ไม่นึกเลยว่าจักรพรรดินีแห่งจยาเซียนก็คือทาสสาวธรรมดาๆ คนนั้นที่อยู่ข้างกายลู่เสวียนและก็คือคนที่ตระกูลไป๋เซี่ยงพลิกแผ่นดินตามหากันให้วุ่นไปหมด
หลังจากที่รู้ความลับนี้เหวินเหรินชิ่งชิ่งก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
นางยืนนิ่งอยู่ที่เดิมตัวแข็งทื่อ แม้แต่ลูกตายังไม่กลิ้งกลอก
“นี่! เหวินเหรินชิ่งชิ่ง” ลู่เสวียนเห็นท่าทางที่นิ่งไปของนางจึงตะโกนเรียกแต่กลับยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง นางทำได้เพียงมองเจียงหลีแล้วถามว่า “นางคงไม่ตกใจจนโง่ไปแล้วใช่ไหม”
“เจ้าสิโง่!”
ใครจะรู้เจียงหลียังไม่ทันตอบ เหวินเหรินชิ่งชิ่งก็ตะโกนขึ้นมาดังจนหูของลู่เสวียนอื้อไปเลย
“ซี๊ดด!” ลู่เสวียนเอามืออุดหู ถอยห่างจากทั้งสองคนแล้วด่าเหวินเหรินชิ่งชิ่งอย่างไม่เกรงใจ “เจ้าเป็นบ้ารึ! คนบ้า!”
เหวินเหรินชิ่งชิ่งกลับไม่สนใจเขา เพียงแต่กลั้นหายใจเบิกตาโตแล้วมองไปยังเจียงหลี
จริงสิ นางสามารถปลอมเป็นเจวียนเอ๋อร์ได้เหมือนจนแม้แต่ข้าก็มองไม่ออก ปลอมเป็นคนอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึงกระมัง เหวินเหรินชิ่งชิ่งยิ้มเจื่อน
ที่น่าขันคือจักรพรรดินีแห่งจยาเซียนได้ไปเยือนเป่ยโหรวมาแล้วแต่ไม่มีใครรู้เลย อีกทั้งฮ่องเต้แห่งเป่ยโหรวยังคิดจะร่วมมือกับลู่เสวียนจัดการนางทั้งภายในและภายนอก
ทันใดนั้นสีหน้าของเหวินเหรินชิ่งชิ่งก็เปลี่ยนไปแล้วพูดเสียงเบาออกมาว่า “แล้วคุณชายจิ่ง”
นางเดาอะไรได้บางอย่างแต่สุดท้ายก็หุบปาก เพียงแต่ความตะลึงในแววตาของนางยากที่ปิดบังได้
เจียงหลียิ้ม “ชิ่งชิ่ง เจ้ามาถึงที่นี่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เรื่องราวในอดีตทั้งหมดก็ลืมมันไปเสียเถิดนะ”
แววตาของเหวินเหรินชิ่งชิ่งมีความเหม่อลอย
จริงสิที่นางตอบตกลงจะจากเป่ยโหรวมา ไม่ใช่เพื่อจะตัดขาดกับเรื่องราวในอดีตหรอกหรือ
เมื่อในใจปล่อยวาง เหวินเหรินชิ่งชิ่งยิ้มออกมา “ข้าเพียงแต่คิดไม่ถึงและตกใจที่จักรพรรดินีจยาเซียนแห่งดินแดนใต้หนานฮวงจะเคยปลอมตัวเป็นสาวใช้อยู่ข้างกายข้า”
“ไม่ว่าฐานะของข้าจะเป็นอะไร พวกเราก็คือสหายกัน” เจียงหลีพูดอย่างจริงใจ เรื่องราวมากมายที่เจอมาในเป่ยโหรว เหวินเหรินชิ่งชิ่งไม่เคยไม่ช่วยเลย คอยอยู่เคียงข้างพวกเขามาตลอดถึงขนาดเล่าความลับที่อยู่ลึกๆ ในใจให้นางฟัง
ความสัมพันธ์เช่นนี้ จะยังเรียกว่าเพื่อนไม่ได้อีกรึ?
“สหาย…อย่างนั้นหรือ เจ้ายอมรับข้าเป็นเพื่อนจริงๆ หรือ” เหวินเหรินชิ่งชิ่งประหลาดใจเล็กน้อย
เจียงหลีเลิกคิ้ว “เพื่อนไม่ได้อาศัยการยอมรับ ถูกชะตาแล้วก็คือเพื่อนกัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหวินเหรินชิ่งชิ่งยิ่งดูซาบซึ้งมากยิ่งขึ้น แววตาเปล่งประกายแล้วพยักหน้า “อืม พวกเราคือเพื่อนกัน!”
“มิตรภาพของเด็กผู้หญิงคนนี้ เข้าใจยากจริงๆ!” ลู่เสวียนดูอยู่ข้างๆ ยื่นมือออกมาเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ
เจียงหลีหันไปมองเขาส่ายหัวแล้วพูดว่า “ความฉลาดทางอารมณ์ของเจ้านี่ยังคงน่าเป็นห่วงจริงๆ นะ!”
“…” ลู่เสวียนที่จู่ๆ ก็โดนด่า แม้จะอัดอั้นตันใจแต่ก็ระบายออกมาไม่ได้
“ชิ่งชิ่ง เจ้าเพิ่งมาถึงราชวงศ์จยาเซียน อะไรๆ ก็ยังไม่คุ้นเคย อยากจะลองเดินเที่ยวดูก่อน หรือว่าอยากจะไปฝึกฝนที่สถาบันไป๋หยวนเลย เรื่องที่จะไปซีฮวง ข้าได้เตรียมการไว้แล้ว นานสุดหนึ่งเดือน พวกเจ้าก็สามารถออกเดินทางได้” ท่าทางที่เจียงหลีปฏิบัติต่อเหวินเหรินชิ่งชิ่งนั้นดีมากจริงๆ
ลู่เสวียนเบะปากแล้วยิ่งรู้สึกน้อยใจ
เหวินเหรินชิ่งชิ่งรู้สึกตะลึงในความเมตตาที่ได้รับ นางยังไม่ชินกับฐานะจักรพรรดินีของเจียงหลี ชั่วครู่เดียวก็ถามอย่างเข้าใจความคิดนางเช่นนี้ ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะคิดแทนอีกฝ่าย “แต่ว่าขบวนส่งเจ้าสาวยังอยู่จะไม่สนใจอะไรเลยหรือ”
“สนอะไร เจ้าไม่ได้จะให้ข้าแต่งงานกับเจ้าจริงๆ หรอกใช่หรือไม่” ลู่เสวียนพูดอย่างจริงจัง
“เจ้าหุบปากไปเลย!”
“เจ้าหุบปากไปเลย!”
เจียงหลีและเหวินเหรินชิ่งชิ่งพูดขึ้นมาพร้อมกัน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์