“นายน้อย…” เงาสงสารเขายิ่งนัก
เขาเฝ้าปกป้องดูแลลู่เจี้ย เลี้ยงดูเขาแต่เล็กจนโต คำทำนายที่ว่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินยี่สิบแปดปี เหมือนดั่งคำสาปที่คอยตามโอบล้อมลู่เจี้ยไว้
“ไปสืบข่าวของราชสำนักซีเฉียนมา ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าให้เสียโอกาส” ลู่เจี้ยโบกมือแล้วออกคำสั่งแก่เงา
เวลาหนึ่งปีกว่า ราชวงศ์จยาเซียนได้ผนวกต้าฉินและยึดครองรัฐฉู่ไปแล้ว ก่อนจะถอนกำลังทหารในฤดูหนาว เมืองซย่า และเชียนฉีก็เป็นลูกไก่ในกำมือเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงได้กลายเป็นหนึ่งในสามเมืองที่แข็งแกร่งที่สุดในแถบทางใต้
ภายใต้การวางแผนของเขา เมื่อเริ่มฤดูใบไม้ผลิก็จะลงมือกับเมืองสุ่ยหันทันที
ราชสำนักสุ่ยหันอ่อนแอไร้ความสามารถ ไร้ซึ่งแม่ทัพที่แข็งแกร่งในประเทศ หากจะคว้ามาก็ไม่ได้เสียกำลังหรือเวลามากเท่าไร แต่ทว่า เขากลับระแวงซีเฉียนเมืองเพื่อนบ้านสุ่ยหันมากกว่า
เหตุผลประการแรกคือ ต้องป้องกันซีเฉียนฉวยโอกาสส่งกำลังทหารมา ประการที่สองเนื่องจากซีเฉียนคือเป้าหมายต่อไปของเขาหลังจากที่ได้สุ่ยหันมาครอบครอง
หมากนี้ ได้ฝังไว้ตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว ปกปิดไว้ไม่กระทำการใด ก็เพื่อรอคอยวันที่เขาออกคำสั่ง
“นายน้อย ท่านควรพักผ่อนนะขอรับ” เงากล่าวอย่างไม่เห็นด้วย
ลู่เจี้ยกลับส่ายหน้า “เงา เวลาข้าเหลือไม่มากแล้ว ไม่มีเวลาให้เสียเปล่า เมื่อข้าตายไป ก็มีเวลาพักผ่อนถมเถแล้ว”
“นายน้อย!” คำพูดนี้ ทำให้เงายิ่งทุกข์ใจ
“ไปเถิด ไปทำตามที่ข้าบอก” ลู่เจี้ยหยุดเขาไม่ให้พูดโน้มน้าวต่อ
เงาจนใจจึงทำได้เพียงถอยร่นออกไป สั่งให้คนไปรวบรวมข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับซีเฉียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับราชสำนักของซีเฉียน
ลู่เจี้ยเคยกล่าวว่า ข้อมูลที่ดูเหมือนไม่สำคัญ อาจจะกลายเป็นก้าวสำคัญที่จะเอาชนะศัตรูได้
ฉะนั้น สายสืบที่ตระกูลลู่บ่มเพาะนั้น ไม่เคยปล่อยข้อมูลใดให้หลุดรอดไปเลยสักนิด
…
ในสถานที่การสอบวัดผลของสถาบันไป๋หยวน ที่ที่ถูกมู่ชิงเกอผนึกไว้ ในดวงตาอันสดใสและเปล่งประกายของเจียงหลี จ้องมองดูนาง
ถูกนางมองเช่นนี้ มู่ชิงเกอก็พูดอะไรไม่ออก
เหมือนว่า หากนางให้คำตอบที่ทำให้เจียงหลีพอใจไม่ได้ ก็จะถูกกินเข้าไปอย่างนั้น
“รายละเอียดนั้น ข้าต้องเห็นเขาก่อนจึงจะรู้ได้” สุดท้ายมู่ชิงเกอก็ให้คำตอบกว้างๆ ไป
สายตาของเจียงหลีนั้นผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยวางในทันใด “ข้าใจร้อนเอง เช่นนั้นก็รอให้ออกไปแล้ว ข้าพาเจ้ากลับเมืองเห็นคนผู้นั้นแล้วค่อยว่ากัน”
มู่ชิงเกอนิ่งเงียบไป
นางยังคงไม่พูดอะไร คนผู้นั้นในใจเจียงหลี อาจจะกำลังตามมา ขอเพียงนางออกไปจากที่นี่ ก็จะได้พบกับเขาทันที
เจียงหลีในตอนนี้ ต้องรวบรวมสติแล้วทำการสอบวัดผลให้เสร็จสิ้น
เรื่องอื่น พักไว้ชั่วคราว!
ทั้งสองคุยไปพลางดื่มไปพลาง ไม่นาน สุราที่มู่ชิงเกอนำออกมาก็หมดเกลี้ยง
“หมดแล้ว” เจียงหลีถือไหสุราเขย่าลงพื้นอย่างแรง สุราที่หยดออกมาจากข้างในหนึ่งหยดนั้น นางก็ใช้ปากรับแล้วกลืนลงไป
“เจ้าก็ดื่มต่อไม่ได้แล้วเช่นกัน” มู่ชิงเกอยิ้มกล่าว
“นี่เป็นสุราของบ้านเกิดเชียวนะ! หลังจากครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะได้ดื่มอีกครั้งเมื่อไร” เจียงหลีถอนใจ
มู่ชิงเกอยิ้ม “โลกใบนี้ เหมือนว่าจะไม่มีสิ่งของที่คล้ายกับวงแหวนอวกาศ ตามกฎแล้วเป็นสิ่งที่ถูกห้าม ฉะนั้น สุราที่ข้านำมาจากโลกใบเล็กนั้น ต้องวางไว้ด้านนอกเท่านั้น เมื่อตอนที่ข้าจากไป เจ้าเตรียมสถานที่หนึ่งให้กับข้า ข้าจะซ่อนสุราไว้ให้เจ้าที่ตรงนั้นแล้วกัน”
“เช่นนี้จะดีมาก!” เจียงหลีตื่นเต้นดีใจอีกครั้ง
แต่ว่า ได้ยินมู่ชิงเกอพูดถึงเรื่องที่จัดเก็บแล้ว นางเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเหมือนนางจะไม่เคยสัมผัสกับสิ่งของประเภทนี้มาก่อน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์