ความอ่อนไหวเล็กน้อยนั้นมาเร็วแต่ก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว
ความสนใจของทุกคนอยู่บนตัวลู่เสวียนที่กระโดดลงกำแพงไม่ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของลู่ซิ่งเฉา
ทว่าการเคลื่อนไหวของลู่เสวียน จุดไฟเลือดอันร้อนรุ่มในใจของเหล่าเทียนเจียว เลือดร้อนที่พรั่งพรูไปถึงสมองทำลายสติของพวกเขา ทำลายความหวาดกลัวของพวกเขา
ภายใต้การนำของลู่เสวียน ทุกคนต่างเริ่มเลียนแบบ
ขณะนี่ไม่มีใครสังเกตถึงผู้นำกลุ่มสังเกตการณ์เทียนเจียวที่ยืนสังเกตอยู่เงียบๆ ดวงตาฉายแววสะใจ
ราวกับว่า…เป็นรอยยิ้มที่แผนชั่วร้ายสำเร็จผุดขึ้นมาบนมุมปาก
เขาเฝ้าดูอย่างเงียบๆ โดยไม่สนความกระสับกระส่ายของเหล่าเทียนเจียว
ท่ามกลางเหล่าเทียนเจียวยังมีคนค่อยเสริมสร้างกำลังใจยิ่งทำให้เลือดในกายของเหล่าเทียนเจียวร้อนรุ่มกว่าเดิมกระตุ้นให้พวกเขาลงเข้าสู่สนามรบ
แต่ว่าเสียงของลู่ซิ่งเฉาก็ดังขึ้นมาดั่งฟ้าผ่า “เทียนเจียวทุกคนเฝ้าระวังบนกำแพงเมือง หากผู้ใดเข้าร่วมสนามรบโดยไม่ได้รับคำสั่งก็ฆ่าไม่เว้น”
เสียงทรงพลังอันน่าเกรงขามดังขึ้นมา เหมือนสายฝนตกใส่เหล่าเทียนเจียวที่หน้ามืดตามัว อีกทั้งยังทำให้ผู้นำกลุ่มสีหน้าตระหนักแววตามืดมนลง
เจียงหลีก็ถูกคำพูดนี้สะเทือนถึงจิตใจ นางแอบตกใจกับพลังปราณอันแข็งกล้าของลู่ซิ่งเฉา ยังเห็นเขายืนบนแท่นสั่งการ ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา
มารวานรตัวหนึ่ง ปรากฏตัวจากด้านหลัง ส่งเสียงคำรามมันยื่นแขนออกมาหวังจะจับตัวลู่เสวียนที่เข้าไปในสนามรบ
ลำแขนที่อยู่กลางอากาศยาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนลำตัวงู เมื่อขยับเข้าใกล้ลู่เสวียนก็คว้าตัวเขาเหวี่ยงตัวเขาจากนอกกำแพงโยนเข้าไปในกำแพง
ก้นลู่เสวียนกระทบกับพื้นเข้าอย่างจัง มีดเหล็กที่แย่งมาก็ตกอยู่ข้างๆ แผดดังก้อง
ขาเงยหน้ามองไปทิศทางที่ท่านพ่ออยู่ กลับสบเข้ากับดวงตาที่เข้มงวดตักเตือน
“อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม” ลู่เสวียนพยายามดิ้นลุกขึ้นยืนเพื่อจะเข้าสู่สนามรบอีกครั้งแต่ก็ถูกเจียงหลีจับไหล่ห้ามไว้ก่อน
ลู่เสวียนหันกลับมามองนางด้วยแววตาดิ้นรนยังไม่หายไป กลับเห็นเจียงหลีส่ายหัวช้าๆ สายตาเหลือบมองไปทางผู้นำกลุ่มอย่างอำพราง
หลังจากลู่ซิ่งเฉาตะเบ็งเสียงออกมา เจียงหลีก็มองคนนั้นโดยไม่รู้ตัว นางมิวายเห็นสีหน้าผิดหวังบนใบหน้าของเขาจึงทำให้นางเกิดความสงสัย
ลู่เสวียนหันหัวมองตาเห็นท่าทางผู้นำกลุ่มที่ก้มหน้าเงียบ เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ได้ก็เริ่มเกิดความสงสัย
ตึง ตึง ตึง!
เสียงกลองถอยทัพดังขึ้นกะทันหัน
เจียงหลีและลู่เสวียนหันหน้าไปพร้อมกันก็พบทหารม้าต้าฉินที่มาอย่างกระเ**้ยนกระหือรือกลับถอยทัพ ต้าฉินถอยทัพ ลู่ซิ่งเฉาเองก็ไม่ได้ไล่โจมตีเพียงแต่สั่งให้ถอยทัพเช่นกัน
การถอยทัพกะทันหันทำให้ผู้นำกลุ่มขมวดคิ้ว ส่อแววเสียดายเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เจียงหลีกลับแปลกใจที่ต้าฉินจู่ๆ ก็ถอยทัพ
การประจัญบานเมื่อครู่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ตัดสินแพ้ชนะ ที่ต้าฉินเลิกทัพทำเยี่ยงนี้มันรู้สึกหัวเสือหางงูเกินไปแล้ว
“ทำไมพวกเขาถึงเลิกทัพกันล่ะ” แม้แต่เจ้าเด็กโง่อย่างลู่เสวียนยังถามด้วยความงุนงง
เจียงหลีมองไปทางลู่ซิ่งเฉาเห็นสีหน้าเขานิ่งสงบราวกับว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ “มีพ่อเจ้าอยู่ ต้าฉินไม่สามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรได้หรอก”
“นี่ก็เรื่องแปลกที่ต้าฉินเลิกทัพ” จิ่งเยี่ยพูดเสียงเบา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์