“ธิดาสวรรค์ ยังมีเรื่องที่เจ้าไม่รู้ หลังจากที่ข้าเป็นนักสังหารระดับสัญลักษณ์สีทอง ข้าให้สาบานไว้แล้วว่าจะไม่ฆ่าคนในถ้ำสวรรค์อีก” จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ย
“อย่างนั้นก็ดี ข้าฆ่าเจ้า” เจียงหลีหัวเราะ
“…” จอมยุทธ์ตะลึง เขา…เขาทำบาปกรรมอะไรมา เขาถอนหายใจยาวๆ แสดงสีหน้าจริงจัง “ธิดาสวรรค์ เจ้ายังหลับไม่ตื่นอยู่ใช่หรือไม่ ถึงแม้ชีวิตในถ้ำสวรรค์อาจไม่ดีนัก ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็มีโอกาสที่ยังได้มีชีวิต ทำไมถึงคิดสั้น”
ทันใดนั้น เหมือนกับเขาคิดอะไรได้ ส่งเสียงในใจ อ๋อ “เจ้าอยากได้ระดับสัญลักษณ์สีทองของข้าหรือ”
มุมปากเจียงหลีตึง ยากที่จะอธิบายเจ้า “เจ้าจะคิดเช่นนั้นก็ย่อมได้”
“ธิดาสวรรค์ ข้าคิดว่าตัวข้าจริงใจกับพวกเจ้า ทำไมเจ้าถึงทำกับข้าเช่นนี้” จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ยอย่างชิงชัง
เจียงหลีตัดบท “เจ้าแค่พูดมา ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยข้า ไม่ว่าอย่างไร หากเจ้าไม่ตกลง ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง”
“ธิดาสวรรค์พูดออกมาอย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้ ข้าจะทำร้ายบุปผางามได้เช่นไร แต่คงทำได้เพียงทำตามสิ่งที่เจ้าขอ ข้าไม่อาจลงมือได้ที่นี่ พรุ่งนี้พวกเราออกไปประลองกันว่าอย่างไร” จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“ดี” เจียงหลีพยักหน้า หันตัวกลับไปแล้วเดินออกไปจากห้องเขา
“เป็นบ้าอะไรนะ นึกไม่ถึงว่าจะมารนหาที่ตาย” จอมยุทธ์หนุ่มพูดพึมพำ
ทันใดนั้น เขารู้สึกประหลาดใจ “นางถามแต่เรื่องยันต์ธาราทมิฬ หรือว่านางจะโดนคนใช้ยันต์ธาราทมิฬเล่นงาน แต่คงไม่ใช่! มีเพียงความตาย ถึงจะกำจัดยันต์ธาราทมิฬได้ หากนางเลือกที่จะตายเพื่อกำจัดยันต์ธาราทมิฬ เปลี่ยนจากคนเป็นที่โดนควบคุมกลายเป็นคนตายที่อิสระ นี่มันได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ!”
จอมยุทธ์หนุ่มคิดจนคิ้วขมวด ก็คิดไม่ออกว่าเจียงหลีคิดอะไรอยู่
อ๊ากกกก! เขาทึ้งผมตัวเองจนยุ่ง
หลังจากเจียงหลีออกมา ก็กลับไปที่ห้องตนเอง หยอกล้อเจ้าเปี๊ยกที่นอนอยู่ตลอดเวลา ความเคร่งขรึมปรากฏอยู่บนใบหน้า
นางยังไม่เคยใช้วิญญาณยุทธ์นกอมตะไม่รู้ว่าหลังจากถูกฆ่า สถานการณ์จะเป็นเช่นไร ในความไม่แน่นอนนี้ ทำให้นางไม่อาจจะใช้วิญญาณยุทธ์นกอมตะอย่างตามอำเภอใจ
ไม่เช่นนั้น หากแผนการแกล้งตายถูกเปิดโปง ไม่แน่ว่าไพ่ที่อยู่ในมือก็อาจโดนเปิดโปงไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสีย
ดังนั้น ทางที่ดีสุดต้องหาคนที่น่าเชื่อถือเพื่อฆ่านางในถ้ำสวรรค์…
หลังจากใกล้ชิดมาสองวัน ชิงหว่านไม่สามารถฆ่านางในถ้ำสวรรค์ได้ ไม่อย่างนั้นจะโดนลงโทษ ทางเลือกเดียวของนางคือจอมยุทธ์หนุ่มคนนั้นแล้ว
ชายหนุ่มคนดีนี้ดูแล้วอาจจะดูไม่จริงจังต่อเรื่องราวใดๆ พูดจากะล่อนปลิ้นปล้อน แต่ดูแล้วยังนับว่าเป็นคนมีคุณธรรม ที่สำคัญคือนางไม่ได้มีผลโยชน์โดยตรงต่อเขา ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกัน
ต่อให้ตอนที่ฟื้นคืนชีพ อาจทำให้เขาสงสัย แต่คงไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากทางฝั่งสำนักพรตเสวียนหมิง
…
วันถัดมา ฟ้าเพิ่งสว่าง เจียงหลียกเท้าถีบประตูห้องของจอมยุทธ์หนุ่ม
แต่ทว่า เหตุการณ์ภายในห้อง ทำให้นางยิ้มอย่างเย้ยหยัน หนีไปแล้ว นางคิดไม่ถึงว่า ชายหนุ่มผู้นี้จะกลัวการต่อสู้ ในเมื่อไม่อยากฆ่านางและก็ไม่อยากโดนนางฆ่า จึงเลือกที่จะหนีไปตอนกลางคืน
บนกำแพงห้อง ยังเขียนอักษรทิ้งไว้ เมื่อพบย่อมมีเวลาจาก หญิงงามทั้งสอง หากข้ามีวาสนา คงได้พบกันอีกครั้ง
“ช่างน่าประหลาดใจจริง ระดับสัญลักษณ์สีทองของเขาได้มาอย่างไรกันนะ” เจียงหลียิ้มเยาะเย้ย
มีประสบการณ์เป็นนักสวรรค์อยู่ในถ้ำสวรรค์มาตั้งนาน นึกไม่ถึงเลยว่ายังคงรักษานิสัยเดิมไว้ได้ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเป็นนักสังหาร คนนี้นับว่าน่าชื่นชมนัก
“อ้าว! จอมยุทธ์หนุ่มล่ะ” เงาของชิงหว่านปรากฏอยู่ด้านหลังของเจียงหลี
“หนีไปแล้ว” เจียงหลีหันกลับมา แล้วเดินออกจากห้องไป

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์