เปลือกตาของหยุนหรั่นเฉินกระตุกเล็กน้อย แล้วก็ฝืนทนต่อไปทันที รีบมองไปทางหยุนหรั่นเฟิงเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็หยุดไว้ทันที หัวเราะเบาๆ “เมื่อคืนพี่สาวข้าลำบาก ตอนเช้าจึงตื่นสาย ทำให้พี่หยูหว่านรอนานแล้ว ท่านพี่ ผู้นี้คือลูกสาวภรรยาหลวงของจวนเฉิงเซี่ยง ฐานะสูงศักดิ์เป็นที่สุด”
เมื่อคืนลำบาก?
คำพูดนี้ของหยุนหรั่นเฉินพูดไม่กระจ่างชัดเจน เพราะอยากจะทำให้คนเข้าใจผิดหรือว่าเข้าใจผิดกันนะ? คิดอยากจะยืมมือหลอกใช้ใครอีกล่ะ?
หยุนหรั่นเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อย
เป็นดังคาด บนใบหน้าของจางหยูหว่านมีความขุ่นเคืองเกิดขึ้นเล็กน้อย มองไปทางหยุนหรั่นเฟิงอย่างเย็นชา “เป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลหยุนผู้สูงส่ง คิดไม่ถึงว่าจะหน้าไม่อายเพียงนี้ ไม่รักษาคุณธรรมของผู้หญิง แค่คิดว่าองศ์ชายแปดแต่งงานเอาเจ้าเข้าจวน ข้าก็รู้สึกไม่คุ้มค่าแทนเขา! หยุนหรั่นเฟิง องศ์ชายถูกเหยียดหยามก็เพราะเจ้า เจ้ามันไร้ยางอายจริงๆ!”
คำก็องค์ชายแปด สองคำก็องศ์ชาย หยุนหรั่นเฟิงมองไปยังสายตาที่ไม่ได้ปิดบังความหึงหวงของจางหยูหว่าน ในที่สุดก็แยกแยะอะไรได้บ้างแล้ว
คุณหนูจางท่านนี้ อารมณ์ความรู้สึกคือเป็นคนที่รักใคร่เทิดทูนเซียวจิ่นหมิง?
เซียวจิ่นหมิงเจ้าคนห่วยแตกนี่ คิดไม่ถึงว่าจะมีเสน่ห์ล่อผึ้งล่อผีเสื้อมาได้ขนาดนี้ น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
จางหยูหว่านยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเคือง พูดต่อว่า “ก็ถูก เพราะเจ้าเป็นเช่นนี้ไม่รู้จักอาย ก่อนจะแต่งงานก็เกาะแกะองศ์ชายแปด คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่แต่งงานไปแล้วจะไม่รู้จักเห็นคุณค่า กลับทำให้องศ์ชายแปดตกเป็นที่ประณาม เจ้าก็คู่ควรหรือ?”
“โชคดีที่องศ์ชายไม่ได้ถูกเจ้าทำให้หลงเสน่ห์ แต่งงานไปหลายเดือน ก็ไม่เคยเข้าหอกับเจ้าเลย ช่างน่าขันซะจนฟันร่วงเสียจริง!”
มุมปากของหยุนหรั่นเฟิงกระตุกเล็กน้อย! ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ไร้สมองของเซียวจิ่นหมิงหรอกนะ?
นางแขวะอยู่ในใจ หนังตากระตุกเล็กน้อย มองดูคุณหนูตระกูลจางที่ฟองน้ำลายสาดกระเซ็นอยู่ กล่าวช้าๆอย่างสุภาพว่า “คุณหนูจาง พูดจบรึยัง?”
จางหยูหว่านหัวเราะเยาะ “ทำไม เจ้ากล้าทำแต่ไม่กล้าให้คนอื่นพูดหรือไง!”
“เจ้ามีสิทธิ์ที่เจ้าจะพูด แน่นอนว่าข้าไม่สามารถจะแปะพลาสเตอร์หนังหมาบนปากของเจ้าได้ แต่ว่านะ......” ดวงตาอันคมสวยของหยุนหรั่นเฟิงยิ้มขึ้นทันที “คุณหนูจาง เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกเราเข้าหอหรือไม่ได้เข้าหอ? เรื่องในห้องนอนประเภทนี้เจ้าก็รู้ หรือว่าตอนนั้นเจ้าแอบอยู่ใต้เตียงของข้า?”
ฟู่ว!
ทุกคนที่ดื่มชาล้วนพ่นน้ำชาออกมาพร้อมกัน ที่ไม่ได้ดื่มชาแต่ละคนก็มีสีหน้าแปลกๆ พยายามกลั้นหัวเราะไว้
ใบหน้าของจางหยูหว่านแดงก่ำ “หยุนหรั่นเฟิง เจ้ากล้าทำให้ข้าขายหน้า!”
ใบหน้าของหยุนหรั่นเฟิงเผยความประหลาดใจออกมา “คุณหนูจาง ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นพยาน ข้าพูดอะไรหรือ? บอกว่าเจ้าไม่ปฏิบัติตามทำนองคลองธรรมของผู้หญิงไม่เคารพพิธีการไม่รู้จักอายแล้วงั้นหรือ?”
“เจ้า!”
“องค์ชายห้าเสด็จ!”
แววตาของหยุนหรั่นเฟิงเคลื่อนไหวเล็กน้อย เหลือบตามองไป ก็เห็นทุกคนแยกกันเหมือนทะเลแหวกเช่นนั้น องค์ชายที่ห้าเซียวจิ่นหยูนั่งอยู่บนรถเข็นผ่านไปช้าๆ
เซียวจิ่นหยูแก่กว่าเซียวจิ่นหมิงไม่กี่ปี แต่รูปร่างหน้าตากลับดูไม่ต่างกัน รูปโฉมสง่างามสูงส่ง บุคลิกลักษณะสุภาพอ่อนโยนกัน แม้ว่าจะเดินไม่ได้ ก็สมกับชื่อเสียงคุณชายผู้ฉลาดปราดเปรื่องและห้าวหาญได้
หากนางจำไม่ผิด ท่านนี้ได้สูญเสียคุณสมบัติที่จะแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทเพราะขาพิการ หลังจากนั้นได้ตั้งใจมุ่งมั่นทำการค้า ตอนนี้ได้กลายเป็นพ่อค้าอันดับหนึ่งในต้าหลี่แล้ว มีการค้าขายภายใต้ชื่ออยู่นับไม่ถ้วน และเพราะเหตุนี้ จึงกลับกลายเป็นฝ่ายที่บรรดาองค์ชายต่างพากันมาดึงไปเป็นพวก
สามารถพัฒนาจุดเด่นที่มีอยู่ของตัวเองได้ถึงขีดสุด จะต้องเป็นคนที่เฉลียวฉลาดอย่างแน่นอน
โดยปกติหยุนหรั่นเฟิงชอบคนฉลาด พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ไม่แสดงตัวว่าต่ำต้อยและไม่โอหัง
เซียวจิ่นหยูจ้องมองหยุนหรั่นเฟิงที่สีหน้าสุขุม ในตาฉายแววความประหลาดใจเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...
รอตอนต่ออยู่นะค่ะ...
รบกวนอัพเดทตอนใหม่ให้ด้วยนะคะ รอรอรอ...
สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่ค่ะ...
รอการอัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ😭...
รอการอัพเดทอยู่นะคะ...
❤❤❤...
รออ่านเรื่องนี้ตั้งหลายวันนนน...