แม้ว่านางจะทำให้เกิดความวุ่นวาย อย่างไรก็ตามในความคิดของนางการบรรลุผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่แน่นอน และไม่มีอะไรที่น่าจะอวดและภาคภูมิใจ ยิ่งไปกว่านั้นนางที่เคยเป็นราชินี ตอนนี้กลับถูกลดสถานะไปเป็นทาสและกลายเป็นผู้อารักขาลับ นี่ไม่มีอะไรที่น่าจะแสดงความยินดีเลยจริงๆ
ธรรมดาที่ลู่จ้านไม่สามารถเข้าใจความใจของนางได้
หลังจากไล่คนอื่นๆออกไปแล้ว เขาก็ส่งคนไปพาเจียงหลีไปอีกสถานที่หนึ่ง
“ที่นี่คือที่อยู่อาศัยใหม่ของเจ้า” คนที่พาเจียงหลีมาทำหน้าที่เสร็จก็หันหลังกลับและจากไป อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองไปที่เจียงหลี ความอยากรู้อยากเห็นในดวงตาของเขาได้เผยให้เห็นความไม่สงบในใจของเขา
เจียงหลีไม่รู้ว่าสิ่งที่นางทำในวันนี้ ทำให้ค่ายฝึกสะเทือน
นางมองดูแต่ที่อยู่อาศัยใหม่เท่านั้น อืม ไม่เลว
อย่างน้อยก็ดีกว่าเพิงมุงหญ้าจากก่อนหน้านี้ และตอนนี้กลายเป็นบ้านหินไปแล้ว
เจียงหลีหัวเราะตัวเองในใจ มนุษย์นี่ช่างรู้จักปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้จริงๆ นางใช้ชีวิตกินดีอยู่ดีมาตลอดชีวิต หลังจากผ่านการเกิดใหม่ สองสามวันแรกลู่เจี้ยเองก็ได้ปฏิบัติต่อนางในเรื่องการกินการอยู่ได้ไม่เลวร้ายนัก เมื่อนางมาถึงถ้ำเก้าปีศาจ นางอาศัยอยู่ในเพิงมุงหญ้าเป็นเวลาเก้าวัน และดูเหมือนจะชินกับมันแล้ว และตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นบ้านหินที่ดีกว่ากระท่อมนางก็พอใจมากแล้ว
“ขาดความทะเยอทะยานเกินไปหรือเปล่า” เจียงหลีขมวกคิ้วไม่พอใจกับความ ‘มักน้อย’ ที่ตนมี
หลังจากเข้าในบ้านแล้วการตกแต่งภายในก็เรียบง่ายเช่นกัน เตียงไม้หนึ่งตัว โต๊ะสี่เหลี่ยมหนึ่งตัว ตะเกียงน้ำมันหนึ่งอันและมีเก้าอี้อีกสองตัว
เอ่อ มีอ่างอีกสองใบ และถังอุจจาระอีกหนึ่งใบ
นางมองออกไปนอกหน้าต่างบ้านหินที่สร้างติดกับภูเขา น่าจะเตรียมไว้สำหรับผู้อารักขาลับเช่นนาง
ตระกูลลู่มีผู้อารักขาลับกี่คนกันแน่ มีประกายแวววาวทั่วดวงตาของเจียงหลี เกรงว่าตัวเลขนี้คนที่รู้อาจมีไม่ถึงจำนวนนิ้วมือข้างเดียว
กองทัพของตระกูลลู่เป็นกองกำลังในด้านสว่าง ผู้คุมความมืดคือแกนกลางที่แท้จริงของตระกูลลู่อำนาจที่แท้จริงอยู่ตรงนี้
ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เจียงหลีปิดหน้าต่างเดินไปที่ประตูและถามว่า “ใคร”
“ข้าเอง” ด้านนอกประตูเป็นเสียงของเซียวเซียว
ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย เขาเปิดประตูมือกอดอกและมองไปที่คนที่เพิ่งได้รับการฟื้นฟูที่อยู่ด้านนอกประตู “ข้าคิดว่าเจ้าจะล้มเลิกสะแล้ว”
คำล้อเล่นของนาง เซียวเซียวสามารถแยกแยะได้ทันทีเมื่อได้ยิน
ถ้านางกลัวว่าเขาจะล้มเลิกจริงๆ คงจะไม่หาวิธีที่จะพบกับเขาแน่
เซียวเซียวผู้ซึ่งเข้าสู่การฝึกของผู้อารักขาลับอย่างเป็นทางการ สวมชุดฝึกสีดำและคาดเอวอย่างแน่นหนา บนร่างกายของเขาสวมด้วยชุดเกราะเหล็กและขาผูกด้วยแผ่นเหล็ก ดูหล่อกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ในเก้าวันความเขียวระหว่างคิ้วของเขาจางลงไปมาก แต่เขาก็มีอารมณ์ที่เฉียบคมเล็กน้อย
“ให้เจ้า” เซียวเซียวใส่หินวิญญาณที่สัญญาไว้ในถุงผ้าแล้วส่งให้เจียงหลี
เจียงหลียื่นมือออกไปรับอย่างไม่เกรงใจ ชั่งน้ำหนักแล้วยิ้มเหมือนดอกไม้บาน “ร่วมมือกันอย่างสันติ”
เพียงเพราะนางใช้วิธีในการเตะตัวเองก็ได้เป็นที่หนึ่ง หลังจากเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วค่าย เขาก็เกือบจะเป็นตัวตลกให้กับผู้คุมความมืดคนอื่นๆ
นางยังกล้าที่จะพูดว่าร่วมมือกันอย่างความสุขอีกหรือ หากรู้แต่แรกว่านางใช้วิธีดังกล่าว เขาก็ไม่ยอมร่วมมือกับนางแน่
“คำสัญญาที่ให้กับเจ้าข้าก็ได้ให้ไปแล้ว ข้าขอตัวไปก่อน” เซียวเซียวพูดจบอยากจะหันหลังและจากไปทันที
“เจ้ารอก่อน” เพียงเดินไปสองก้าวเขาก็ถูกเจียงหลีเรียกให้หยุด



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์