ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 14 ท่านเชื่อหรือไม่ว่าข้าเป็นราชินี
เหอะ ช่างอำมหิตนัก!
“นี่คิดจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีตระกูลเย่ว์ให้จมดินเลยนี่”
“หากข้าเป็นเย่ว์หนานซี คงเกิดบาดแผลลึกในใจแล้ว แต่เป็นการกระทำเช่นนี้โหดเ**้ยมยิ่งกว่าการฆ่าคนเสียอีก!”
“หนานซี หนานซี ลูกข้า…”
เย่ว์ชิงหลิวยังไม่ได้แม้แต่จะตอบสนองสิ่งใด ก็ได้ยินเสียงร้องที่โศกเศร้าราวกับใจจะแตกสลายลงของฮูหยินดังมาจากในห้องด้านหลัง
ลูก!
หัวใจของเย่ว์ชิงหลิวบีบรัด ยังไม่ทันที่เขาจะออกไปเผชิญหน้ากับเรื่องข้างนอก ก็ต้องหันร่างวิ่งกลับไปยังห้องด้านใน เย่ว์หนานซีเป็นผู้สืบทอดตระกูลที่เขาฝากความหวังไว้อย่างมาก จะเกิดเหตุเป็นไปไม่ได้แม้แต่เสี้ยวเดียว
พินิจถึงตรงนี้ เย่ว์ชิงหลิวรู้สึกทั้งเจ็บปวดและดาลเดือดจนนัยน์ตาแทบจะระเบิดออก ความเกลียดชังที่มีต่อเจียงหลีเพิ่มขึ้นทวีคูณ
คนตระกูลเย่ว์ต่างก็งงงันเช่นกัน เรื่องการหมั้นหมายระหว่างเย่ว์หนานซีกับเจียงหลี คนในตระกูลไม่น้อยก็พอทราบอยู่ ทว่า นายท่านเคยพูดไม่ใช่หรือว่า อำนาจของตระกูลเจียงได้สิ้นไปแล้ว การหมั้นหมายนี้ก็ต้องยกเลิกด้วย บุตรที่เป็นหน้าเป็นตาให้แก่ตระกูลของพวกเขาควรค่าต่อการแต่งงานที่ดีกว่านี้
ทำไมตระกูลเย่ว์อย่างพวกเขายังไม่ทันได้ทำการถอนหมั้น นางเจียงหลีน่าสังเวชคนนั้นก็ถอนหมั้นเองเสียก่อนแล้วล่ะ ทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
ศักดิ์ศรีตระกูลเย่ว์นี่ยังจะรักษาไว้อยู่หรือไม่
คนในตระกูลเย่ว์ถลากันไปที่ประตูใหญ่ อยากจะรู้ให้แน่ชัดว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่หลังจากมุ่งไปถึงหน้าประตู กลับอดไม่ได้ที่ต้องหายใจเฮือกจนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งกาย
แม่เจ้าช่วย!
ผู้คนมากมายมหาศาลเหล่านี่นี้มันอะไรกัน
“เร็ว! รีบไปรายงานนายท่านเร็ว” ผู้อาวุโสของตระกูลเย่ว์กำชับคนดูแลด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย
ทางด้านนี้ เย่ว์ชิงหลิวรีบรุดเข้ามายังห้องของลูกชาย เห็นเสื้อผ้าเขาเปื้อนไปด้วยสีของเลือด และตัวคนที่หมดสติไป จึงเศร้าซึมและหดหู่ใจยิ่ง รู้สึกแค่เพียงไอเย็นที่ซาบซึมออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ
“นายท่าน นังต่ำทรามนั่นต้องตายสถานเดียว” เรือนร่างของนางแซ่หลี่บิดเบี้ยวไปหมด นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นชวนให้รู้สึกหวาดผวายิ่ง
เมื่อเหอซื่อกับเจียงอวี๋ได้ยินคำพูดนั้น ในใจก็สั่นไหว
พวกนางถูกเจียงหลีเล่นงานอย่างสาหัส เดิมทีแม่ม่ายและบุตรสาวกำพร้าเป็นผู้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงและต้องใช้ชีวิตอย่างลำเข็ญอยู่แล้ว ถ้าออกจากตระกูลเย่ว์ไป พวกนางจะทำอย่างไร
“ทหาร ไล่ผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างนอกนั่นออกไป ไม่อนุญาตให้ย่างกรายเข้ามาในจวนตระกูลเย่ว์แม้แต่ก้าวเดียว” เสียงตะโกนฉับพลันของเย่ว์ชิงหลิวดังออกไป
เห็นได้ชัดว่า เขาเอาโทสะในใจระบายลงกับสองแม่ลูกนั่นแล้ว
สีหน้าของเหอซื่อเปลี่ยนโดยพลัน แล้วร้องอ้อนวอนขอความเมตตาซ้ำไปซ้ำมา
เจียงอวี๋ร้องไห้ตะโกนไม่ยอมไป ปากก็ร้องเรียก พี่หนานซี พี่หนานซี ไม่หยุด
ทว่า ต่อให้พวกนางจะร้องไห้คร่ำครวญอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจที่มาจากโทสะอันเดือดดาลของเย่ว์ชิงหลิวได้
ไม่นาน ทั้งสองก็ถูกลากและโยนทิ้งออกไปยังประตูด้านหลัง ก็ถือว่าโชคดีที่เลี่ยงจากประตูใหญ่ที่กำลังสนุกอยู่นั้นได้
ภายในห้อง เย่ว์ชิงหลิวยังไม่ทันได้ตรวจดูสภาพของลูกชายตน ก็ได้รับรายงานเข้ามา จึงทำได้เพียงรีบออกไปยังประตูข้างนอกอย่างร้อนรน
เมื่อเขามาถึงแล้วเห็นสถานการณ์นั้น แม้ว่าในใจจะเตรียมพร้อมไว้แค่ไหน ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่าเบื้องหน้ามืดมัวไปหมด
ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงตระกูลเย่ว์ของเขาจบสิ้นแล้ว!
อัปยศ! ช่างอัปยศอดสูเหลือเกิน!
วันนี้ เป็นวันที่อัปยศที่สุดตั้งแต่ที่เขามีชื่อเสียงมา!
“นายท่านเย่ว์ คำพูดของนายน้อยตระกูลข้า ท่านจำได้แล้วหรือไม่ หนังสือถอนหมั้นนี้ ท่านต้องเก็บไว้ให้ดี และเจียงหลีกับตระกูลเย่ว์ไม่มีความสัมพันธ์อันใดอีกต่อไป จงดูแลลูกชายของท่านให้ดี อย่าได้หน้าหนาหน้าทนตามรังควานไม่เลิกอีกเลย” ผู้อารักขาตระกูลลู่ที่กำลังชูหนังสือถอนหมั้นนั้น มีท่าทีทะนงองอาจ เย่ว์ชิงหลิวหาได้อยู่ในสายตาเขาไม่
หลังจากสื่อในสิ่งที่ต้องพูดแล้ว เขาก็ออกแรงโยนหนังสือถอนหมั้นที่อยู่มือออกไป และตกสู่ใต้เท้าของเย่ว์ชิงหลิว
เสียง แปะ ของหนังสือนั่น คล้ายกับเป็นเสียงที่ตบหน้าเย่ว์ชิงหลิว เย่ว์หนานซี และคนทั้งตระกูลเย่ว์
นี่แหละคือเสียงที่ไพเราะก้องกังวาล!



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์