การเต้นรำหยุดลง จิตใจชายหนุ่มลอยสูงเสียดฟ้า จ้องมองลงมายังจัตุรัสคืนชีพที่ทรุดโทรม มองลงมายังเมืองคูคัวแห่งแคว้นเหนือซึ่งถูกทำลายไปหลายจุดด้วยฤทธิ์ของฟ้าผ่า
ในวินาทีนี้ อารมณ์ของมันกำลังพลุ่งพล่านด้วยหลากหลายสาเหตุ พลางพบว่าผู้คนที่เดินสัญจรเบื้องล่างกำลังเชื่อมต่อกับตนด้วยเส้นด้ายบางๆ ที่มองไม่เห็น กำลังทำตามคำสั่งของตน ทั้งสุข ทุกข์ หรือโกรธ เต็มไปอารมณ์อันหลากหลาย
ไคลน์มีความรู้สึกในทำนองนี้มาสักพักแล้ว และเข้าใจว่ามันคือมุมมองของ ‘ผู้กำกับ’ โดยถือว่าหุ่นเชิดของตนเป็นนักแสดง พยายามกำกับให้เกิดบทละครที่ยิ่งใหญ่
เนื่องจากเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย ไคลน์รีบปรับอารมณ์ส่วนตัว ตัดขาดออกจากความพลุ่งพล่านเหล่านั้น มองทุกสิ่งด้วยทัศนคติที่ไม่ยี่หระ ไม่ถูกอารมณ์ของบทละครสร้างอิทธิพล
ในฐานะ ‘ผู้กำกับ’ มันต้องควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปตามบท อิงอยู่กับความเป็นจริง วิเคราะห์ทุกสิ่งอย่างมีเหตุและผล คอยรวบรวมข้อมูลและผลักดันละครไปยังทิศทางที่ต้องการ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จิตใจของไคลน์สงบลงทันที สัมผัสได้ว่า โอสถกำลังแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ประหนึ่งเส้นด้ายที่มั่นคง
ทันใดนั้น ไคลน์สัมผัสได้ว่า ร่างวิญญาณของตนเริ่มเชื่อมต่อกับเลือดเนื้อ ก่อนจะแบ่งแย่งออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ส่งผลให้มิอาจทานทนอีกต่อไป ส่งเสียงคำรามออกจากส่วนลึกของวิญญาณ
“ไม่!”
สติของมันแตกละเอียดเป็นเศษเล็กเศษน้อย ผสมผสานเข้ากับก้อนเลือดเนื้อแต่ละส่วนจนมีความคิดเป็นปัจเจก
กลายเป็นไคลน์ผู้เจ็บปวด ไคลน์ผู้หยิ่งผยอง ไคลน์ผู้เยือกเย็น ไคลน์ผู้อ่อนโยน ไคลน์ผู้ชอบรำพันติดตลก กลายเป็นโจวหมิงรุ่ย กลายเป็นเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ กลายเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ กลายเป็นดอน·ดันเตส
ร่างวิญญาณทั้งหมดกระจัดกระจายราวกับถูกจับยัดลงไปในเครื่องปั่น
ไม่ห่างออกไป เลียวนาร์ดที่กำลังหลั่งน้ำตาอาบสองแก้ม เห็นดันน์กำลังกอดดาลีย์·ซิโมเน่ในอ้อมอก ก่อนจะเปลี่ยนกลับไปเป็นไคลน์·โมเร็ตติ โดยที่บริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือของอีกฝ่ายเริ่มมีตุ่มเนื้อนูนยื่นออกมาเป็นจำนวนมาก คล้ายกับแต่ละตุ้มมีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเอง เติบโตกลายเป็นหนอนแมลงสีใส และใต้ร่มผ้าก็มีร่องรอยการยุบพองในลักษณะที่คล้ายคลึง
ภาพดังกล่าวทำให้เลียวนาร์ดคิดว่า ไคลน์กำลังจะแตกตัวกลายเป็นหนอนแมลงตัวเล็กๆ และกระจัดกระจายไปทุกทิศ!
ขณะเตรียมลงมือทำบางสิ่ง เลียวนาร์ดรู้สึกวิงเวียนศีรษะกะทันหัน ไม่กล้าจ้องมองโดยตรง
หนอนแมลงโปร่งแสงที่งอกออกจากร่างไคลน์ ท่ามกลางแสงแดด แต่ละตัวเผยให้เห็นสัญลักษณ์สามมิติที่ซับซ้อนและลึกลับ ขยายตัวสลับหดกลับเป็นระยะ แสดงถึงความเป็นนามธรรมที่พิสดาร การเปลี่ยนแปลง พละกำลัง และความรู้
ท่ามกลางสายลมหนาว รอบตัวไคลน์ผุดด้ายมายาสีดำ พวกมันพันรอบตัวเองกลายเป็นเกลียว กลายเป็นหนวดรยางค์ที่แปลกประหลาด
ขณะร่างวิญญาณ วิญญาณดารา กายปัญญา กายอากาศของไคลน์พลันแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยและผสานเข้ากับหนอนแมลงแต่ละชนิดที่เป็นตัวแทนความคิด ความสับสน ความขัดแย้ง หนวดรยางค์พัดกระพือราวกับต้องการโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าสูง สภาพแวดล้อมรอบข้างพลันบิดเบี้ยวกลายเป็นภาพมายา ท่วมท้นไปด้วยเสียงเพรียกหา เสียงคำราม และเสียงการสนทนา
ท่ามกลางประสาทสัมผัสที่ยุ่งเหยิงสุดขีด ทุกสิ่งรอบตัวไคลน์เริ่มแยกตัวออกเป็นชั้นๆ จนดูคล้ายกับโลกวิญญาณ รอบตัวเต็มไปด้วยบางสิ่งที่สัญจรผ่านไปมาท่ามกลางดวงดาวที่สองแสง
ทันใดนั้น ขณะความคิดกำลังกระจัดกระจายอย่างยุ่งเหยิง ความทรงจำหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว
เป็นภาพของอาดัม ราชาเทวทูต กำลังหลับตาและสวดวิงวอน นับเป็นฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ณ ขณะนั้น ไคลน์กำลังใช้ปืนลูกโม่ลางมรณะยิงใส่ศีรษะอินซ์·แซงวิลล์
ตามด้วยการเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยจองตัวตลกพร้อมกับกล่าวเสียงลุ่มลึก “นัดนี้สำหรับหัวหน้า”
เป็นวินาทีที่ ‘ผู้ชม’ อาดัม เฝ้ามองฉากจบของบทละครด้วยสายตากระจ่างชัดและเรียบง่าย
รวมถึงวินาทีที่ตนแปลงเป็นดันน์·สมิทและเชื้อเชิญดาลีย์·ซิโมเน่เต้นรำส่งท้าย
ฉากทั้งหมดกำลังคมชัดในจิตใจ โดยเฉพาะสายตาอันแน่วแน่ของ ‘ผู้ชม’ นั่นคือการตอบสนองของคนดูที่ทรงพลังอย่างเหนือจินตนาการ คล้ายกับมีแรงดึงดูดที่ช่วยให้ไคลน์ฟื้นคืนสติกลับมาคมชัด
เรา…
เป็นใครกันแน่?
สำหรับคำตอบของคำถามนี้ ไคลน์เคยขบคิดสมัยเป็นผู้ไร้หน้า จึงมอบคำตอบให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว
บุรุษผู้มาจากดาวเคราะห์โลก บุคคลที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยหลังจากประกอบเข้ากับเศษเสี้ยวความทรงจำของไคลน์
ชายผู้ได้รับประสบการณ์มากมายสมัยยังทำงานในฐานะเหยี่ยวราตรี
ชายผู้ยึดถือความปลอดภัยของตนเป็นที่ตั้ง ไม่เสี่ยงอันตราย แต่ก็ยืนหยัดในอุดมการณ์ของตัวเอง
เป็นผู้พิทักษ์ เป็นหนอนแมลงที่น่าสมเพช
ประสาทสัมผัสประหลาดที่ไม่ได้มาจากกายปัญญาหรือร่างวิญญาณ คอยๆ ถูกดึงออกจากเศษความคิดที่กระจัดกระจาย ควบแน่นกลายเป็นความคิดใหม่ที่เย็นชาและสุขุม เป็นความคิดของผู้เฝ้ามองทุกสิ่งจากมุมสูง ผู้ที่มองเห็นสัจธรรมของโลกอย่างแตกฉานในทุกแง่มุม
มันเข้าใจอย่างคลุมเครือว่า นี่คงเป็นเศษเสี้ยวความเป็นเทพ จึงไม่ต่อต้าน เลือกจะเรียงร้อยเศษเสี้ยวร่างวิญญาณที่กระจายกระจายเข้าด้วยกันใหม่ด้วยด้ายมายาสีดำ ค่อยๆ เปลี่ยนให้พวกมันกลับคืนสู่สภาพเดิม
ในวินาทีนี้ มันตระหนักถึงเจตนาที่แท้จริงของพิธีกรรมเลื่อนลำดับ
มันคือสมอ คือหลักยึดเหนี่ยว เมื่อเทียบกับเส้นทางอื่น ‘จอมเวทพิสดาร’ ที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ร่างวิญญาณแตกแยก จำเป็นต้องได้รับหลักยึดเหนี่ยวล่วงหน้า!
ทว่า หลักยึดเหนี่ยวในคราวนี้มิใช่ศรัทธาจากผู้คนหมู่มาก กลับกัน ศรัทธารังแต่จะซับซ้อนเกินไป ยุ่งเหยิงเกินไป แฝงอารมณ์ส่วนตัวมากเกินไป ท่ามกลางภาวะร่างวิญญาณแตกสลาย มันง่ายที่จะทำให้ผู้ประกอบพิธีกรรมซึ่งอยู่เพียงลำดับ 5 สูญสิ้นความเป็นมนุษย์โดยสิ้นเชิง เหลือไว้เพียงความเฉยชาของเทพ
ท่ามกลางบทละครที่ยิ่งใหญ่และประณีต ลำพังความสนใจจากผู้ชมจำนวนมากก็เพียงพอที่จะเป็นหลักยึดเหนี่ยว!
แม้ว่าในคราวนี้จะมีผู้ชมไม่มาก แต่หนึ่งในผู้ชมก็เป็นถึงจุดสูงสุดของเส้นทาง ‘ผู้ชม’ อาดัมสามารถทดแทนผู้ชมทั่วไปได้หลายพัน หรือกระทั่งสามารถ ‘จินตนาการ’ ผลลัพธ์เช่นเดียวกับโรงละครให้ไคลน์
เมื่อก่อตัวเป็นร่างสมบูรณ์ ความรู้ปริมาณมหาศาลพลันพรั่งพรูออกจากดวงวิญญาณระดับครึ่งเทพ ย้อนกลับมาท่วมท้นจิตใจของไคลน์ สร้างแรงปะทะอันเหนือจินตนาการ มอบความรู้สึกคล้ายกับศีรษะจะระเบิด
ทว่า เนื่องจากเคยสัมผัสประสบการณ์และเศษเสี้ยวความเป็นเทพมาแล้วหลายครั้ง เมื่อลองนึกทบทวนกลับไป มันสามารถข้ามผ่านบททดสอบนี้อย่างง่ายดาย
หนอนแมลงโปร่งใสที่ยื่นออกจากใบหน้า หลังมือ ลำคอ และใต้ร่มผ้า เริ่มหดกลับเข้าไปในร่างเนื้อพร้อมกับเปลี่ยนเป็นไคลน์·โมเร็ตติผู้มีผมสีดำและดวงตาสีน้ำตาล
จ้องหน้าดาลีย์·ซิโมเน่ที่ร่างกายเย็นเฉียบในอ้อมแขนตนสักพัก ไคลน์ยกเธออุ้มและย่างกรายไปหาเลียวนาร์ด·มิเชล จากนั้นก็โน้มตัวลงและวางสตรีผู้เลอโฉมด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ