ลู่เจี้ยจับจ้องเข้าไปแววตาลึกล้ำของเจียงหลี คล้ายว่ามีเสน่ห์สีแดงดั่งดวงอาทิตย์วูบไหว
“หลีเอ๋อร์?” เขาเอ่ยออกมาอย่างแผ่วบางโดยไม่รู้ตัว ทำลายเสน่ห์ใต้ตานาง เจียงหลีตั้งสติแล้วถามต่อถามอย่างไม่รู้ตัว “เมื่อกี้เจ้าถามข้าว่าอะไรนะ”
ลู่เจี้ยยิ้มมุมปากอย่างระงับอารมณ์เมื่อเหยื่อกระโดดลงกับดับเอง “ข้าถามเจ้าว่า ชิงเกอคือใคร?”
“ท่านรู้จักชื่อนี้ได้อย่างไรกัน” ดวงตาเจียงหลีหดลง
“ลู่เสวียนบอกข้าเอง” ลู่เจี้ยตอบอย่างไม่ใส่ใจในมือเขายังไม่ลืมถือช้อนหยกตักยาทาลงบนแผ่นหลังเจียงหลีที่มีบาดแผลอย่างเบามือ ไอเย็นจากยา การเคลื่อนไหวของชายหนุ่ม ทำให้เจียงหลีขนลุกซู่
นางพยายามจะอดทนกับความยั่วยวนเช่นนี้ กัดฟันแน่พูดว่า “เจ้าเด็กบ้านั่นรู้ได้อย่างไร”
เมื่อได้ยินนางเรียกชื่อเล่นลู่เสวียนสนิทสนมจนเกินเหตุ ลู่เจี้ยหรี่ตาลงฉายแววอันตราย มือที่ทายาอยู่หนักขึ้น…
“โอ้ยย เบาหน่อยสิ ท่านอยากให้ข้าเจ็บจนตายหรือไง” เจียงหลีร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“หลีเอ๋อร์เรียกเสี่ยวเสวียนสนิทสนมเช่นนั้นเกรงว่าจะไม่เหมาะ หากผู้อื่นได้ยินเข้า อาจคิดว่าเจ้าไม่มีกาลเทศะ ต่อไป ก็เรียกชื่อเขาโดยตรง หรือจะเรียกเขาว่าซื่อจื่อก็ได้” ลู่เจี้ยก้มหน้าลงขนตายาวปกปิดอารมณ์ในแววตา
“แค่ชื่อเรียก ทีข้ายังเรียกท่านว่าพ่อรูปหล่อเลย ก็ไม่เห็นท่านว่าข้าไม่มีกาลเทศะ” เจียงหลีบ่ายเบี่ยงพึมพำอย่างไม่พอใจ
มุมปากลู่เจี้ยยกขึ้นเล็กน้อยไม่พูดต่อเรื่องนี้ กลับตอบคำถามก่อนหน้าอย่างอารมณ์ดี “เสี่ยวเสวียนบอกว่า ตอนพวกเจ้าพบกับฉินเทียนอี เจ้าได้เอ่ยชื่อนี้ออกมา”
ตอนนั้นนี่เอง เจียงหลีนึกขึ้นได้ทันที
แม้ความทรงจำนั้นจะคลุมเครือไปบ้าง แต่นางยังจำได้ชัดเจนว่านางตื่นเต้นเกินไปจนเผลอเรียกชื่อมู่ชิงเกอออกมา
นางก็นึกว่า มู่ชิงเกอมาหานางแล้วจริงๆ!
มีความหวัง แต่ก็ผิดหวัง อารมณ์เจียงหลีหดหู่ลงเล็กน้อย ความหดหู่นี้หนีไม่พ้นสายตาลู่เจี้ยแน่นอนว่าสิ่งนี้ยิ่งทำให้ดวงตาเขามืดมนลง
คนคนนี้เคยได้ยินแต่ชื่อ แต่มีอิทธิพลต่อหลีเอ๋อร์มากเหลือเกิน
“หลีเอ๋อร์ไม่อยากพูดอะไรกับข้าหน่อยหรือ” มือลู่เจี้ยเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล น้ำเสียงแฝงด้วยความยั่วยวน
เจียงหลีทนกับมือเขาที่ยุกยิกกับแผ่นหลังตนไม่ได้ กำผ้าห่มปิดเรือนร่างของตนไว้แน่ หันไปมองใบหน้าขาที่งดงามจนมิอาจหาใครเทียบได้
“อยากรู้หรือ งั้นมาแลกเปลี่ยนกัน!” เจียงหลียกคิ้วเผย แววตามีประกายความไม่ยอมแพ้
นางไม่หลงกลกลยุทธ์ความหล่อเหลาของชายหนุ่มหรอก!
หัวไหล่ที่เปลือยเปล่าทำให้ไหปลาร้าของร่างบางตกอยู่ใต้สายตาชายหนุ่ม ดวงตาดั่งลูกแก้วมืดหมองลงทันที สายตาเขาตรงไปตรงมาจนเจียงหลีเกิดอึดอัดขึ้นมา
“หลีเอ๋อร์อยากรู้อะไรหรือ” เมื่อเจียงหลีรู้สึกอึดอัดใจจนจะไล่ชายหนุ่มออกไปเสียก่อน เขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าตนตกอยู่ในสถานะที่ลำบาก ก่อนจะโดนไล่ออกไป ต้องทำลายความคิดนี้เสียก่อน
เป็นจริงอย่างที่คิดไว้ แววตาเจียงหลีสว่างขึ้นทันที “ท่านบอกข้าเกี่ยวกับความลับสายเลือดของตระกูลลู่ ข้าจะบอกท่านว่าชิงเกอคือใคร”
แววตาลู่เจี้ยยากจะคาดเดา ไม่นาน พูดขึ้นมาอย่างช้าๆ “ได้”
ใบหน้าเรียวเล็กของเจียงหลีเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เหมือนลูกแมวเหมียวที่ได้รับความพึงพอใจแฝงด้วยเสน่ห์ ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์บริสุทธิ์มีประกายเจิดจ้า


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์