พึ่งจะไม่กี่ปีเองมิใช่หรือ
ตอนนั้นนางยังเป็นเพียงหลิงซื่อขั้นสูงสุด หลังจากหลอมรวมกับเต่าเสวียนกังถึงได้กลายมาเป็นหลิงเจี้ยง เวลาไม่กี่ปีเดิมทีนางคิดว่าคงเป็นได้มากสุดแค่หลิงเจี้ยงขั้นสูง แต่ทว่าตอนนี้
อันที่จริง ถือเป็นการตบหน้าไป๋เซี่ยงเลี่ยอย่างแรงจริงๆ
เขามองเจียงหลีที่พลังเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่อย่างตกตะลึง คำอธิบายที่ไม่น่าเชื่อไม่สามารถแสดงความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้อย่างถูกต้องอีกต่อไป
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้!” ไป๋เซี่ยงเลี่ยคิดว่าตัวเองตาฝาดแน่ๆ หรือไม่ก็เป็นเพราะหญิงสาวตรงหน้าใช้เวทย์มนต์ลี้ลับขั้นสูงอะไรแน่ๆ
เขาไม่สามารถพูดคำนั้นออกมาได้เลยราวกับหนามยอกอก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ปฏิกิริยาของเขาอยู่ในสายตาของเจียงหลี นางหัวเราะขึ้นมา “ถุ๊ยๆ ไม่กล้ายอมรับขนาดนั้นเชียวหรือ”
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด” ไป๋เซี่ยงเลี่ยส่ายหน้าอย่างแรง แค่เวลาไม่กี่ปี นางไต่ไปจนถึงระดับสูงเยี่ยงนี้ได้ นี่มันคือความเร็วในฝึกฝนแบบไหนกันแน่
เป็นไปไม่ได้! จะมีวิชามารในการฝึกฝนเช่นนี้ได้อย่างไร
“เป็นไปไม่ได้หรือ” เจียงหลีล้อเลียนคำพูดของเขา ใช่ เป็นไปไม่ได้ จะสามารถกระโดดข้ามช่องว่างระหว่างหลิงเจี้ยงและหลิงไซว่ในระยะเวลาอันสั้นไม่กี่ปีได้อย่างไร
แม้กระทั่งเจียงเฮ่าที่ร่างกายสมบูรณ์มาตั้งแต่กำเนิด ความสามารถแบบนี้ซึ่งสามารถเลื่อนระดับได้โดยไม่มีอุปสรรคยังเข้าสู่อาณาเขตหลิงไซว่ช้ากว่าเจียงหลี
สิ่งที่เปลี่ยนความเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ มีเพียงเพราะเจียงหลีสามารถควบคุมสิ่งวิเศษที่ท้าทายสวรรค์ได้อย่าง…เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ!
ในสายตาคนนอกคงเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่สำหรับนางแล้วมันช่างยาวนานเหลือเกิน
แน่นอนว่าเหตุผลเหล่านั้น เจียงหลีจะไม่อธิบายให้ไป๋เซี่ยงเลี่ยฟัง นางคอยดูท่าทางตกตะลึงของไป๋เซี่ยงเลี่ย แม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้มแต่แววตากลับค่อยๆ เย็นชาลง
“ไป๋เซี่ยงเลี่ย เจ้าคิดหรือไม่ว่าแผนการของเจ้าก่อนหน้านี้มันสูญเปล่า” เจียงหลีก้าวไปข้างหน้า นางยิ้มยั่วยวนและเย่อหยิ่ง
ราวกับร่างของไป๋เซี่ยงเลี่ยตกลงไปในน้ำแข็งก็มิปาน หญิงสาวก้าวเข้ามาทำให้เขารู้สึกถูกควบคุมอยู่กับที่ไม่สามารถขยับกายไปไหนได้
ใบหน้าของเขาซีดเผือดอย่างน่าสงสาร ดวงตาแดงก่ำนั้นชัดเจนมากขึ้นและดวงตาเบิกโพลงจนแทบถลนออกมา
เขากลัวขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัวจึงทำให้เจียงหลียิ้มกว้างมากขึ้น นางขยับเข้าไปอีกก้าว แรงกดดันจากหลิงไซว่าทาบทับไปยังร่างของไป๋เซี่ยงเลี่ย
ตู้ม!
ไป๋เซี่ยงเลี่ยรู้สึกเหมือนขาตัวเองโดนถ่วงด้วยโคลนตะกั่วหนัก แม้กระทั้งร่างกายก็จมดิ่งใต้พื้นไปหนึ่งส่วน
“เจ้า”
ความกลัวแผ่ซ่านในใจ ไป๋เซี่ยงเลี่ยรู้สึกสิ้นหวัง เขาอยากพูดอะไรออกมาแต่กลับพูดไม่ออก การฝึกบำเพ็ญของเขาในอาณาเขตหลิงอู่ต่อสู้จนเสียหายไม่เหมือนเมื่อก่อน ช่วงที่เขาอยู่จุดสูงสุด เขาคิดว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา นับประสาอะไรกับตอนนี้
ภายใต้การกดดันของนาง เขาไม่สามารถแม้แต่จะยกมือขึ้น
พลังวิญญาณในร่างกายกลายเป็นแข็งกระด้าง ไม่สามารถเคลื่อนไหวหมุนเวียนได้
“บอกข้ามา ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นในอาณาเขตหลิงอู่” จู่ๆ เจียงหลีก็เอ่ยถามขึ้น แน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาหลังจากนางหลอมรวมกับเต่าเสวียนกังแล้วและขาดการรับรู้จากโลกภายนอกว่าเกิดอะไรขึ้น
นางอยู่ในอาณาเขตหลิงอู่นานขนาดนั้นยังไม่เคยเจอลู่เจี้ยเลย ที่ไป๋เซี่ยงเลี่ยเอ่ยถึงเนี่ยนจงอาจจะเป็นลู่เจี้ย แล้วสิ่งใดบีบคั้นให้เขาปรากฏตัวออกมา
อันที่จริงไม่ต้องรอให้ไป๋เซี่ยงเลี่ยเล่าออกมา เจียงหลีก็พอจะคาดเดาได้ นางในตอนนั้น ต้องเป็นสถานการณ์คับขันแน่นอน ลู่เจี้ยถึงได้ปรากฏตัวแล้วสังหารพวกนั้นจนสิ้นซาก
แต่ทว่า คาดเดาก็คือคาดเดา นางยังคงอยากรู้อยู่ดีว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยล่ะ” ไป๋เซี่ยงเลี่ยพูดจาขวานผ่าซาก


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์