“ทุกครั้งก็รู้จักแต่หลบหนี”
เจียงหลีลุกขึ้นจากเตียง มองไปยังที่ๆ ใครบางคนได้หายตัวไปและพึมพำด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง
“การควบคุมตนของข้าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมันทำให้ข้ารู้สึกเหมือนเป็นราชินีเจ้าสำราญที่ถูกความงามครอบงำทุกครั้งไป” เจียงหลีกัดฟันด้วยความรู้สึกปั่นป่วนในใจ
เห็นได้ชัดว่านางก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขาด้วยเช่นกัน!
ช่างเถอะๆ ค่อยเป็นค่อยไป เรื่องนี้ไม่รีบร้อน แต่สิ่งที่ท่านทำให้ข้ารู้สึกเสียพลังงานในวันนี้ ข้าจะค่อยๆ เอาคืนในวันหน้าเอง เจียงหลียกมือขึ้นปัดเส้นผมที่ร่วงหล่นลงมา ดวงตามีเสน่ห์และเต็มไปด้วยความรักใคร่
ตอนนี้นางเป็นฝ่ายเริ่มและเขาไม่ต้องการมัน ถ้าเช่นนั้นก็รอจนกว่าเขาจะคิดได้ แล้วค่อยดูอารมณ์ของนางก็แล้วกัน
“อวี้ซู” เจียงหลีเลิกม่านออกและเดินลงมาจากเตียง
ประตูใหญ่ของตําหนักที่ปิดสนิทถูกเปิดออกทันที อวี้ซูเดินนำเข้ามาและมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว
อาหารที่เตรียมไว้แทบจะไม่ถูกแตะและฝ่าบาทก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่ว่า…
แล้วหรงอวี้ล่ะ
อวี้ซูมองไปที่เจียงหลีด้วยความสงสัยแต่นางไม่ได้คิดจะอธิบายอะไร
“เอานี่ไป” เจียงหลีโบกมือ ระเบิดควันสีม่วงที่ร่วงหล่นลงบนพื้นลอยขึ้นสู่มือของอวี้ซู
อวี้ซูรับมันไว้และรอคําสั่งจากเจียงหลี
“ได้เวลาแล้ว ดึงระเบิดควันสีม่วงให้ดัง รายงานไปให้คนในตระกูลหรง” เจียงหลีกล่าว
“เพคะ ฝ่าบาท” อวี้ซูพยักหน้า
เจียงหลีถามต่อว่า “สิ่งที่ควรจัดประดับตกแต่งแล้วเสร็จหรือยัง”
อวี้ซูพยักหน้า “ทุกอย่างถูกจัดตามคําสั่งที่พระองค์ได้รับสั่งแล้ว” พูดไปนางก็แค่นเสียงเย็นชาอย่างเหยียดหยาม “ตระกูลหรงผู้น่าขันผู้นั้นคิดว่าตนเองควบคุมทุกอย่างไว้ก่อน หารู้ไม่ว่าทหารเฝ้าวังที่พวกเขาคิดว่าได้เป็นพวกแล้วล้วนเป็นคําสั่งของฝ่าบาท”
“อืม ในคราวนี้พวกเรามาจับลูกไก่ในมือดีกว่า เมื่อคนของตระกูลหรงตกหลุมพราง ตระกูลขุนนางที่มีความสัมพันธ์กับตระกูลหรง ขุนนางชั้นสูงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็จับตัวไปพร้อมกันให้หมด” เจียงหลีกล่าวจบ ดวงตาที่สว่างไสวของนางก็ส่องแสงประกาย
“เพคะ!” อวี้ซูตอบ
แต่นางยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ฝ่าบาท เช่นนั้นคุณชายจิ่งผู้นั้นหละเพคะ”
“เขาหรือ” เจียงหลีหรี่ตาลงแล้วยิ้มที่คาดเดาได้ยากนัก “ในเมื่อเขาถูกตระกูลหรงกักบริเวณไว้เช่นนั้นก็ยังไม่ต้องทําให้เขาตกใจ”
“เพคะ” หลังจากอวี้ซูได้รับคําสั่งแล้วก็ออกจากตําหนักไป
รอนางจากไป แววตาของเจียงหลีก็ฉายแววครุ่นคิด หรงจิ่งนะหรงจิ่ง เจ้าจะเดินตามกลที่ลู่เจี้ยวางไว้จริงๆ หรือ
ในความเป็นจริงเจียงหลีรู้สึกขัดแย้งในใจเล็กน้อย
อีกด้านหนึ่ง หากหรงจิ่งทำตามแผนการของลู่เจี้ยต่อไป นางเองก็มีความรู้สึกผิด แต่ในทางกลับกัน อย่างที่ลู่เจี้ยกล่าว เขาเพียงให้หรงจิ่งมีทางเลือก หรงจิ่งจะเป็นคนเลือกเองทุกอย่าง
ในจวนตระกูลหรง คืนนี้เงียบสงัดกว่าปกติ ราวกับว่าทุกคนไม่ได้อยู่ในจวน
สิ่งเดียวที่ไม่สะทกสะท้าน ก็คือลานบ้านที่หรงจิ่งอาศัยอยู่
อาเฉวียนยังคงปกป้องเคียงข้างเขาอย่างซื่อสัตย์และรายงานด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณชาย คืนนี้พวกเขาจะลงมือแล้ว ท่านว่า พวกเขาจะสําเร็จหรือไม่”
“ไม่หรอก” หรงจิ่งกล่าวโดยไม่ลังเล
มุมปากของอาเฉวียนโค้งขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมองหรงจิ่งที่กําลังจัดวางดอกไม้อยู่ พลางคิดในใจ ในเมื่อท่านรู้ว่าจะไม่สำเร็จแล้ว แต่ท่านกลับไม่ห้ามหรือ พวกเขาเป็นญาติที่เกี่ยวข้องกันทางสายโลหิตของท่านเชียวนะ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์