นั่งบนโซฟา รับไวน์แดงจากเด็กสาว ไคลน์ชิมอย่างไม่รีบร้อน พบว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบเปลี่ยนไปกะทันหัน เหล่าโคมไฟสว่างไสวที่ตกแต่งอย่างหรูหราพลันอันตรธานหาย กลายเป็นท่อระบายน้ำที่มืดมน เปียกชื้น และสกปรก
ถัดมา ชายหนุ่มเห็นระเบิดที่คุ้นเคยห้าอันในมือตัวเอง
นี่มันระเบิดที่เราวางไว้ไม่ใช่หรือ? ไคลน์สะดุ้งในตอนแรก แสร้งทำเป็นผงะ ทิ้งวัตถุระเบิดอย่างลนลาน มองไปรอบตัวอย่างระมัดระวัง
เมื่อไม่พบสิ่งผิดปรกติ ไคลน์บรรจงถอยหลังทีละก้าว ควานหาบันไดโลหะแนวตั้ง ปีนขึ้นอย่างชำนาญและรวดเร็ว ปิดฝาท่อระบายน้ำ
เมื่อกลับถึงถนนเบิร์คลุน ความฝันทั้งหมดแตกกระจัดกระจาย ปลุกให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่น
ไคลน์ลืมตา ในห้องที่เกือบทึบ มองไปบนเพดานสีทอง นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ฝีมือของครึ่งเทพเส้นทางนักจารกรรม? ‘’
อีกฝ่ายสามารถหลบหนีการติดตามของเหยี่ยวราตรี ซ่อนในละแวกใกล้เคียงเพราะกังวลว่า ‘จักรพรรดิมืด’ ที่เปิดโปงเบาะแสของตนจะปรากฏตัวอีกครั้ง จึงโน้มน้าวความฝันทีละคนเพื่อมองหาเป้าหมาย?
เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเรามีสติคมชัดในความฝันขณะถูกบุกรุก คงเผลอลงมือจุดระเบิดตามความเคยชิน… เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ความทรงจำดังกล่าวยังคงสดใหม่…
โชคดีที่เราสรุปได้ว่า หนึ่งในกฎของ ‘นักเชิดหุ่น’ คือการพยายามอย่าออกหน้าฉากด้วยตัวเอง… ไม่ว่าจะสำรวจท่อระบายน้ำหรือแอบไปพบทริสซี่ เราจะใช้งานหุ่นเชิดเสมอ ต่อให้ระยะทางไกลเกินกว่าจะควบคุม ก็ต้องส่งร่างวิญญาณไปเชิดจากระยะไกลโดยมีมิติสายหมอกคอยกีดขวางการเชื่อมต่อ นอกจากนั้นยังพกพาวัตถุที่ขัดขวางพลังสอดแนมและทำนายถึง ช่วยให้อีกฝ่ายไม่สามารถค้นหาได้ว่าใครคือผู้ชักใยตัวจริง ไม่อย่างนั้น เราคงถูกพบตัวนานแล้ว อาจไม่ถึงแก่ความตาย แต่ก็ต้องหลบหนีออกจากเบ็คลันด์อย่างหมดสภาพ…
คิดถึงตรงนี้ ไคลน์พบว่าตนค่อนข้างโชคดี เพราะในตอนที่ยังไม่รู้ว่ามีความลับใดซ่อนอยู่ในท่อระบายน้ำ ในตอนที่ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับครึ่งเทพเส้นทางนักจารกรรม มันยังปฏิบัติตามกฎของ ‘นักเชิดหุ่น’ อย่างเคร่งครัด ช่วยให้รอดพ้นจากการถูกเปิดโปงตัวจริง
เบ็คลันด์เป็นเมืองที่อันตรายมาก… ความประมาทเพียงเล็กน้อยสามารถทำให้เกิดปัญหาบานปลาย… ไคลน์ถอนหายใจพลางสัมผัสได้ว่าโอสถ ‘นักเชิดหุ่น’ ถูกย่อยไปอีกเล็กน้อย
รอจนกระทั่งอารมณ์สงบลง ชายหนุ่มพูดในใจ
ดูเหมือนว่าครึ่งเทพรายนั้นยังอยู่ที่ถนนเบิร์คลุน… ซ่อนตัวอยู่ในบ้านเฮเซล และมีความเป็นไปได้สูงที่จะอยู่ใกล้เธอ…
หึหึ… ถ้าอีกฝ่ายบุกรุกความฝันของเราก่อนหน้านี้สักหนึ่งถึงสองนาที ทางนั้นจะได้เห็น ‘อสรพิษแห่งชะตา’ วิล·อัสติน… แม้ว่าเทวทูตลำดับ 1 รายนี้จะอยู่ในสภาพอ่อนแอ แต่ก็ยังเป็นเทวทูตในเครือเดียวกับโอโรเลอุส ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรับมือกับหัวขโมยอ่อนแอซึ่งมิอาจทำเรื่องง่ายๆ อย่างการสิงเฮเซลในฐานะปรสิต ไม่ต้องพูดถึงพลังพิเศษ ลำพังการเผยร่างสัตว์ในตำนานที่สมบูรณ์แบบ ก็มากพอจะทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส…
พนันได้เลยว่า วิล·อัสตินคงมองเห็นอนาคตตรงนี้ จึงเลือกเข้าฝันเราในช่วงเวลาดังกล่าว หลีกเลี่ยงการถูกโจมตีโดยครึ่งเทพนิรนาม
แต่น่าเสียดาย… ใจจริงเราก็อยากสั่งสอนให้พวก ‘หัวขโมย’ ตระหนักว่า การบุกรุกดินแดนความฝันของคนอื่นในกรุงเบ็คลันด์ส่งเดช มีอันตรายมากแค่ไหนรออยู่… เลียวนาร์ดคงรู้ซึ้งเป็นอย่างดีแล้ว…
ไคลน์หยุดความคิด แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาศัยความช่วยเหลือของการเข้าฌาน สะกดจิตตัวเองให้หลับสนิทอีกครั้ง
รอจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น ชายหนุ่มตื่นขึ้นตามธรรมชาติ แปลงโฉมกลายเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์พึมพำสวดวิงวอน
“ช่วยบอกมาดามเฮอร์มิทว่า ยอมรับเงื่อนไข ‘วิธีฟื้นฟูความแข็งแกร่งชั่วคราว’ และพร้อมจะส่งสินค้าในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม… คุณถามแบร์นาแดตได้เลยว่า พร้อมให้ผมไปพบเธอตอนไหน”
สวดวิงวอนจบ ไคลน์เปลี่ยนกลับไปเป็นดอน·ดันเตส ลุกขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำ จัดการกับปัญหาส่วนตัว
แปรงฟัน ล้างหน้า หลังจากที่ได้รับชีวิตชีวากลับคืนมา ชายหนุ่มถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเองเข้าไปในมิติเหนือหมอก เปลี่ยนคำสวดวิงวอนให้เป็นภาพ โยนเข้าไปในดาวแดงสัญลักษณ์ของ ‘เฮอร์มิท’
…
หลังจากนำอนาคตกาลเทียบท่า ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียายืนมองแฟรงค์·ลีเดินเข้าไปในเขตท่าเรือด้วยสีหน้าคาดหวัง มองหาร้านสำหรับขายของ รวบรวมเงินสดได้มากถึงแปดพันปอนด์ หวังซื้อตะกอนพลังของ ‘ดรูอิด’ ให้ได้ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากุมหน้าผาก เกิดความลังเลเล็กๆ ในใจ
แม้ว่าเธอจะมั่นใจในเรื่องที่ ตนสามารถสยบแฟรงค์·ลีที่กลายเป็นดรูอิดด้วยความรู้ด้านศาสตร์เร้นลับและพลังพิเศษ แต่เมื่อจินตนาการถึงความคิดพิสดารของอีกฝ่าย รวมถึงพลังที่สามารถทำในสิ่งเหนือจินตนาการ แคทลียาพบว่าปัญหาอาจไม่ง่ายดายขนาดนั้น เธอไม่อยากมีแตงโมอยู่บนศีรษะ ร่างกายปกคลุมด้วยรวงข้าวขณะถูกดึงเข้าไปในมิติเหนือสายหมอกเพื่อร่วมชุมนุมทาโรต์
แต่เขายังไม่มีสูตรโอสถดรูอิด เรายังไม่ต้องกังวลว่าแฟรงค์จะกลายเป็นลำดับ 5 ในตอนนี้… แคทลียาดันกรอบแว่น พึมพำปลอบใจตัวเอง
ทันใดนั้น สายหมอกสีเทาปกคลุมการมองเห็น ถ้อยคำเกอร์มัน·สแปร์โรว์ดังกังวานในหัว
เทวทูตตอบตกลง? สีหน้าของ ‘พลเรือเอกดวงดาว’ บรรเทาความตึงเครียด เผยรอยยิ้มเล็กๆ อย่างมิอาจควบคุม
ในวินาทีที่ได้เลือดของสัตว์ในตำนาน เธอจะเข้าใกล้ความเป็นครึ่งเทพเข้าไปทุกขณะ!
ปัจจุบัน แคทลียามีสูตรโอสถ ‘ปราชญ์พิศวง’ อยู่ในมือ มีวัตถุดิบหลักที่ใช้คะแนนผลงานแลกจากนิกายมอสส์ และมีช่องทางหาวัตถุดิบรองอย่างครบถ้วน
เดือนกรกฎาคมสินะ… กรกฎาคม… แคทลียาเม้มริมฝีปาก กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องกัปตัน
…
เช้าวันพฤหัสบดี ไคลน์เพิ่งจบคาบเรียนวรรณคดีโบราณ ได้ยินเสียงสวดวิงวอนที่ดังซ้อนทับจนฟังไม่ออก
ส่งตัวเองเข้าไปในมิติหมอก ชายหนุ่มพบว่าผู้สวดคือ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียา
พลเรือเอกดวงดาวขอให้มิสเตอร์ฟูลแจ้งกับเดอะเวิร์ลว่า ราชินีเงื่อนงำตอบตกลงตามคำขอ หากยังอยู่ในกรุงเบ็คลันด์ จุดนัดพบคือตลิ่งฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำทัสซอค ใกล้กับทางขึ้นสะพาน เวลาห้าทุ่มตรง
แบร์นาแดตยังคงอยู่ที่เบ็คลันด์… ไคลน์เสกเกอร์มัน·สแปร์โรว์ขึ้นมาตอบตกลง
เวลา 22 นาฬิกา 58 นาที ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำ ดึงชายกระดาษออกจากกระเป๋า
เป๊าะ!
ไคลน์สะบัดข้อมือ เปลี่ยนเศษกระดาษให้กลายเป็นดอน·ดันเตส นั่งบนชักโครงในห้องน้ำ ถือหนังสือในสภาพเหม่อลอย
จากนั้น ส่วนสูงของชายหนุ่มลดลงสี่เซนติเมตร ใบหน้าซูบลม โครงหน้าชัดลึก กลายเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์โดยสมบูรณ์
ถัดมา ถุงมือข้างซ้ายเริ่มโปร่งใส ด้านในมีเงามายานับไม่ถ้วน
ไคลน์มองเห็นสีสันรอบตัวทวีความฉูดฉาด ซ้อนทับ ก่อนที่ร่างกายจะเลือนหายไปจากโลกความจริง
ชายหนุ่มพุ่งผ่านโลกวิญญาณด้วยความเร็วสูง ปรับทิศทางตามตำแหน่ง เพียงไม่กี่วินาทีก็มาถึงตลิ่งฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำทัสซอค ใกล้กับสะพานเบ็คลันด์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ