ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 47

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเบาๆ “ใช่แล้ว หากไม่ใช่เพราะข้าหย่ากับเซียวจิ่นหมิง ก็คงไม่มีโอกาสได้ไปเปิดหูเปิดตาดูงานเลี้ยงครั้งใหญ่เช่นนี้นะเจ้าคะ”

ฮูหยินเฒ่าคิดไม่ถึงว่าหยุนหรั่นเฟิงจะดื้อรั้นสุดๆเช่นนี้ สีหน้าเริ่มขึงขังเล็กน้อย “เจ้า......”

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อวานท่านพ่อของข้าก็ส่งจดหมายกลับมา บอกว่าให้ข้าออกไปเดินเล่นด้านนอกให้มากๆ อย่าอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน บังเอิญจดหมายเชิญก็มาพอดี ท่านย่า ท่านว่าบังเอิญหรือไม่เจ้าคะ?”

ฮูหยินเฒ่าหยุนสำลักทันที

ใครๆก็รู้ว่าหยุนหรั่นเฟิงเป็นหัวแก้วหัวแหวนของหยุนโม่ หากหยุนโม่รู้ว่านางอ้างเหตุผลที่หยุนหรั่นเฟิงไม่ใช่หญิงโสดเพื่อขัดขวางไม่ให้นางไปร่วมงานเลี้ยงชมดอกกล้วยไม้ ก็จะต้องโมโหเป็นแน่!

ฮูหยินเฒ่าสูดหายใจเข้าเล็กน้อย “พ่อของเจ้าก็พูดแล้ว งั้นก็ไปเถอะ”

หยุนหรั่นเฟิงสีหน้าดีอกดีใจ “ขอบคุณท่านย่าที่เข้าใจและเห็นใจ” แล้วก็จงใจมองไปยังสีหน้าอันไม่น่าดูเล็กน้อยของหยุนหรั่นเฉิน “น้องสาว ถึงเวลาเจ้าก็ไปกับข้า เจ้าเป็นถึงผู้หญิงที่มีความสามารถเป็นที่หนึ่งของต้าหลี่เราเชียว ถึงเวลาข้าจะต้องเรียนรู้จากเจ้าให้มากหน่อย จะได้ไม่ทำตระกูลหยุนของเราขายหน้า”

หยุนหรั่นเฉินแทบจะฝืนยิ้มไว้ไม่ได้ ฝืนกล่าวว่า “ท่านพี่พูดอะไรกัน แม้แต่พระราชวังท่านก็เข้าไปบ่อยๆ ข้ายังต้องชี้แนะท่านพี่อีกหรือ”

หยุนหรั่นเฟิงกะพริบตาเล็กน้อย “ที่เจ้าพูดเป็นความจริงหรือ?” ไม่รอให้หยุนหรั่นเฉินตอบ นางก็ปรบมือหัวเราะแล้วกล่าว “ข้ายังคิดว่าน้องสาวจะไม่อยากไปกับข้าซะแล้ว ด้วยกลัวที่จะกระทบกับชื่อเสียงหญิงงามเป็นที่หนึ่งของเจ้าน่ะ!”

“......” เล็บของหยุนหรั่นเฉินแทงเข้าไปในฝ่ามือ ความเจ็บปวดอันแหลมคมบังคับให้นางต้องรักษาความสงบไว้ “ท่านพี่พูดไปถึงไหนเจ้าคะ ท่านไปกับข้า เป็นความปรารถนาที่ข้ายากจะหามาได้!”

หยุนหรั่นเฟิงยิ้มแล้วกว่า “เป็นพี่น้องที่ดีจริงๆ ท่านย่า น้องสาว ท่านว่าพรุ่งนี้ข้าสวมชุดสีแดงหรือว่าชุดเหลืองขนห่านดี? สีแดงทำให้ผิวของข้าขาวเปล่งปลั่ง สีเหลืองขนห่านสามารถเผยความงามดั่งดอกไม้ที่ยังตูมอยู่ของข้าออกมา แล้วประกอบกับปิ่นระย้าหยกเลี่ยมทองที่ไทเฮาพระราชทาน......”

ฮูหยินเฒ่าหยุน: “.......”

หยุนหรั่นเฉิน: “......”

หยุนหรั่นเฉินทนที่หยุนหรั่นเฟิงยกยอปอปั้นตัวเองไม่ได้อีกต่อไป หาข้ออ้างรีบจากไป ไม่ง่ายกว่าจะกลับมาที่เรือนของตัวเองได้ ในที่สุดรอยยิ้มบนใบหนาก็ฝืนไว้ไม่ได้อีก ฝ่ามือหนึ่งโบกลงไปที่สาวใช้ด้านข้าง “เมื่อครู่เจ้าหัวเราะแล้วใช่หรือไม่? แม้แต่เจ้าก็หัวเราะข้า!”

ตุบเสียงหนึ่งสาวใช้คุกเข่าลงไปที่พื้นทันที ส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัว “ข้าน้อยไม่มี! ข้าน้อยไม่ได้ทำเจ้าค่ะ!”

ความโกรธเคืองของหยุนหรั่นเฉินไม่ลดลง เขวี้ยงเครื่องลายครามที่จัดวางตกแต่งแตกไปติดต่อกันสองสามชิ้น เรือนที่ประณีตงดงามดูมีสง่าเกะกะเรี่ยราดขึ้นอย่างฉับพลัน “หยุนหรั่นเฟิงนังสารเลวนั่น! คิดไม่ถึงว่าจะกลั่นแกล้งข้า!”

สาวใช้รีบกล่าวเตือน “คุณหนู อย่าเพิ่งรีบร้อน รอให้ฮูหยินกลับมา พวกเราก็จะดีแล้วเจ้าคะ!”

“ท่านแม่กลับมาแล้วจะอย่างไร? มีท่านพ่อให้ท้าย หยุนหรั่นเฟิงจะกลัวใคร!”

“เช่นนั้น เช่นนั้น.....”

“ในบ้านมีท่านพ่อให้ท้าย ข้าดูซิว่านางไปด้านนอก ยังจะมีใครให้ท้ายนางอีก!” ในตาของหยุนหรั่นเฉินมีความดุร้ายแวบผ่าน บนใบหน้าอันงดงามเต็มไปด้วยความชั่วร้าย!

“นางไม่ได้อยากไปงานเลี้ยงชมดอกกล้วยไม้หรือไง? ก็ให้นางไป รูปร่างหน้าตาดีแล้วยังไง ก็แค่คนไร้ความสามารถ ถึงเวลาข้าจะทำให้ทุกคนได้รู้ ว่าใครเป็นลูกสาวที่โดดเด่นมีความสามารถที่สุดของตระกูลหยุนกันแน่!”

สามวันผ่านไป

งานเลี้ยงชมดอกกล้วยไม้ขององค์ชายห้าก็มาถึง ยังไม่เที่ยง รถม้าทีละคันก็ทยอยวิ่งเข้ามาในคฤหาสน์ที่ชานเมืองหลวงขององค์ชายห้า ในเวลาอันสั้นก็เป็นเสียงหัวเราะสนทนากันของหญิงสาวกับดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่งสีสันลานตา ทั้งยังมีคุณชายที่สง่างามดั่งหยกคุยโวโอ้อวดกันอีก โชคดีที่ลานกว้างใหญ่เป็นที่สุด จึงไม่ได้เบียดเสียดกันแม้สักนิด

องค์ชายห้าเซียวจิ่นหยูนั่งอยู่ในศาลาตรงที่สูง มองดูบรรดาผู้คนที่เคลื่อนตัวไปมาไม่หยุดนิ่งตรงภูเขาเบื้องล่าง เคาะหมากรุกตัวหนึ่งเบาๆ “น้องแปดยังไม่ถึง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์