“นี่…”
กงเสวี่ยฮวาอยากจะเรียกเจียงหลีไว้ แต่สุดท้ายแล้วก็เดินตามเจียงหลีไป
เมื่อเห็นเจียงหลีเดินเข้ามา คนผู้นั้นครุ่นคิดและพูดคุยกับคนข้างๆ สักครู่ จากนั้นก็เดินมาทางเจียงหลี
“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าจริงๆ” คนผู้นั้นพูด
มุมปากของเจียงหลียกยิ้มขึ้น “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ มู่ชิงเหยียน” คนผู้นี้คือองค์หญิงแห่งราชวงศ์
โฮ่วจิ้นที่แอบรักพี่ชายของนาง
เป็นศัตรูกันในตอนนั้น จนท้ายสุดก็แยกทางกันไปราวกับยังอยู่ในสายตา
“ใช่! นานมากแล้วจริงๆ” มู่ชิงเหยียนพยักหน้าพร้อมเอ่ยด้วยความเสียใจ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่ทําให้ชีวิตตัวเองถูกโค่นล้ม มู่ชิงเหยียนไม่ได้แสดงความเกลียดชังออกมาเหมือนโจวยวนในตอนนั้น นางนิ่งมาก ทำให้เจียงหลีรู้สึกเหมือนเป็นสหายเก่าที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
นอกจากความประหลาดใจในตอนแรกแล้ว มู่ชิงเหยียนเพียงแค่แสดงสีหน้าสงบนิ่งออกมา
ดูเหมือนนางสามารถวางเรื่องราวที่ผ่านมาได้นานแล้ว
ไม่ได้เจอกันหลายปี มู่ชิงเหยียนดูสวยกว่าแต่ก่อนมาก แต่อารมณ์บุคลิกดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความสง่างามขององค์หญิงในตอนนั้นกลายเป็นสงบนิ่งและกร้านโลกในตอนนี้
ขณะที่เจียงหลีกำลังสังเกตนาง มู่ชิงเหยียนก็กำลังสังเกตเจียงหลีอยู่เช่นกัน ในตอนนั้น เจียงหลียังเด็ก ใบหน้ายังไม่โตเป็นสาว ยังคงเป็นแค่สาวน้อยหน้าตางดงาม แต่ตอนนี้ นางมีเสน่ห์ชวนหลงใหล แม้แต่หญิงสาวอย่างนางเองก็ยังมิอาจละสายตาได้
“เจ้า…”
“มู่ชิงเหยียน เจ้าเสร็จหรือยัง ไปกันเถิด” เสียงที่ดังขัดจังหวะคำพูดของมู่ชิงเหยียน
สีหน้าของนางเปลี่ยนไป นางหันไปมองสหายที่อยู่ข้างหลัง
เจียงหลีเงยหน้ามองหญิงสาวสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ไกลนักของมู่ชิงเหยียน สีหน้าของพวกนางหยิ่งยโส และให้ความรู้สึกเหนือกว่า สายตาที่มองมู่ชิงเหยียนนั้นดูไม่ดีนัก
“ข้าขอตัวก่อน” มู่ชิงเหยียนเก็บคำพูดที่ตั้งใจจะพูดและกล่าวคำอำลากับเจียงหลี ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับสหายของนาง
เจียงหลีมองแผ่นหลังของนางพลางถอนหายใจ
องค์หญิงในอดีต ตอนนี้กลับถูกคนเรียกให้จะมาก็มาจะไปก็ไป เกรงว่าก่อนหน้านั้น นางคงจะผ่านอะไรมาไม่น้อย
เจียงหลีเดาออกว่าเมื่อครู่นี้มู่ชิงเหยียนอยากจะพูดแต่ไม่ทันได้พูดจบ อยากจะถามถึงเจียงเฮ่า นางยังคงไม่ลืมเจียงเฮ่า ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่
“ไปกันเถอะ คนก็ไปแล้ว” กงเสวี่ยฮวามาถึงข้างๆ เจียงหลีและเตือนนาง
เจียงหลีหันกลับไปมองเขา แต่เขากลับพูดกับตัวเองว่า “ไม่คิดว่าคนของเขาเฟิ่งอู่ซานก็มาด้วย”
“เขาเฟิ่งอู่ซานอย่างนั้นหรือ” เจียงหลีเลิกคิ้วขึ้น
กงเสวี่ยฮวาพยักหน้า” และเดินไปพูดไป
จากนั้น เขากับเจียงหลีก็ออกจากตลาดและเดินไปในทิศทางของซากกำแพงอวิ๋นเมิ่ง
“เขาเฟิ่งอู่ซานเป็นกลุ่มอำนาจระดับกลางในพื้นที่นี้ เมื่อเทียบกับสำนักพรตเสวียนหมิงก่อนหน้าของเจ้านั้นจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในบรรดากลุ่มอำนาจระดับกลางนั้นก็เป็นพวกที่ค่อนข้างอ่อนแอทั้งนั้น แต่นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาภาคภูมิใจ ที่จริงแล้ว นอกจากเขาเฟิ่งอู่ซานแล้วก็ไม่มีกลุ่มอำนาจระดับกลางอื่นๆ อยู่ใกล้ละแวกนี้ สหายของเจ้าดูเหมือนไม่ได้มีความสุขในเขาเฟิ่งอู่ซานเลยนะ เพียงแค่สาวใช้สองคนก็สามารถเรียกชักจูงนางไปไหนมาไหนก็ได้”
เจียงหลีกวาดมองเขา “ท่านนี่รู้ไปเสียทุกเรื่องจริงๆ”
กงเสวี่ยฮวาหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ออกบ้านไปเที่ยวไหนมาไหนก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสิ”
…
ได้พบกับมู่ชิงเหยียนเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
หลังจากแยกกัน เจียงหลีก็ไม่คิดมากอีก เมื่อเดินทางไปถึงซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งพร้อมกับกงเสวี่ยฮวา บริเวณลานกว้างใต้กำแพงที่พังทลายก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์