชีวิตด้วยสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว แม้จะถูกทำให้เจือจางลงจากรุ่นสู่รุ่น แต่โอกาสคลุ้มคลั่งก็ยังง่ายกว่ามนุษย์ ดังนั้น แค่ลำดับ 3 หรือ 4 ก็อาจต้องพึ่งพาหลักยึดเหนี่ยว
“ประเพณีเช่นนั้นช่วยให้สติของมังกรมั่นคงมากขึ้น?” ออเดรย์ถามด้วยความสับสน
“ถูกต้อง” เดอะเวิร์ลมิได้อธิบาย เพียงยืนยันคำตอบ
ออเดรย์หันหน้าไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวโดยไม่รู้ตัว ครุ่นคิดว่าควรถามมิสเตอร์ฟูลหรือไม่ แลกกับราคาที่จ่ายไหว
‘เดอะฟูล’ ไคลน์เห็นดังนั้นจึงมองไปรอบๆ พลางหัวเราะในลำคอ
“พวกเจ้าคิดว่า… เหตุใดเทพถึงต้องเผยแผ่ศาสนาและความเชื่อ?”
นี่มัน… ไม่ใช่เพราะว่าเทพรักมนุษย์หรอกหรือ? ‘จัสติส’ ออเดรย์ผุดคำตอบตามแบบฉบับสาวกเคร่งศาสนา
ถัดจากนั้น ทั้งเธอ แฮงแมน เฮอร์มิท และสมาชิกที่เหลือ ต่างผุดคำตอบที่สอง
ทำให้สติมั่นคง!
บ้าน่า… ถึงตรงนี้ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สรู้สึกว่าตนหัวไม่ไวพอ ไม่ว่าจะพยายามเชื่อมโยงสักเท่าไร ก็ไม่อาจหาข้อสรุปได้!
แบบนี้นี่เอง… ไม่สิ บางทีมิสเตอร์ฟูลอาจพูดถึง ‘หนึ่งใน’ หลายๆ สาเหตุของการเผยแผ่ความเชื่อ… ท่านกำลังแอบกัดกร่อนอำนาจของเทพวายุสลาตันอย่างลับๆ … นี่ก็เกี่ยวข้องกับบารมีของเทพ? ไว้เราค่อยกลับไปถามองค์ราชินี… ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาดันแว่นเลนส์หนาที่ดั้งพลางคาดเดา
‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ที่เคยเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง เมื่อได้ยินเรื่องดังกล่าว มันไม่หวั่นไหวหรือหวาดกลัว แต่ครุ่นคิดหาเหตุผลที่ทำให้สัตว์วิเศษครึ่งเทพสามารถรักษา ‘สติ’ ได้ด้วยความเชื่อ
สมาชิกคนที่เหลืออย่าง ‘เดอะซัน’ เดอร์ริค ออกท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย คล้ายกับได้ยินบางสิ่งที่ลบหลู่เทพเข้า ไม่กล้าใคร่ครวญไปมากกว่านี้
เรื่องนี้มิได้หมายถึงเทพมารอย่าง ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ เพียงฝ่ายเดียว แต่รวมไปถึงเจ็ดเทพจารีตและพระผู้สร้างที่ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์นับถือ!
‘เดอะฟูล’ ไคลน์ไม่พูดต่อ เพียงทำท่าทางผ่อนคลายขณะทุกคนใบ้กิน
ผ่านไปรวมสิบวินาที ‘จัสติส’ ออเดรย์ยิ้มขื่นขมและกล่าว
“สิ่งที่ดิฉันจะเล่ามีแค่นี้”
ความนัยแฝงก็คือ ถึงตาของพวกคุณบ้างแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ