“เหตุใดจึงไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว”
เจียงหลีที่อยู่ริมฝั่งทะเลเมฆดูเชือกในมือแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
เสียงของโจวยวนหายไปได้สักพักหนึ่งแล้ว เชือกในมือของนางขยับไปมาสักพักก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ เกิดขึ้นอีก
“อย่าใจร้อน” มู่ชิงเกอเอ่ยปลอบ
เจียงหลีพยักหน้าแต่นัยน์ตายังคงฉายแววกังวล
ทันใดนั้นเชือกในมือของนางก็ขยับถูกดึงสามครั้ง นี่คือรหัสลับที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันตอนที่จะแยกจากกัน หากดึงเชือกสามครั้งนั่นหมายความว่าลู่เสวียนและเจียงเฮ่าไปถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว
“พวกเขาข้ามไปถึงแล้ว” เจียงหลีเผยยิ้มให้มู่ชิงเกอ
“พวกเราก็ไปกันเถอะ” มู่ชิงเกอโยนเชือกในมือทิ้งแล้วปัดมือ
ในเมื่อพวกเขาทั้งสองข้ามไปถึงแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องใช้เชือกอีก อย่างไรก็ตามมู่ชิงเกออยู่ที่แห่งนี้แม้จะจำกัดการฝึกฝนแต่ก็ยังคงความแข็งแกร่ง
พวกนางสองคนผ่านโซ่ไปอย่างราบรื่น ไม่พบคนอื่นๆ
เมื่อเห็นลู่เสวียนกับเจียงเฮ่าอีกครั้งจึงพบว่ามีหนึ่งร้อยแปดสิบคะแนนอยู่ในมือของพวกเขาแล้ว
“ข้าถือว่าผ่านเข้ารอบหรือยัง” เจียงหลีมองสองคนนั้นด้วยความฉงน
นางข้ามผ่านสายโซ่มาได้แต่กลับไม่พบเห็นคู่ต่อสู้เลย เช่นนั้นหากตัดสินตามกฎแล้วสรุปนางทำภารกิจสำเร็จหรือไม่
ในขณะที่นางกำลังงุนงงสงสัยอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงดังลอยมาจากทะเลเมฆ “ผ่านโซ่มาได้โดยไม่มีการต่อสู้ คะแนนสะสมห้าสิบคะแนน”
“แค่ห้าสิบคะแนนเอง!” เจียงหลีเหยียดริมฝีปากอย่างไม่พอใจ
รู้อย่างนี้นางหวังให้มีใครหลายๆ คนมาให้นางปล่อยระเบิดลงเหว
เมื่อเห็นท่าทางกลัดกลุ้มของนาง เจียงเฮ่าจึงพูดเอาอกเอาใจ “อย่าเบะปากหน้ามุ่ยไปเลย หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงพี่ชายจะเทคะแนนทั้งหมดให้เจ้าเอง”
เอ่อ!
เจียงหลียิ้มแหยๆ โบกมือไหวๆ “ไม่ต้องหรอก” นางมีคะแนนสะสมอยู่มากโข ไม่จำเป็นต้องให้เจียงเฮ่าเสียสละตัวเองเพื่อนาง
“แล้วพวกเราต้องไปไหนต่อ” ลู่เสวียนเอ่ยถาม
เจียงหลีเบนสายตามองเขาราวกับค้นหาความผิดปกติจากสีหน้าของเขา แต่กลับไม่พบสิ่งใด นางจึงอดถอนหายใจไม่ได้ เจ้าเด็กคนนี้ค่อยๆ เติบโตเต็มที่แล้วสินะ
บางคนถูกลิขิตให้กลายเป็นเพียงผู้ผ่านไปมาในชีวิต ในขณะที่บางคนอาจกลายเป็นนิรันดร์
คว้าเอาไว้ได้แล้วปล่อยวางได้ถึงจะเป็นยอดปัญญา
“หืม” จู่ๆ มู่ชิงเกอก็มองเจียงหลีด้วยสายตาแปลกๆ
เมื่อครู่นี้นางรู้สึกถึงโพธิจิตจากตัวของเจียงหลี
โพธิจิตคือหัวใจแห่งการบำเพ็ญเพียร!
หลังจากฝึกบำเพ็ญในระดับที่มั่นคงแล้วจึงจะค่อยๆ รู้แจ้งแก่ตน
แต่เจียงหลีนั้นแตกต่างออกไป นางเป็นคนมาจากสองโลกและมีประสบการณ์ทั้งสองโลก ทั้งยังเป็นผู้บำเพ็ญจากทั้งสองโลกอีกด้วย จุดเริ่มต้นโพธิจิตของนางถึงได้สูงส่งกว่าคนธรรมดาอย่างมิต้องสงสัย
บางทีโพธิจิตของนางยังไม่ชัดเจนพอ แม้กระทั่งตัวเจียงหลีเองก็ยังมิทันสังเกต แต่มู่ชิงเกอเชื่อมั่นว่ายามที่นางรู้สึกถึงการมีอยู่ของโพธิจิต การฝึกบำเพ็ญของนางจะก้าวกระโดดแล้วระเบิดศักยภาพที่น่าทึ่งออกมา
“เจ้ามองอะไร” เจียงหลีหันมามองมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอระงับความคิด นางยิ้มให้แล้วส่ายหน้า “เจ้าสวย”
“เหอะๆ” เจียงหลียิ้มเย็น “เจ้ากำลังประชดข้า”
มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว “กล่าวหากันชัดๆ”
เจียงหลีจ้องนางเขม็งราวกับกำลังใช้สายตาพูดว่า ดูสภาพเจ้าตอนนี้สิจะมาเทียบกับยอดโฉมแห่งยุคในชาติก่อนของข้าได้อย่างไร
จู่ๆ เจียงหลีเดินขยับเข้าใกล้มู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอยักคิ้วมองนางไม่สะทกสะท้าน
“นี่ เจ้ามียาจำพวกเพิ่มขนาดหน้าอกหรือเปล่า เอาให้ข้าสักเม็ดสองเม็ดสิ” เจียงหลีกระซิบเสียงเบา
แค่กๆ มู่ชิงเกอกลั้นขำจนกระแอมไอ ในขณะที่เจียงหลีกำลังหน้าดำคร่ำเครียดนางก็ส่ายหน้าแล้วแบมือ “เจ้าคิดว่าข้าว่างขนาดนั้นเลยเชียวหรือ”
“หาว่าเจ้าว่างมากที่ไหนกัน เจ้านี่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนจริงๆ” เจียงหลีทำอย่างกับโดนเหยียบหางเข้าใจจนเสียงดังแปดหลอด
ทั้งเจียงเฮ่าและลู่เสวียนมองไปที่สองคนอย่างประหลาดใจ สีหน้าอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับหัวข้อสนทนาของพวกนาง
ฮ่าๆๆ!



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์