ในยามกลางคืน ในตำหนักหวงจี๋เงียบสงัด
ตั้งแค่คืนนั้นเป็นต้นมา พอตกดึก ฝ่าบาทก็รีบไล่คนที่คอยดูแลออกไป ไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
นิสัยที่แปลกประหลาดนี้ หลังจากที่คนในวังชินแล้ว ก็ค่อยๆ ปรับตัว ไม่ได้สงสัยอะไรอีก
คืนนี้ เขาจะมาไหม เจียงหลีนอนอยู่บนเตียง ห่มผ้าห่ม ในห้องบรรทม แสงไฟที่สั่นไหว นางไม่ง่วงนอนเลยสักนิด
นับๆ ดูแล้ว นางไม่ได้เจอลู่เจี้ยมาสองสามเดือนแล้ว คิดถึงเขาจังเลย
ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น อาการข้างเคียงของการที่หลอมรวมเข้ากับวิญญาณอีกดวงก็ทุเลาลง ทุกครั้งที่รู้สึกเจ็บปวด ก็ไม่ได้เจ็บปวดมากถึงขั้นที่จะทนไม่ไหวเหมือนตอนแรกๆ แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นางยังมีหยกที่ลู่เจี้ยให้ไว้
เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา นางยังคงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขา คิดถึงความรู้สึกที่ออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้ตามอำเภอใจ
ความรู้สึกที่มีคนให้พึ่งมันดีมากจริงๆ!
ทันใดนั้น ไฟในห้องบรรทมดวงหนึ่งก็ดับลง ขัดจังหวะความคิดของเจียงหลี
นางลุกขึ้นมาจากเตียง มองไปนอกผ้าม่าน
ข้างนอกผ้าม่าน ร่างสูงใหญ่ที่เลือนรางปรากฏขึ้นตอนไหนก็ไม่รู้ แต่กลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเลย
เขามาแล้ว! แววตาของเจียงหลีมีความดีใจ
ตอนนี้ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ในห้องบรรทม มีความกลัดกลุ้มเล็กน้อย เขาไม่ควรมา แล้วทำไมถึงมาที่นี่ แต่ว่า ในตอนที่เขาได้สติกลับมา ตัวเขาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
“…” ความยึดมั่น ต้องเป็นความยึดมั่นที่ทำแน่ๆ!
เขาหายใจเข้าลึกๆ กดความโกรธในใจลง ความยึดมั่นนี้ นับวันยิ่งสามารถควบคุมจิตใจเขาได้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาเลือกที่จะจำพรรษาเข้าฌาน เพื่อควบคุมอารมณ์ความรู้สึก เดิมคิดว่าจะสำเร็จ แต่ไม่คิดเลยว่าเพิ่งจะออกฌาน เขาก็ปรากฏตัวอยู่ที่นี่แล้ว
“ในเมื่อมาแล้ว ทำไมถึงไม่เข้าใกล้เสียหน่อย”
ในม่าน เสียงเชื้อเชิญของหญิงสาวดังขึ้น
“…” เข้าใกล้หรือ เหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร!
“ท่านกำลังกลัวรึ” ไม่เห็นเขาขยับ เจียงหลีก็หัวเราะขึ้นมาอย่างหยอกเย้า
ดวงตาที่แวววาวคู่นั้นหรี่ลง หัวเราะเยาะเย้ยอย่างไม่พอใจ “วิธียั่วอารมณ์ห่วยๆ”
เจียงหลีแบะปาก “ในเมื่อไม่อยากเข้าใกล้ เช่นนั้นก็ไปซะสิ!”
“…” สีหน้าของชายหนุ่มดูไม่ค่อยดี ปัญหาก็คือในใจเขามีเสียงที่บอกเขาตลอดว่าไม่อยากไป
“ในเมื่อไม่อยากไป ก็เข้ามาหาข้า ไม่ได้เจอตั้งนาน ข้าคิดถึงท่านแล้ว” เสียงของเจียงหลีดังขึ้นมาอีกครั้ง
ข้าคิดถึงท่าน…
สี่คำนี้ จู่ๆ ก็ทำให้ใจของเขาเต้น อารมณ์ที่ไม่เคยประสบมาก่อน เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“ลู่เจี้ย ข้าบาดเจ็บ” เสียงที่กล้ำกลืน ดังออกมาจากในม่าน
บาดเจ็บอย่างนั้นหรือ
ใครกล้าทำร้ายนาง!
ชั่วพริบตาในแววตาของเขาก็เผยจิตสังหารที่เย็นชาออกมา ลืมไปหมดแล้วว่าเขาเองก็เคยคิดอยากจะฆ่านางเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ฆ่าไม่ลง
ม่านนอกเตียงถูกยกเปิดออก ตัวคนเดินลงมาจากเตียง ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา
บนตัวนาง สวมใส่เพียงเสื้อบางๆ ภายใต้เสื้อนั้น กลับเห็นผ้าพันแผลที่พันเต็มตัวนางไปหมดอย่างรางๆ
“ลู่เจี้ย” เจียงหลียืนเท้าเปล่ามองเขาอยู่ข้างๆ เตียงด้วยความกล้ำกลืน
เขามองไปยังผ้าพันแผลบนตัวนาง จิตสังหารที่น่ากลัวในแววตาลึกๆ ของเขาจู่ๆ ก็หายไป
เจียงหลีไม่ทันสังเกตความเปลี่ยนแปลงบนตัวเขา เห็นเขาที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับด้วยสีหน้าเย็นชา ก็ถอนหายใจ แล้วพูดอย่างน้อยใจว่า “ไม่กี่วันก่อน พวกเราและประเทศซีเฉียนได้สู้รบกัน ด้วยฐานะกษัตริย์ แน่นอนว่าข้าต้องปกป้องประชาชนของข้า ศึกครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก พลังของข้าต่ำไป ถึงแม้จะรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ยังคงได้รับบาดเจ็บ”
บาดเจ็บหรือ เขายิ้มเยาะอยู่ในใจ ความดูถูกในสายตา เหมือนว่ากำลังหัวเราะเยาะเย้ยการแสดงที่
ห่วยแตกของนาง
บาดเจ็บ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะล่อลวงเขา นี่หรือคือท่าทางของคนบาดเจ็บ
เพียงแต่ว่า


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์