เมื่อเดินมาใกล้หนูสีดำไหม้เกรียม สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าครึ่งเทพพลิกตัวลุกขึ้นยืน กล่าวอย่างใจเย็น
“เจ้าลืมปิดประตู”
“อะ…” เฮเซลชะงักเล็กน้อย เพิ่งตระหนักว่าเธอรีบร้อนเข้ามาดูอาการจนลืมปิดประตูตามความเคยชิน นั่นก็เพื่อไม่ให้สาวใช้แอบมองเข้ามา
เมื่อเห็นอาการของหนูสีเทาไม่น่าเป็นห่วง เธอเม้มปากเล็กน้อย หันหลังกลับและเดินไปปิดประตู
ระหว่างทาง เธอไม่ลืมที่จะมองเข้าไปในกระจกเงา พบว่ากระจกบานนี้ยังคงสะท้อนทุกสิ่งในห้องตามปรกติ ไม่มีสิ่งใดแปลกไป
เมื่อประตูปิดสนิท เฮเซลส่งเสียงถาม
“อาจารย์ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?”
หนูสีเทาที่ไหม้เกรียมหันศีรษะไปด้านข้าง มองออกไปนอกหน้าต่าง
“ในโลกแห่งศาสตร์เร้นลับ ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพลังเหนือธรรมชาติล้วนแล้วแต่อันตราย ห้ามประมาทเด็ดขาด… ข้าแค่ลองทำนายด้วยกระจกวิเศษ แต่กลับลงเอยด้วยการติดต่อกับตัวตนลึกลับภายนอก ส่งผลให้พวกเราปะทะกันสักพัก สุดท้ายข้าสามารถช่วยให้ถนนบล็อกนี้ปลอดภัย”
หนูสีเทาเล่าอย่างคล่องแคล่ว ปราศจากอาการติดขัดหรือไม่ต่อเนื่อง คล้ายกับสายฟ้าเมื่อครู่เป็นเรื่องเล็ก
แบบนี้นี่เอง… แล้วทำไมคุณถึงไม่เคยเตือนมาก่อน… เฮเซลขมวดคิ้ว จมูกเริ่มได้กลิ่นไม้ที่ผสมผสานระหว่างเส้นขนและไขมัน
โดยไม่รอให้หญิงสาวตอบกลับ หนูสีเทาหันหน้าไปทางระเบียง กล่าวโดยไม่มอง
“ด้วยเหตุนี้ ร่างกายข้าจึงเสื่อมถอยลงหลายระดับ ไม่เหมาะแก่การอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นอาจถูกคนของโบสถ์รัตติกาลพบตัว… อา เจ้าช่วยหาโอกาสส่งข้าไปยังคฤหาสน์ที่ชานเมืองหน่อยสิ”
มองไปยังหนูขนสีดำที่กำลังส่งกลิ่นคล้ายบาร์บีคิว เฮเซลเงียบงันสักพักก่อนจะขจัดความสงสัยและพยักหน้า
“ตกลง”
…
บ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน
ไคลน์ที่กำลังนอนบนเก้าอี้เอนหลัง มองเห็นคลื่นน้ำกระเพื่อมบนผิวกระจกเงาเต็มบ้าน ตามด้วยส่องแสงสีเงินสว่าง
ตัวอักษรเรียงกันเป็นประโยคทีละคำ
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ อาโรเดส ข้ารับใช้ที่ถ่อมตนของท่านปฏิบัติตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ครึ่งเทพเส้นทางนักจารกรรมรายนั้นถูกตักเตือนเบื้องต้น และข้าได้ลงโทษหล่อนไปเล็กน้อย”
หล่อน? ขณะไคลน์พึมพำสรรพนามที่อาโรเดสใช้เรียกอีกฝ่าย กระจกเงาส่องแสงพร้อมกับเปลี่ยนฉาก
สายฟ้าสีเงินปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ผ่าใส่หนูสีเทาจนร่างกายชักกระตุกและล้มลง
นี่มัน… ไม่อ่อนแอไปหน่อยหรือ? ไคลน์เริ่มตระหนักว่าสถานการณ์ของครึ่งเทพรายนี้อาจเลวร้ายกว่าที่ตนคิด
“นายท่านพอใจกับผลลัพธ์ไหม?” เส้นสีเงินสว่างแปรเปลี่ยนเป็นคำถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่เลว” ไคลน์พยักหน้า
พิจารณาสภาพของครึ่งเทพสักพัก ชายหนุ่มเว้นวรรคก่อนจะถามด้วยความลังเล
“ทำไมเจ้าไม่ฆ่าหล่อนเสีย?”
อาโรเดสร่างข้อความสีเงินทีละตัว
“หากไม่มั่นใจว่าจะปลิดชีพครึ่งเทพได้ในคราวเดียว ก็ไม่ควรบีบให้จนตรอกเกินไปนัก… หากพวกเขาเหล่านี้หยุดยับยั้งชั่งใจ ปลดปล่อยจิตใจตัวเองโดยสมบูรณ์ ร่างกายจะแปรเปลี่ยนสัตว์ในตำนานที่ไม่สมบูรณ์และขาดสติ… โดยส่วนมาก ครึ่งเทพที่ดูเหมือนจะอ่อนแอผิดปรกติ ความจริงเป็นเพราะกำลังข่มจิตใจมิให้คลุ้มคลั่ง… ข… ข้าไม่ได้ไปที่นั่นด้วยร่างจริง จึงทำได้เพียงมอบบทลงโทษเล็กๆ น้อยๆ”
ขณะที่บรรทัดสุดท้ายถูกเขียน ผิวกระจกมีการกระเพื่อมสองครั้ง ไคลน์สัมผัสได้ว่า สิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังมองตนด้วยความเสียใจและสำนึกผิด
ชายหนุ่มไม่ตอบสนอง เพียงพยักหน้าและกล่าว
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ถ้าติดขัดตรงไหน ข้าจะอัญเชิญเจ้ามาอีกครั้ง”
“ขอรับนายท่าน~” ผิวกระจกถูกวาดด้วยสัญลักษณ์โบกไม้โบกมือ
หลังจากเก็บกวาดเสร็จ ไคลน์งีบช่วงบ่าย ก่อนจะเปิดประตูและเดินออกจากห้องนอนใหญ่
ถัดมาไม่นาน พ่อบ้านวอลเตอร์ที่สวมถุงมือสีขาว เดินเข้ามาในห้องกึ่งเปิดโล่งและกล่าวกับนายจ้าง
“นายท่าน มีจดหมายจากทางศาสนจักรถูกส่งมาถึง เชิญชวนให้นายท่านรับตำแหน่งคณะกรรมการ ‘กองทุนการกุศลเพื่อการศึกษาแห่งโลเอ็น’ นายท่านสามารถเลือกทำงานเต็มเวลา ได้รับเงินเดินที่สมน้ำสมเนื้อ หรือจะดำรงตำแหน่งในฐานะคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ ไม่ได้รับเงินเดือน แต่สามารถเข้าร่วมอภิปรายหรือลงมติในประเด็นสำคัญ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ