ไฟค่อยๆ ลุกลามปราสาททีละน้อย
ไฟไหม้ครั้งใหญ่ของตระกูลไป๋เซี่ยงลุกโชนหลายชั่วโมง แม้แต่ในวังก็ยังตื่นตระหนก เป่ยเหมิน
เวยลุกขึ้นสวมเสื้อผ้ายืนอยู่นอกพระราชวังมองไปที่แสงสีแดงในที่ห่างไกล
ไฟไหม้ครั้งนี้มีที่มาแปลกประหลาดยิ่งนัก แววตาของเป่ยเหมินเวยดำดิ่ง “ถ่ายทอดคำสั่ง ให้เฉิงหวังดูสถานการณ์ที่ตระกูลไป๋เซี่ยง แล้วไปตามคุณชายจิ่งให้มาเข้าเฝ้าข้า”
เจียงหลียืนมองเงียบๆ อยู่ด้านนอกปราสาทตระกูลไป๋เซี่ยง แสงจากท้องฟ้าส่องกระทบใบหน้าเล็กที่แปลกไปของนางจึงทำให้เงาดำเปลี่ยนไปในความมืด
ยิ่งทำให้ตระกูลไป๋เซี่ยงวุ่นวายมากเท่าไหร่รอยยิ้มนางก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเท่านั้น
ทำลายล้างตระกูลไป๋เซี่ยงอย่างนั้นหรือ
ไม่ๆๆ นางเป็นคนอำมหิตขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่!
เงายืนอยู่ข้างๆ แล้วมองไปที่นาง แววตาแสดงออกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน ตอนแรกที่เจียงหลีพาเขามาที่นี่ เขาคิดว่านางจะเข้าไปฆ่าคนข้างในนั้นให้สิ้นซาก แต่กลับไม่คิดว่านางจะมาเพื่อลอบวางเพลิง
นางมองเห็นถึงความสงสัยในแววตาเขาชัดเจน ดังนั้นนางจึงอธิบายให้นางฟัง “เจ้าแน่ใจแค่ไหนว่าเราสองคนสามารถทำลายล้างตระกูลได้”
คำตอบของเขาคือ “สามส่วน”
เงายังจำรอยยิ้มของหญิงสาวในตอนนั้นได้เสมอ “ใช่แล้ว แม้ตอนนี้ยังไม่มั่นใจแน่นอน แล้วทำไมข้าจะต้องเปิดเผยตัวตนด้วย ตอนนี้พวกเขาคิดว่าข้าหนีไปที่อื่นแล้วมิใช่หรือ ใครจะไปรู้ว่าข้าจะกลับมาวางเพลิงทำให้บ้านที่บรรพบุรุษสืบทอดมาไม่รู้กี่ปีหายไปสักหลัง เสียงตบมือครั้งนี้คงดังมากพอให้ตระกูลไป๋เซี่ยงอับอายขายขี้หน้า”
ใช่สิ!
ตระกูลยิ่งใหญ่ที่สุดในเป่ยโหรว คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนวางเพลิงจนบ้านมรดกสืบทอดเสียหายทั้งหลังเพียงชั่วข้ามคืน
เรื่องนี้ปิดเป็นความลับไม่ได้อีกต่อไป แล้วจะกลายเป็นเพียงเรื่องขบขันในสายตาระชาชีในเป่ยโหรว
แสงไฟสะท้อนในดวงตาของเงา เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้มที่หาดูยาก
“เงา” ทันใดนั้นเจียงหลีที่ชื่นชมความพินาศโกลาหลของตระกูลไป๋เซี่ยงก็ตะโกนเรียก
เงาหันมามองนาง จู่ๆ เงาดำก็พุ่งออกมาจากมือนาง เขายกมือขึ้นรับโลหะแข็งเย็นเฉียบทำให้เขาเห็นป้ายคำสั่งในมืออย่างชัดเจน
“ตราประจำตัวของเป่ยโหรวองครักษ์เงา” เงามองแค่ปราดเดียวก็รู้ถึงที่มาของตราประจำตัวแล้ว
แต่เจียงหลีไปได้มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เจียงหลีเห็นว่าเขากำลังสงสัยแต่กลับไม่อธิบาย เพราะหรงจิ่งมอบให้นางหลังจากเจอกันครั้งก่อน
บางทีมันอาจเป็นเพียงแค่ให้นางเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกละหุก
เมื่อมีตราประจำตัวอันนี้ก็จะสามารถท่องดินแดนเป่ยโหรวได้อย่างอิสระทุกที่ทุกเวลา
แต่ทว่าเจียงหลียังไม่เคยได้ใช้มันสักที
ตอนนี้หลังจากวางเพลิงแล้วนางก็โล่งใจขึ้นบ้าง แต่กลับคิดถึงว่าตราประจำตัวใช้อย่างไร “เจ้ากลับไปอีกรอบ เอาตราประจำตัวนี่ทิ้งไว้ที่บ้านตระกูลไป๋เซี่ยง”
เงาหรี่ตาเล็กน้อย เขาเข้าใจถึงแผนการของนาง
เขาไม่ถามอะไรมาก จากนั้นเก็บตราประจำตัวแล้วถอยกลับไปในความมืดเงียบๆ
รอจนเขาหายไปนางถึงได้พึมพำออกมา “บีบให้ข้าต้องเดือดร้อนขนาดนี้ ข้าจะก่อเรื่องดีๆ ตามพวกเจ้าก็แล้วกัน ไม่ต้องขอบใจ ข้าก็แค่ฉวยโอกาสเท่านั้น”
ปราสาทกลายเป็นทะเลเพลิง ต่อให้ดับเพลิงก็ไม่สามารถหยุดไฟที่โหมกระหน่ำได้
เมื่อเห็นบ้านและตัวอาตารถล่มลงมา สมบัติล้ำค่าจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลายลงในกองเพลิง ประมุขตระกูลไป๋เซี่ยงคงกระอักเลือด
ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและเขาก็ตะโกนออกมาโดยไร้เสียง “จ้านจี้กว่าน!”
เมื่อได้ยินเสียงเตือนของเขา ทุกคนก็ได้สติกลับมา พวกเข้าถูกไฟลุกโชนดึงดูดความสนใจไปแต่กลับลืมคุ้มกันห้องทักษะการต่อสู้อย่างจ้านจี้กว่านที่ต้องรักษาเอาไว้อย่างถึงที่สุดของตระกูล
จ้านจี้กว่าน!
หากที่นั่นโดนเผาไหม้ ตระกูลไป๋เซี่ยงของพวกเขาคงเปลี่ยนสถานะจากสูงสุดคืนสู่สามัญภายในชั่วข้ามคืน
“ท่านประมุข ที่นั่นมีท่านผู้อาวุโสออกนั่งสั่งการอยู่ น่าจะไม่เป็นอะไรกระมังขอรับ”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์