นางรู้สึกได้ว่าวิญญาณของนางกำลังถูกกลืนกิน
“ไปให้พ้น” เจียงหลีส่งเสียงคำรามออกมา พร้อมปล่อยพลังจากร่างของนางพุ่งออกไป พยายามข่มให้พลังที่กลืนกินนางอยู่ถอยไป ทันใดนั้น นางลืมตาขึ้นมอง เห็นสถานการณ์ของตนอย่างชัดเจน
ไม่ นางยังไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าขณะนี้ตัวนางเองอยู่แห่งหนใด
นางรู้เพียงว่าตัวนางอยู่ในความมืดมิดอันไร้ขอบเขต เบื้องหน้าของนางมีดวงไฟสองดวง ซ้ายขวาข้างละดวง
ดวงไฟฝั่งซ้ายมือนั้นคล้ำหมองและดูเปราะบาง ประหนึ่งเพียงเอามือบีบก็จะมลายไปทันควัน
แต่ดวงไฟฝั่งขวามือนั้น สว่างไสวกว่าดวงซ้ายมากนัก พลังดูดกลืนเมื่อครู่นั้น แผ่ออกมาจากดวงไฟนี้นี่เอง
ร่างวิญญาณ! เจียงหลีเข้าใจในบัดดล
นางจำได้ว่าเดิมทีนางล่องลอยอยู่ในรอยแยกของความว่างเปล่า ร่างกายของนางถูกทำลายสิ้น อาศัยเพียงความว่างเปล่าเสริมสร้างจิตวิญญาณของนาง เพื่อรอคอยวันคืนที่จะได้กลับคืน นางต้องการกลับไปยังโลกใบเดิมเพื่อตามหาหญิงสาวที่มีนามว่ามู่ชิงเกอ เพื่อดูว่านางตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ แล้วอยู่ดีหรือไม่ แต่มีอยู่วันหนึ่ง จู่ๆ ก็มีพลังลึกลับดึงดูดนางไปยังสักแห่งหนึ่งของจักรวาล แล้วถีบนางส่งเข้ามาอยู่ในโลกที่แปลกประหลาดใบนี้ ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะต่อต้านแรงนั้น
บัดซบ ใครเป็นคนถีบข้าเนี่ย เจียงหลีโกรธแค้นอยู่ในใจ ขณะเดียวกันก็พินิจพิเคราะห์ดวงไฟทางขวามืออย่างตั้งใจ
ส่วนดวงไฟทางซ้ายที่พร้อมจะดับลงทุกเมื่อ นางไม่สนใจมันเลยสักนิด ดูเหมือนว่าร่างวิญญาณของนางจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกับดวงไฟทางขวา ทว่านางสามารถครองตำแหน่งผู้อยู่เหนือกว่าได้ในพริบตา ภายหลัง นางสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตที่บีบนางให้ต้องลืมตาขึ้น และพยุงร่างที่การต่อสู้ของร่างกายที่ไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งเดียวกันนัก เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ร่างจิตวิญญาณของนางถูกใช้กำลังเกินควร ท้ายที่สุดนางก็สลบไป
เจียงหลียิ้มออก แม้ว่าขณะนี้นางจะเป็นเพียงดวงไฟ มองไม่เห็นรอยยิ้มของนาง ทว่าก้นบึ้งหัวใจของนางกำลังยิ้มอยู่ เป็นการยิ้มเยาะเสียด้วย เห็นได้ชัดว่าดวงไฟทางขวามือฉวยโอกาสขณะที่นางกำลังอ่อนแอดูดกลืนนางแล้วครอบครองร่างนี้
ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าดวงไฟทางขวาหยุดการดูดกลืน และเริ่มการโจมตีอีกครั้ง แต่ครานี้ เป้าหมายในการโจมตีไม่ใช่นางอีกต่อไป แต่เป็นดวงไฟทางซ้ายมือต่างหาก
เจ้าอยากดูดกลืนวิญญาณของเจ้าของเดิมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง แล้วค่อยมาประลองกันกับข้าว่าใครอยู่เหนือกว่ากันหรือไม่ เจียงหลีเข้าใจแผนการของดวงไฟทางขวามือทันที
เป็นที่ประจักษ์ว่าดวงไฟทางขวามือนั้นรู้ดีว่าตัวมันเองด้อยกว่านางนัก สำหรับเรื่องนี้ เจียงหลีมีความมั่นใจมาก แม้ว่าพลังวิญญาณของนางจะอ่อนแอลงมากจากครั้งที่นางทำลายโลกธาตุ แต่นางก็ทำนุบำรุงร่างมาเป็นเวลานาน จะอย่างไรนางก็ยังแข็งแกร่งกว่าดวงวิญญาณอื่นๆ มากนัก ตัวเลือกของดวงไฟทางด้านขวาเป็นตัวยืนยันถึงข้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…
ดวงไฟของเจียงหลีกระโดดพรวดขึ้นปรากฏตัวต่อหน้าดวงไฟสลัว ยืนกั้นดวงไฟทางขวามือไว้ นางแปลงร่างเป็นเงาคนที่สวยงามตนหนึ่ง เป็นภาพมายาที่สูงส่งงดงามยิ่ง ในมายานี้ ดวงตาคู่งามที่ไม่มีใครเหมือนบังเกิดความเย็นชาขึ้น
เจียงหลียิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม ในรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยอัตตาประหนึ่งทั่วใต้ฟ้าโลกหล้านี้มีนางสูงส่งแต่เพียงผู้เดียว
ทันใดนั้นนางพลิกมือขึ้นคว้า ดวงไฟสลัวดวงนั้นถูกดูดกลืนเข้าสู่ฝ่ามือของนางในพริบตา ดวงวิญญาณที่รวยรินถูกนางดูดกลืนในครู่เดียว ร่างวิญญาณของนางดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมเล็กน้อย
ในอวกาศอันมืดมิดนี้เหลือเพียงนางและดวงไฟทางขวามือเท่านั้น
“ยอมให้ข้าดูดกลืนแต่โดยดีเถิด เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” เจียงหลียิ้มอย่างภาคภูมิ แล้วพุ่งตัวไปยังดวงไฟที่เหลืออยู่
……
เจียงหลีฟื้นขึ้น
ครานี้นางฟื้นขึ้นแล้วจริงๆ
หลังจากที่กลืนกินวิญญาณไปสองดวงติด เจียงหลีก็เรอออกมาอย่างไม่สงวนท่าทีนัก
“ที่นี่ที่ไหน” เจียงหลีพึมพำ เสียงของเด็กสาวอายุสิบสองสิบสามปีนี้ไม่ได้ทำให้นางตกใจ เพราะนางย่อยความทรงจำของดวงไฟสลัวทางซ้ายไปหมดแล้ว ส่วนดวงไฟทางขวามือนั้น…
สายตาของเจียงหลีจ้องไปยังคานของตัวบ้าน ดวงตามีความเยือกเย็นปรากฏขึ้น ดูเหมือนจะมีพลังปกป้องวิญญาณดวงนั้นไว้ แม้นางจะกลืนมันเข้าไปแล้ว แต่ความทรงจำของดวงไฟนั้นถูกปิดผนึกไว้ในส่วนลึกที่สุดทำให้นางไม่สามารถแตะต้องได้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์