เมื่อนึกถึงรัชทายาทแห่งซีเฉียน ก็ปรากฏเงาของตัวร้ายผู้อวดดีในหัว
ตอนที่เพิ่งมาถึงซีเฉียน พวกเขาสองคนเคยขัดแย้งและต่อสู้กันบนถนน
จากนั้นนางเก็บตัวฝึกฝนอย่างหนักในสถาบันไป๋หยวนจึงลืมคนผู้นี้ไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเฉียนจวิ้นแกว่งเท้าหาเสี้ยนต่อหน้านาง เกรงว่าสองพี่น้องนี่คงลืมนางไปหมดสิ้นแล้ว
แต่ทว่า รัชทายาทแห่งซีเฉียนตามหานางเพื่ออะไร
อีกทั้งยังมาตามหาหลังจากสอบเสร็จแล้ว
“เจ้านายของพวกเจ้าคือรัชทายาทแห่งซีเฉียนใช่หรือไม่” เจียงหลีหยั่งเชิงถามอีกครั้ง
“แม่นางช่างฉลาดนัก” เมื่อเห็นว่านางเดาถูก หลิงไซว่ทั้งสี่ก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป
“ไท่จื่อแห่งซีเฉียนอย่างนั้นหรือ”
เขาขมวดคิ้วถามเจียงหลี “เขาตามหาเจ้าเพื่ออะไร หรือการต่อสู้ของพวกเจ้าคราวก่อนยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ หนึ่งปีแล้วเขายังไม่หายแค้นเจ้าอีกหรือถึงได้มาหาเรื่องอีก”
เจียงหลีกระตุกมุมปาก ยอมให้กับความคิดในหัวสมองของลู่เสวียน
แต่นางก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของรัชทายาทซีเฉียนที่ตามหานาง ถึงอย่างไรการปะทะระหว่าสองคนอย่างที่ลู่เสวียนกล่าวมาอาจเป็นเหตุผลเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
“ข้าจะไปกับพวกเจ้า” ด้วยความสงสัยในใจ เจียงหลีจึงเปลี่ยนใจไปตามนัดหมาย
“ไม่ได้!” ลู่เสวียนรีบหยุดยั้ง
เจียงหลีส่งสายตาให้เขา ลู่เสวียนผงะ ทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายที่เจียงหลีสื่อทันที
“รัชทายาทเทียบเชิญข้าคนเดียว ไม่ต้องให้เขาไปหรอกกระมัง” เจียงหลีชี้ไปที่ลู่เสวียน
หนึ่งในหลิงไซว่กวาดสายตาสำรวจลู่เสวียนแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “แน่นอน”
“ไปสิ” เจียงหลีพยักหน้า
การให้ความร่วมมือของนางจึงทำให้หลิงไซว่ทั้งสองคนยอมหลีกกายเบิกทางให้ จากนั้นปรากฏรถม้าทรงเตี้ยจอดอยู่ด้านหลัง แววตาของเจียงหลีเป็นประกายวูบไหว ดูท่าทางรัชทายาทอวดดีผู้นี้หาตัวจับยาก ไม่อยากให้ใครรู้ว่านัดเจอกับข้า
เจียงหลีขึ้นรถม้าตามสี่คนนั้นไป
ลู่เสวียนยืนอยู่ที่เดิมมองจนรถม้าลับตาไปจากนั้นจึงรีบวิ่งกลับสถาบันไป๋หยวน ซ้อเล็กถูกรัชทายาทซีเฉียนพาตัวไป ที่จริงข้าต้องไปบอกให้พี่ใหญ่ช่วย แต่การที่พี่ใหญ่มาเมืองอู๋อิ๋นก็เป็นความลับอยู่แล้ว สถานะของเขาตอนนี้ละเอียดอ่อนมาก มิอาจให้คนในราชวงศ์ซีเฉียนล่วงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ ดูแล้วคงทำได้เพียงไปตามคนที่สถาบันไป๋หยวน! ไปหาท่านอาจารย์เฟิง!
ในขณะที่กำลังมองเจียงหลีขึ้นรถม้า ลู่เสวียนก็วิเคราะห์ในใจชัดเจนแล้วว่าควรจะตามใครไปช่วย
เจียงหลีไม่ให้เขาตามไป ไม่ใช่เพราะจะให้เขาหาโอกาสไปตามคนมาช่วยหรือไง!
ลู่เสวียนวิ่งทะยานสู่สถาบันไป๋หยวน
เจียงหลีที่อยู่บนรถม้าก็รู้สึกว่าเสียงวุ่นวายของตลาดด้านนอกค่อยๆ เงียบลง แล้วเอ่ยขึ้นในใจ ดูท่าทางน่าจะพ้นเขตเมืองแล้ว
รถม้าได้รับการปกป้องอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เจียงหลีรู้ว่ามันไปที่ไหน
แต่ทว่า นอกจากเจียงหลีจะเป็นหลิงซือแล้วยังเป็นเนี่ยนซืออีกด้วยจึงแอบใช้พลังอ่านจิตเงียบๆ ในรถม้าออกไป และ ‘มองเห็น’ สภาพภายนอกทุกอย่างอยู่ในสายตา
อีกทั้งนางยังควบคุมก้อนกรวดก้อนหินข้างถนนและทำเครื่องหมายอย่างไม่ชัดเจนนักเอาไว้
เช่นนี้ลู่เสวียนก็จะตามคนมาช่วยได้สะดวก
หลักจากอ้อมวนอยู่นาน ในที่สุดรถม้าก็หยุดลง
เจียงหลีเรียกพลังจิตกลับคืนมา เมื่อลืมตาขึ้นประตูรถม้าก็ถูกเปิดออกพอดี หลิงไซว่ด้านนอกเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา “ลงมา”
น้ำเสียงไร้ซึ่งมารยาททำให้แววตาของเจียงหลีวูบไหวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก นางลุกขึ้นโน้มตัวกระโดดลงจากรถม้า จากนั้นสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างสนใจ
นี่คือทะเลสาบที่สวยงามพร้อมตำหนักหลังงามที่สร้างขึ้นริมทะเลสาบ
และมีป้อมปราการทั้งสี่ด้าน
ช่างเป็นการป้องกันที่แน่นหนาจริงๆ! เจียงหลีหัวเราะเยาะในใจและหันสายตากลับมา


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์