ถามว่ามีพี่สะใภ้ที่เผด็จการ แล้วรู้สึกอย่างไร
คำตอบของลู่เสวียนคือ จะบ้าตาย!
ภายใต้สายตาที่จ้องเขม็งของเจียงหลี เขาไปหาฮ่องเต้แห่งเป่ยโหรวด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เพื่อแสดง ‘ความรักใคร่ชื่นชอบ’ ที่มีต่อเหวินเหรินชิ่งชิ่งด้วยตัวเอง และปรารถนาจะแต่งงานกับนาง
สำหรับเรื่องนี้ เป่ยเหมินเวยกลับไม่ได้แปลกใจอะไร ถึงอย่างไรในองค์หญิงทั้งสามพระองค์ ก็มีแต่เหวินเหรินชิ่งชิ่งที่ใกล้ชิดกับลู่เสวียนมากที่สุด ส่วนอีกสองพระองค์ ลู่เสวียนแทบไม่เคยเห็นพวกนางเลย
ด้วยความที่ลู่เสวียนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเอง ก็เป็นธรรมดาที่เป่ยเหมินเวยต้องดีใจ แต่ว่าเขาพูดมาประโยคหนึ่ง ต้องถามความเห็นของเหวินเหรินชิ่งชิ่ง
ในตอนที่เรื่องรู้ไปถึงตำหนักของเหวินเหรินชิ่งชิ่ง นางรู้สึกสับสน แต่สุดท้ายก็แสดงท่าทีตอบรับการแต่งงานในครั้งนี้
“ฮ่าๆๆ ลูกเขย เจ้าจะต้องภูมิใจกับการตัดสินใจของเจ้าในวันนี้” ทันใดนั้นเป่ยเหมินเวยก็อารมณ์ดีขึ้นมาก
“เหอะๆ” ลู่เสวียนยิ้มแห้ง
เป่ยเหมินเวยหุบยิ้ม แล้วตบไหล่เขาอย่างแรง พูดกำชับว่า “ดูแลชิ่งชิ่งให้ดี ถ้าทำให้นางอึดอัดใจ ข้าไม่มีทางยกโทษให้เจ้าแน่”
“…” ลู่เสวียนเงยหน้ามองเขา ขณะนั้นไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร
ไม่ว่าที่ผ่านมาฮ่องเต้แห่งเป่ยโหรวจะเคยทำอะไรไว้ แล้วก็ไม่ว่าตอนนี้เขาจะวางแผนอะไรไว้ อย่างน้อยความรู้สึกที่เขามีให้เหวินเหรินชิ่งชิ่งก็เป็นของจริง
“ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ภายใต้การจ้องมองของเขา ลู่เสวียนพยักหน้า
“ดี! ข้าเชื่อเจ้า” เป่ยเหมินเวยยิ้ม แต่เขาเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วถามขึ้นมาอีกว่า “หลังจากกลับไปแล้ว เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร”
มาแล้ว!
ลู่เสวียนกะพริบตา แล้วทำท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน “ฝ่าบาทได้โปรดชี้แนะ”
แววตาที่ชั่วร้ายของเป่ยเหมินเวยเปล่งประกาย แล้วพูดกับลู่เสวียนว่า “หลังจากกลับไปแล้ว เจ้าก็ต้องยังแกล้งทำเป็นจงรักภักดีต่อจักรพรรดินี ทำให้นางเชื่อใจเจ้า แล้วแอบติดต่อกับคนเก่าแก่ของตระกูลลู่ ข้าคิดว่าส่วนมากพวกเขาคงไม่ยอมลดเกียรติอยู่ใต้เท้าของผู้หญิง เจ้าคือเลือดเนื้อของตระกูลลู่ พวกเขายิ่งต้องยอมสนับสนุนเจ้า”
“หลังจากนั้นล่ะ” ลู่เสวียนถามด้วย ‘ความใสซื่อ’
“งานแต่งงานของเจ้ากับชิ่งชิ่งถือเป็นข้ออ้างที่ไม่เลว ในคนที่ส่งเจ้าสาว ข้าจะส่งคนที่พิเศษหน่อยไปช่วยเจ้า”
หึ สายสืบอย่างนั้นหรือ
ลู่เสวียนยิ้มเยาะในใจ แต่กลับยังทำท่าทางฮึกเหิม
เป่ยเหมินเวยเห็นสีหน้าของเขา พอใจเป็นอย่างมาก “เจ้าทำแบบนี้ไปก่อน หลังจากรอโอกาสที่เหมาะสม เจ้าก็จะชิงบัลลังก์ของนางมาได้ ข้าจะส่งกองทัพใหญ่จากทางนี้ไปช่วยเจ้า ไม่ว่านางจะทำอย่างไร ก็ไม่มีทางทำอะไรได้”
“ขอรับ ข้าทราบแล้ว หลังจากที่ทำสำเร็จ ฝ่าบาทอย่าลืมสัญญาที่ว่าจะให้ของแก่ข้า” ลู่เสวียนเผยสีหน้า ‘โลภ’ ออกมา
“วางใจได้” เป่ยเหมินเวยยิ้มเพื่อปลอบโยน
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้” ลู่เสวียนลุกขึ้นยืน แล้วพูดกับเป่ยเหมินเวยว่า “อีกไม่กี่วัน ข้าก็จะเดินทางกลับแล้ว อยู่นานไป ข้ากลัวว่านางจะสงสัย”
“อืม ไม่เลว” เป่ยเหมินเวยไม่ได้คิดอะไรมาก พยักหน้าตอบรับ
“ส่วนนางกำนัลของข้าที่ถูกตระกูลไป๋เซี่ยงข่มขู่จนไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร หวังว่านางจะกลับแคว้นไปอย่างปลอดภัย ถ้าหากยังอยู่ในเป่ยโหรว ฝ่าบาทได้โปรดแอบช่วยข้าสืบด้วย แล้วช่วยชีวิตนางไว้” ลู่เสวียนขอร้องด้วยความจริงใจ
“ได้” เป่ยเหมินเวยตอบตกลงอย่างง่ายดาย
ลู่เสวียนจากไปอย่างพึงพอใจ หลังจากรอให้เขาจากไป เป่ยเหมินเจวี๋ยเดินออกมาจากข้างหลัง แล้วยืนอยู่ข้างหลังเป่ยเหมินเวย
“เสด็จพี่ เชื่อเขาได้จริงๆ หรือ” เป่ยเหมินเจวี๋ยถาม



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์