“อู๋เชียน ข้ามาทวงหนี้แล้ววว!”
เสียงของหนานอู๋เฮิ่น ก็ดังไปทั่วสำนักหลิงอู่อย่างรวดเร็ว เหล่าลูกศิษย์และอาจารย์ของสำนักหลิงอู่ต่างทยอยกันมาที่นี่
เจียงหลีมองเขาด้วยความประหลาดใจ พอฟังก็รับรู้ได้ถึงความเย็นชาที่ทิ่มแทงในคำหยอกล้อของเขา
ในไม่ช้า ทั้งสองก็ถูกโอบล้อมไว้ด้วยเหล่าอาจารย์และลูกศิษย์ของสำนักหลิงอู่ที่ได้ยินเสียง
พวกเขาพินิจพิเคราะห์เจียงหลีด้วยสายตาไม่ดี หลังจากเห็นหนานอู๋เฮิ่นชัดๆ แล้ว ในแววตาลึกๆ มีความหวาดกลัวซ่อนอยู่
หนานอู๋เฮิ่น……เป็นถึงอันดับหนึ่งของเจ็ดวีรบุรุษแห่งสถาบันไป๋หยวนเชียวนะ!
ตำนานเล่าว่าอีกแค่นิดเดียวเขาก็สามารถไปถึงขั้นหลิงจงได้ และในยุคโฮ่วจิ้น หลิงจงก็เหมือนกับยืนอยู่บนจุดสูงสุดในจุดสูงสุด
หรือจะกล่าวอย่างนี้ก็ได้ หลิงจงทั้งเจ็ดท่านที่เป็นที่รู้จักในยุคโฮ่วจิ้น ในนั้นมีสามท่านที่อยู่สถาบันไป๋หยวน และหนานอู๋เฮิ่นจะสามารถเป็นคนที่แปดได้หรือไม่
“ทำไมวันนี้ท่านอาจารย์หนานจึงมีเวลาว่างมาสำนักหลิงอู่ได้ล่ะ” ด้านหลังของกลุ่มคน เสียงของอู๋เชียนดังขึ้นมา
อู๋เชียนคนนี้ ตำแหน่งในสำนักหลิงอู่ ถึงแม้จะไม่เทียบเท่าหนานอู๋เฮิ่นที่อยู่ในสถาบันไป๋หยวน แต่ว่ารับผิดชอบงานภายนอกทั้งหมด ดังนั้นหลังจากที่เขาปรากฎตัวออกมา ลูกศิษย์และอาจารย์ของสำนักหลิงอู่ต่างก็แสดงความเคารพกันหมด
ร่างของอู๋เชียนค่อยๆ เดินออกมาจากกลุ่มคนที่แยกออก
สายตาของเจียงหลีหยุดอยู่ที่ตรงร่างของหมาแก่ตัวนั้น ดวงตาแวววาวเป็นประกายคมกริบ นี่คือคนที่ต้องการเอาชีวิตนาง นางจะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
เหมือนกับว่ารู้สึกถึงสายตาของเจียงหลี อู๋เชียนตีหน้าตายแล้วกวาดสายตามองไปที่นาง สีหน้าขุ่นมัวเล็กน้อย ราวกับเขากำลังไม่พอใจที่เจียงหลีแคล้วคลาดปลอดภัย
คนที่สวมหน้ากากลึกลับคนนั้นที่จู่ๆ ก็ยื่นมือเข้ามา เขาจะหาตัวให้เจอ แล้วบดขยี้เขาด้วยมือของตัวเอง! ยังเหลือลู่จ้าน! เย่อหยิ่งจริงๆ เลย! อวดดีเกินไปแล้ว!
รอก่อนเถอะ วันตายของตระกูลลู่ใกล้มาถึงแล้ว ถึงตอนนั้นลู่จ้านก็เป็นเพียงแค่หมาที่ไร้เจ้าของ เขาจะจัดการอย่างไรก็ได้
และนายน้อยรูปงามของตระกูลลู่คนนั้น
ถึงแม้ว่าเป็นผู้ชาย ก็ไม่สำคัญหรอก! ความคิดสกปรกของอู๋เชียน ไม่ปราฏออกมาแต่อย่างใด หลังจากที่เขามองเจียงหลี กลับไม่แม้แต่จะสนใจนางเลยสักนิด มองไปที่หนานอู๋เฮิ่นโดยตรง
หนานอู๋เฮิ่นยังคงยิ้ม “ผู้เฒ่าอู๋ขี้ลืมไปบ้าง ดังนั้นข้าก็เลยมาเตือนด้วยตัวเองถึงที่”
แววตาของอู๋เชียนน่าเกรงขามขึ้นมา
เป็นการเตือนถึงที่ที่ดี! เจ้าหนานอู๋เฮิ่นคนนี้มีความกล้าหาญจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะกล้ามาคนเดียวกับนางเด็กนี่ มายั่วยุถึงที่นี่
“ท่านอาจารย์หนานอาจจะใจร้อนไปหน่อย” อู๋เชียนยิ้มเยาะ
ดูเหมือนว่าหนานอู๋เฮิ่นจะฟังคำพูดประชดเหล่านั้นไม่เข้าใจ “ผู้เฒ่าอู๋คำพูดนี้ผิดแล้ว ข้าเพียงแต่รับปากลูกศิษย์ว่ารอนางออกมาจากอาณาเขตหลิงอู่ ก็จะให้รางวัลตามที่สัญญา ไม่ทราบว่าหนังสือทักษะการต่อสู้ระดับพิเศษขั้นสามของผู้เฒ่าอู๋ เตรียมไปถึงไหนแล้ว”
หนังสือทักษะการต่อสู้?
ยังพูดถึงหนังสือทักษะการต่อสู้ระดับพิเศษขั้นสามอยู่ได้!
คำพูดของหนานอู๋เฮิ่น ทำให้ทั้งลูกศิษย์และอาจารย์สถาบันอู่หลิงที่มุงอยู่ต่างพากันซุบซิบกัน
เรื่องที่พนันกันไว้ แน่นอนว่าจะไม่ประกาศอย่างโจ่งแจ้งเมื่ออู๋เชียนกลับมา ส่วนคนที่รู้ก็คือคนพวกนั้นที่ติดตามไปด้วย คิดไม่ถึงว่าหนานอู๋เฮิ่นจะพาเจียงหลีมาหักหน้าถึงที่!
“ท่านอาจารย์หนานกลัวข้าจะผิดสัญญารึ” อู๋เชียนหัวเราะเยาะ
ใครจะไปรู้ หนานอู๋เฮิ่นพยักหน้า พูดอย่างจริงจังว่า “เพราะเช่นนี้ถึงได้เป็นกังวลมาก”
“……..” อู๋เชียนถูกคำพูดของเขาทำให้เกิดความโมโหมาก
เขาเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักหลิงอู่ คำพูดของเขากลายเป็นคำพูดของอันธพาลที่ไม่น่าเชื่อถือหรือ
“หนานอู๋เฮิ่น! ที่นี่ไม่ใช่สถาบันไป๋หยวนของเจ้า” อู๋เชียนกัดฟันกล่าวเตือน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์