ครั้งก่อนนางพูดถึงเรื่องในอีกสามร้อยปีข้างหน้าว่าจะเกิดภัยพิบัติที่ทำให้โลกดับสูญ
เจียงหลีก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ว่าถ้าหากสงครามสิ้นโลกครั้งนี้เกี่ยวโยงกับความเป็นความตายของทุกคนจริงๆ เช่นนั้นนางก็จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป
“ขอเพียงเจ้าจำไว้ว่าเจ้าต้องรีบฝึกฝน พยายามกลับไปให้ได้ภายในสามร้อยปีนี้ แล้วยับยั้งเรื่องราวทั้งหมดก่อนที่จะเกิดขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา” วิญญาณได้กล่าวขึ้นอีกครั้ง
“…” เจียงหลีไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อจากนั้น
จะหลอกให้นางทุ่มสุดตัวด้วยคำพูดแค่นี้น่ะหรือ
กลับไป กลับไปไหนเอ่ย
แล้วก็ลู่เจี้ยเคยพูดไว้ว่าวิญญาณอีกดวงคือวิญญาณจักรพรรดิที่อยู่ระดับเดียวกับเขา
“เจ้าเป็นใครกันแน่” เจียงหลีถาม
“ข้ารึ” วิญญาณอีกดวงยิ้มให้เล็กน้อย “บนโลกนี้ไม่มีข้า เจ้าก็คือข้า ข้าก็คือเจ้า”
“…” เจียงหลีกัดฟันแล้วพูดว่า “พูดให้เป็นภาษาคนหน่อยได้หรือไม่”
“ไม่ได้” วิญญาณอีกดวงปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
“…” ทันใดนั้นเจียงหลีก็กรีดร้องอยู่ในใจ
“เรื่องบางเรื่อง เจ้ารู้เร็วเกินไป ก็ไม่เป็นผลดีกับเจ้า ค่อยๆ เข้าใจเรื่องทั้งหมดตามขั้นพลังที่สูงขึ้นของเจ้าจะดีกว่า” วิญญาณอีกดวงพูดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
“เช่นนั้นเจ้ามาปรากฏตัวด้วยเหตุใด ก็เพื่อเตือนข้าว่าในอีกสามร้อยปีข้างหน้าจะเกิดวันสิ้นโลกอย่างนั้นหรือ” เจียงหลีพูดอย่างไม่เห็นด้วย “ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเจ้าก็ต้องบอกข้าว่าในอีกสามร้อยปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ทั้งหมดนี้ล้วนแต่อยู่ในความทรงจำที่เจ้ายังไม่มีความสามารถในการเปิดออมาก รอให้เจ้าสามารถเปิดความทรงจำได้เสียก่อนเรื่องราวทั้งหมดเจ้าจะรู้ด้วยตัวเอง” วิญญาณอีกดวงพูด
เจียงหลีเงียบไป
พูดไปพูดมาก็ยังโทษที่นางยังเด็กและอ่อนแออยู่อย่างทุกวันนี้ถูกไหม
“ที่ข้ามา ไม่เพียงเพื่อควบคุมการก้าวหน้าในการฝึกฝนของเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่เตือนเจ้าเรื่องอันตรายในอีกสามร้อยปีข้างหน้าอย่างเดียวเท้านั้นแต่มีอีกอย่างก็คือเจ้าต้องตามหาคนๆ หนึ่งให้เจอภายในสามร้อยปีนี้”
“ตามหาคนหรือ ใครกันเล่า”
เจียงหลีแววตาเปล่งประกาย
แต่ทว่าจู่ๆ วิญญาณอีกกดวงก็หยุดลง ภาพเหตุการณ์ก็ปรากฏขึ้นอยู่ข้างหลังร่างมายาของนาง ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นล้วนแต่เป็นภาพเหตุการณ์ของสงคราม นางเคยเห็นมาก่อนตอนที่นางบรรลุขั้นหลิงไซว่
เมื่อดูอีกครั้งในใจของนางก็ยังคงสั่นสะเทือนอยู่ สงครามระดับมหากาฬเยี่ยงนั้นเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้น เหมือนว่าภายใต้สงครามครั้งใหญ่นั้นผู้คนทั้งโลกล้วนต้องตกอยู่ในความลำบากทุกข์ยาก
“สงครามครั้งนั้น ถ้าหากฝั่งของพวกเรายังมีเหลืออยู่คนหนึ่ง ชัยชนะก็คือของพวกเรา แต่ว่าคนๆ นั้นกลับหายไปแล้ว หายไปอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาไม่เจอ ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องหาเขาให้เจอก่อน”
“แล้วเขาผู้นั้นคือใคร” เจียงหลีถามอย่างเร่งเร้า
“คือ”
แต่ทว่ายังไม่ได้พูดคำตอบที่นางต้องการออกมา วิญญาณอีกดวงก็หายไปพร้อมกับภาพเหตุการณ์นั้นแล้วนางก็ถูกผลักออกมาจากห่วงแห่งความมืดมิดนั้นเช่นกัน
“ให้ตายสิ! อีกแค่นิดเดียวเอง!” เจียงหลีลืมตาในแววตาสะท้อนความดุดันออกมามือข้างหนึ่งทุบลงบนเตียง
จะบอกว่าไม่เสียดายก็คงไม่ได้
วิญญาณอีกดวงนั้นไม่ถูกเจียงหลีควบคุมอีกแล้ว ทุกครั้งที่ปรากฏตัวก็จะทิ้งคำพูดที่เหมือนจะถูกก็ถูกเหมือนจะผิดก็ผิดไว้
“เดิมทียังอยากจะถามให้รู้เรื่องแล้วค่อยบอกลู่เจี้ยรับทราบ แต่ดูแล้วตอนนี้เพียงชั่วเวลาเดี๋ยวเดียวยังถามไม่รู้เรื่องเลย” เจียงหลีพูดเบาๆ กับตัวเอง
ฝึกฝน! ฝึกฝน!
เจียงหลีหายใจเข้าลึกๆ ทำจิตใจที่ร้อนรุ่มให้สงบลง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์