บ้าอย่างนั้นหรือ
รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นที่มุมปากของเจียงหลี นางกลับรู้สึกว่าตอนนี้ไป๋เซี่ยงเลี่ยมีสติตื่นรู้ยิ่งกว่าที่เคยมีเสียอีก
การฆ่าล้างตระกูลเช่นนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ใจสลาย แต่เขากลับสามารถหาทางออกที่ดีที่สุดภายในช่วงฉุกละหุก เขาฆ่าปิดปากทุกคนแล้วโยนความผิดทุกอย่างมาให้นาง ส่วนเขาจะอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้ซะ
แม้จะหนีไปได้คนสองคนแต่ก็ต้องมาเจอเขาไล่ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่ได้อยากฆ่าคนในตระกูลแต่เขาอยากฆ่านาง ต่อให้คนในตระกูลเหล่านั้นไม่พอใจแล้วจะถือสาคนบ้าได้อย่างไร
แน่นอนว่าอย่างหลังเป็นเพียงแผนการที่เลวร้ายที่สุด
สิ่งที่ไป๋เซี่ยงเลี่ยทำคืออย่างแรกที่กล่าวมา คือฆ่าทุกคนเพื่อลบเลือนข้อผิดพลาดทั้งหมด
แปะๆๆ!
เมื่อคนในตระกูลไป๋เซี่ยงคนสุดท้ายล้มจมกองเลือด เจียงหลีก็ปรบมือด้วยท่าทางเกียจคร้าน สายตายียวนและเย็นชาของนางมองไป๋เซี่ยงเลี่ยที่เหมือนคนบ้าจริงๆ
ไป๋เซี่ยงเลี่ยที่ฆ่าทุกคนตายหมดแล้ว ยามนี้ดูเหมือนเขาจะสงบสติอารมณ์ได้ เมื่อเขาได้ยินเสียงปรบมือก็ค่อยๆ หันร่างกลับมา ใบหน้าอาบเลือด ดวงตาที่ดำดิ่งสงบและน่ากลัวจ้องไปที่เจียงหลีเขม็ง
“ละครฉากนี้ที่เลี่ยฉางเหล่ากำกับเองและแสดงบทบาทเองช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ” เจียงหลีเอ่ยยกย่องเขา ไม่ต้องเปลืองแรงนาง ไป๋เซี่ยงเลี่ยก็ฆ่าทุกคนตายหมดมันช่วยนางได้หลายเรื่องเลยทีเดียว
ตอนนี้ขอเพียงฆ่าเลี่ยฉางเหล่าให้ตายก็ได้แล้วใช่ไหม
เขาต้องการโยนให้นางเป็นแพะรับบาปที่ฆ่าทุกคนก็นับว่าไม่ใช่การใส่ร้าย เพราะเจียงหลีเองก็คิดจะทำเช่นนี้เหมือนกัน
ล้อเล่นรึ สุภาพชนอย่างไป๋เซี่ยงเลี่ยบีบบังคับโลภเอาสมบัติของนางจนต้องการจะฆ่านาง นางต้องแสร้งทำเป็นแม่พระใจกว้างมีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่งอย่างนั้นหรือ
“ฆ่าเจ้า…ฆ่าเจ้า…ข้าจะฆ่าเจ้า”
ราวกับไป๋เซี่ยเลี่ยไม่ได้ยินในสิ่งที่นางพูด ปากท่องคำนั้นซ้ำไปมาไม่หยุด
เจียงหลีได้ยินคำที่เขาท่องก็ยกมือเอานิ้วอุดหูตัวเองก่อนจะเอ่ยขำ “ที่นี่นอกจากข้ากับเจ้าก็ไม่มีคนอื่นแล้ว เลิกเล่นละครสักทีได้ไหม”
“ฆ่าเจ้า…ข้าจะฆ่าเจ้า…”
เจียงหลีเอามือลงแล้วมองเขาด้วยสายตาซุกซน “คนที่เป็นบ้ายังสามารถตัดสินใจชัดเจนได้หรือ กำจัดสาวกสองสามคนที่คุกคามคุณตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ ไม่ต่อกรกับพวกเขาทั้งยังกำจัดฐานการฝึกบำเพ็ญของพวกเขาอย่างชาญฉลาดอีกด้วยเพราะเกรงว่าจะทำให้แผนการสังหารของเจ้าเป็นไปอย่างยากลำบากใช่หรือไม่ ถึงอย่างไรสถานการณ์ก็โกลาหลอยู่แล้ว สำหรับเจ้ามันกลับยิ่งเป็นประโยชน์ ในฐานะที่เป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูลไป๋เซี่ยง เจ้าอยากฆ่าปิดปากมันอาจจะจัดการได้ง่ายกว่าข้าเยอะเลย”
ประโยคนี้ทำให้ไป๋เซี่ยงเลี่ยเลิกเสแสร้งสักที
ในที่สุดเขาก็ไม่ท่องคำนั้นแล้วสงบนิ่งจ้องนางเขม็ง
เจียงหลีหัวเราะออกมา “ไม่พูดไม่ได้ว่า เจ้าก็เป็นบุคคลเพื่อล้างบาปจากการฆ่าเผ่าพันธุ์ตัวเอง คิดไม่ถึงว่าจะลงมือได้โหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ ก็เลย…”
จู่ๆ นางก็หยุดและไม่ได้เอ่ยประโยคหลังออกมา
ไป๋เซี่ยงเลี่ยรออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่เห็นนางพูดอะไรต่อจึงเอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้งไม่น่าฟัง “แล้วก็อะไร”
“อ๋อ ไม่เล่นละครต่อแล้วหรือ” แววตาเจียงหลีเป็นประกายวูบไหว ยิ้มตาหยีสบตาเขา
“เหอะ!” ไป๋เซี่ยงเลี่ยสบถเสียงเย็น
เจียงหลียังคงยิ้มให้ ความลุ่มหลงที่ออกมาจากกระดูกทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตา “มันเป็นแค่การขาดความรับผิดชอบ”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์