ค้นพบภาพวาดเทพวายุสลาตันที่บิดเบี้ยว ต้องสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของกุหลาบไถ่บาป? อา… ‘เทวทูตสีชาด’ เมดีซีคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งกุหลาบไถ่บาป… ไคลน์กำลังนั่งบนเก้าอี้พนักสูงของเดอะฟูล เฝ้ามองดาวแดงที่เป็นตัวแทนของแฮงแมนอย่างเงียบงัน
อาศัยข้อมูลของอีกฝ่าย ไคลน์สามารถยืนยันได้ว่า วิญญาณมารที่สิงร่างอินซ์·แซงวิลล์คือเทวทูตสีชาด!
ท่ามกลางความเงียบสงัด ไคลน์นั่งนิ่งในตำแหน่งหัวโต๊ะทองแดงยาว ดูคล้ายกับเทวรูปที่สง่างาม
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ มันพยักหน้ารับเล็กๆ ถอนหายใจออกแผ่วเบา
ร่างของมันเลือนหายไป กลับสู่โลกแห่งความจริงและนอนหลับ เลิกคิดทุกสิ่งรวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอินซ์·แซงวิลล์
จนกระทั่งเช้า ไคลน์ลุกจากเตียง ทำกิจวัตรเดิมที่ทำเป็นประจำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดินเท้าเปล่าไปทางหน้าต่างและดึงม่านเปิด
ริมถนนด้านนอกโรงแรม เดนิสที่แต่งกายคล้ายชาวไบลัมตะวันตกแต่สวมเสื้อคลุมศีรษะ เดินถือถุงมือเหล็กสีดำไว้ในอ้อมแขน มุ่งหน้าไปทางจัตุรัสทางขวามือ จากรายงานที่อีกฝ่ายแจ้งให้ทราบ ไคลน์รู้ว่าเดนิสเตรียมติดต่อกับคนของกองกำลังที่ปกครองในละแวกนี้ ถามเกี่ยวกับความต้องการที่จะซื้ออาวุธสงคราม
แอนเดอร์สันไม่ได้ตามไป เพียงสางเส้นผมหวีแสกอัตราส่วนสามต่อเจ็ดให้ยุ่งเหยิงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปยังริมจัตุรัสและหาที่นั่ง หยิบถุงมือสีดำออกมาสวมข้างซ้าย เล่นละครหุ่นตลกๆ ต่อหน้าคนที่สัญจรผ่านไปผ่านมา
ภาพของชายหนึ่งคนกับหุ่นกระบอกที่มีเสียงหลากหลาย พ่นวาทะอันคมคายและคำถากถางใส่กัน ดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้างได้ไม่น้อย
ปัญหาเดียวก็คือ ภาษาที่ใช้เป็นอินทิส ไม่ใช่ตูทาน น้อยคนนักจะเข้าใจ ส่งผลให้หลังจากยืนมองสักพักก็ต่างคนต่างแยกย้าย
ไคลน์เฝ้ามองนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลหมอก สีหน้ายังคงเรียบเฉย ปราศจากความใคร่ครวญใดๆ
…
ไบลัมตะวันออก สำนักงานชั่วคราวของถุงมือแดงหน่วยโซสต์
ซินดี้ผมสีทองยาวสลวยเดินเข้ามาพร้อมโทรเลขสองสามใบ กล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างตื่นเต้น
“พบเบาะแสใหม่!”
“เบาะแสอะไร?” โซสต์วางถ้วยกระเบื้องเคลือบสีขาวในมือลง เลียวนาร์ด ดาลีย์ และคนที่เหลือต่างก็มองไปทางประตู
ซินดี้ยื่นโทรเลขให้หัวหน้า
“คำกล่าวของจักรพรรดิโรซายล์ที่ว่า ‘ทุกที่ที่เคยผ่านไปต้องทิ้งร่องรอยเสมอ’ สามารถใช้ได้จริง! มีคนจำนวนมากเห็นอินซ์·แซงวิลล์ระหว่างทาง จนพวกเราสามารถพบเส้นทางโดยสมบูรณ์ของเจ้านั่น… จากข้อมูลดังกล่าว อินซ์·แซงวิลล์ค่อนข้างขัดแย้งในตัวเอง เคยมีครั้งหนึ่งที่มันขึ้นไปบนเกาะอาณานิคมของอินทิสและพักเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนจะกลับออกไปและวนเข้ามาใหม่ เกิดเรื่องเช่นนี้อยู่หลายหน… เหมือนกับ…”
นี่มันความไม่สอดคล้องที่ไคลน์เคยเล่าให้ฟังไม่ใช่หรือ? เลียวนาร์ดผ่อนคลายลงเล็กน้อย ครุ่นคิดสักพักก่อนจะเลือกใช้คำ
“การเคลื่อนที่แบบคลื่น”
“ถูกเผง การเคลื่อนที่แบบคลื่น!” ซินดี้ถอนหายใจ หันไปอธิบายต่อ “นอกจากนี้ อินซ์·แซงวิลล์ยังฆ่าหน่วยข่าวกรองของกองทัพอินทิสไปหลายคน แถมยังซื้อวัตถุดิบวิเศษมากมาย ไม่มีใครทราบว่ามันต้องการจะทำอะไรกันแน่”
นี่มัน… เลียวนาร์ดนึกทบทวนสักพัก
“อินซ์·แซงวิลล์ซื้อวัตถุดิบวิเศษเส้นทางใดบ้าง?”
“เส้นทางนักรบ นักล่า และผู้ขับขาน” ซินดี้ชี้ไปทางกระดาษโทรเลขในมือโซสต์
มีเส้นทางนักล่าอย่างที่คิด… หลังจากไม่พบโอกาสบอกใบ้ให้พวกพ้องเอะใจเกี่ยวกับเส้นทางนักล่ามานาน เลียวนาร์ดถอดหายใจโล่งอก ภายในใจไม่เคลือบแคลงเบาะแสที่ไคลน์มอบให้อีกแล้ว สิ่งนั้นต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน!
ขัดตอนถัดไป เราจะชี้นำยังไงให้ทุกคนเชื่อว่าวิญญาณมารที่สิงร่างอินซ์·แซงวิลล์มาจากเส้นทางนักล่า… เลียวนาร์ดขบคิดหลายสิ่งในใจ รอให้โซสต์อ่านโทรเลขให้จบและส่งกระดาษต่อให้คนอื่น เลียวนาร์ดตัดสินใจลองเสี่ยงลงมือทำบางอย่าง
ก่อนจะกล่าว มันชำเลืองไปทางดาลีย์โดยไม่รู้ตัว พบว่าสตรีที่แต่งกายเป็นผู้สื่อวิญญาณรายนี้ตอบกลับด้วยการทำท่ากดฝ่ามือลงพื้น คล้ายกับบอกให้ล้มเลิกความตั้งใจ
มาดามดาลีย์หมายความว่ายังไง? ยังไม่ถึงเวลา รอคอยโอกาสที่เหมาะสมกว่านี้ก่อน? เลียวนาร์ดลังเลสักพัก ก่อนจะเป็นดาลีย์สะบัดกระดาษโทรเลขในมือพร้อมกับมองไปรอบๆ
“ฉันมีข้อสันนิษฐาน”
“ว่ามา” โซสต์กล่าว
ดาลีย์ยิ้ม
“ฉันสงสัยว่า อินซ์·แซงวิลล์กำลังถูกวิญญาณมารเข้าสิง”
พ… พูดออกไปแบบนั้นเลย? ตัวตนจะไม่ถูกเปิดเผยเอาหรือ? เลียวนาร์ดพลันตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ