ถัดมา เธอเริ่มคิดหาเหตุผลมารองรับ
มิสเตอร์เวิร์ลอยากรับงานนี้? นั่นสินะ เขาเองก็อยู่ในเบ็คลันด์
แต่นี่เป็นภารกิจสอบสวน ไม่ใช่ฆาตกรรม ดอน·ดันเตสน่าสังเวชมากพอแล้ว ปล่อยเขาไป!
หรือว่าการจำกัดเป้าหมายก็เป็นแนวทางการสืบสวนประเภทหนึ่ง? เพราะถ้าไม่มีเป้าหมาย ก็ไม่ต้องสืบสวน…
เราจะทำยังไงดี? ควรเสนอตัวทำภารกิจนี้ดีไหม? ค่าจ้างห้าร้อยปอนด์ ลำพังข้อมูลที่เราเกริ่นไปข้างต้นก็น่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าสองร้อยปอนด์แล้ว แต่คู่แข่งคือมิสเตอร์เวิร์ล… บางที เราสามารถร่วมมือกัน ไม่จำเป็นต้องแข่งขันเสมอไป…
ว่าแต่ ทำไมมิสเตอร์เวิร์ลถึงสนใจงานนี้? จุดประสงค์ของเขาคือคดีของบารอนซินดราสหรือส.ส. มัคท์กันแน่?
ขณะฟอร์สกำลังขบคิดถึงแก่นของปัญหา แฮงแมนและเฮอร์มิทหันมาจ้อง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่อาสารับทำงานนี้ พวกมันมิได้สนใจคดีบารอนซินดราส คดีส.ส. มัคท์ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เศรษฐีดอน·ดันเตสบริจาคเงินหลายหมื่นปอนด์ แต่หากเป็นภารกิจที่ข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูลให้ความสนใจด้วยตัวเอง เกรงว่าเบื้องหลังอาจไม่ธรรมดา
‘เดอะมูน’ เอ็มลินมิได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่เริ่มตระหนักว่าภารกิจสืบสวนของจัสติสอาจมีลับลมคมใน ตัวมันซึ่งเคยคิดจะนำเงินห้าร้อยปอนด์มาเติมเต็มกระเป๋าสตางค์ที่กำลังจะบางลง ตัดสินใจปิดปากเงียบกะทันหัน
ดอน·ดันเตสไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นตัวปัญหาใหญ่ มิสเตอร์เวิร์ลจึงต้องการสืบสวน? หรือว่าทั้งสองคดีมีความสำคัญมากกว่าที่เราเข้าใจในตอนแรก? หัวใจออเดรย์เริ่มเต้นแรง ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย อาศัยตำแหน่งเก้าอี้ที่ได้เปรียบ สำรวจความเป็นไปของสมาชิกชุมนุมทุกคน
จากบรรดาทั้งหมด มีเพียง ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคเท่านั้นที่คิดไม่เหมือนใคร
สำหรับเด็กหนุ่ม เป็นเรื่องปรกติที่สมาชิกชุมนุมทาโรต์จะช่วยเหลือกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อมีคนเสนองาน คนที่พร้อมทำแข็งแกร่งพอจะทำได้ ก็ควรเสนอตัวช่วยเหลืออยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
‘จัสติส’ ออเดรย์หันสายตาไปยังอีกฝั่งของสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว ถามโดยนัย
“มิสเตอร์เวิร์ล คุณจะรับทำงานนี้หรือ?”
หลังจากกลับถึงเบ็คลันด์และรวบรวมข่าวทางทะเลในพักหลัง เธอยืนยันว่ามิสเตอร์เวิร์ลคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์ นักผจญภัยเสียสติผู้โด่งดัง เป็นสุภาพบุรุษแสนอันตรายที่ก่อเรื่องน่าชื่นชมไว้มากมาย และนั่นทำให้ความกระหายอยากผจญภัยทางทะเลของเธอลดลงไปมาก
ไคลน์เตรียมคำตอบไว้นานแล้ว ทันทีที่จัสติสถาม ชายหนุ่มลดมือลงพลางตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ดอน·ดันเตสเป็นเพียงตัวตนหนึ่ง”
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ไคลน์ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลบางเรื่อง นั่นคือดอน·ดันเตสเป็นหนึ่งในตัวตนร่วมของบรรดาข้ารับใช้!
ชายหนุ่มเชื่อว่า หากเลือกจะปกปิดเรื่องนี้ไว้ ในอนาคตมีโอกาสจะถูกเปิดโปงได้ง่าย เพราะดอน·ดันเตสมีความประสงค์จะเข้าร่วมแวดวงชนชั้นสูงของเบ็คลันด์ ขณะเดียวกันก็เพื่อสืบหาความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควัน ดังนั้น มีโอกาสที่ต้องหยิบยืมความช่วยเหลือจากมิสจัสติส ระหว่างนั้น ด้วยความสามารถของ ‘ผู้ชม’ เธออาจค้นพบความลับที่เดอะเวิร์ลพยายามปกปิด อาจค้นพบในสิ่งที่เดอะฟูลไม่เคยเอ่ยถึง
ผลลัพธ์เช่นนี้จะไม่ดีต่อเดอะฟูล มิสจัสติสจะเสื่อมศรัทธาต่อองค์กรและผู้นำ อาจถึงขั้นเคลือบแคลงในตัวเดอะฟูล
จริงอยู่ การที่สมาชิกสองคนไม่รู้จักกัน ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของกันและกัน แต่สามารถร่วมมือกันทำภารกิจจนลุล่วงและสมบูรณ์แบบ คือเหตุการณ์ในอุดมคติของชุมนุมทาโรต์ แต่ในโลกแห่งความจริง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อีกฝ่ายเป็นผู้วิเศษลำดับกลางของเส้นทางผู้ชม แทบไม่มีโอกาสที่จะตบตาได้แนบเนียนไปตลอดรอดฝั่ง!
ดังนั้น การสารภาพตามตรงจะมอบผลลัพธ์ที่ดีกว่าการโกหก
ส่วนเหตุผลที่ไม่พูดออกมาตรงๆ ว่าดอน·ดันเตสคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เพราะไคลน์ไม่อยากให้ชุมนุมทาโรต์มองว่า ทำไมถึงเป็นหมอนี่อีกแล้ว? มิสเตอร์ฟูลไม่มีข้ารับใช้คนอื่นเลยหรือ?
ดอน·ดันเตสเป็นเพียงตัวตนหนึ่ง? ‘จัสติส’ ออเดรย์ตีความนัยแฝงที่ซ่อนอยู่ระหว่างคำ คาดเดาในใจคลุมเครือ
จากนั้น หญิงสาวได้ยิน ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ตอบกระชับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ